จากกรณีที่ในช่วงเช้าวันนี้ 16 ก.ค.2568 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุความวุ่นวายที่ประสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์วานนี้ว่า เป็นเรื่องที่ไม่อยากให้เกิด ซึ่งทราบว่ามีการยั่วยุ โดยพยายามสั่งให้เจ้าหน้าที่ไทยระมัดระวังและอดทนอดกลั้นให้มากที่สุด รวมถึงพยายามป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีก แต่ก็ต้องคอยระวัง เพราะกัมพูชาจะใช้กลยุทธ์แบบนี้ในการทำให้เกิดการประทะกัน เกิดความรุนแรง ซึ่งจะถูกนำไปใช้ในเรื่องระหว่างประเทศได้ แต่กำลังพลของไทยส่วนใหญ่เข้าใจ ยืนยันว่าจะพยายามทำให้ดีที่สุด ไม่ใช้กำลังแก้ปัญหา และไม่ให้ถูกกล่าวหาว่าเราทำให้เกิดความรุนแรง เพื่อจะเอาพื้นที่กลับมา สำหรับปราสาทตาเมือนธก็มีมาตรการในการป้องปรามอยู่แล้ว เปิดบางส่วนปิดบางส่วน ก็ต้องดูเป็นพื้นที่ และเป็นอำนาจในการควบคุมดูแลของแม่ทัพภาคที่ 2
เมื่อถามว่า กังวลจะมีเหตุซ้ำรอยหรือไม่ เพราะกัมพูชายั่วยุมา ส่วนฝ่ายไทยก็มีอดีตทหารพรานไปชกหน้าทหารกัมพูชา นายภูมิธรรม กล่าวว่า ก็เป็นเรื่องที่ต้องพยายามอย่าปลุกความเกลียดชัง สิ่งที่เราห่วงใยคือการปะทะแล้วจะเลยเถิดไปถึงความรุนแรงที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะประชาชนชาวไทยที่อยู่แนวชายแดน และทหาร เพราะถ้ากระทบขึ้นมาก็ไม่ดียืนยันว่ารัฐบาลไม่พอใจกัมพูชาอย่างมากอยู่แล้ว และในแง่การดำเนินการทางการทูต รัฐมนตรีต่างประเทศก็ได้ดำเนินการแต่ละขั้นตอน มีการพิจารณาเรียกทูตกลับอะไรต่างๆ อยู่แล้ว ก็เป็นมาตรการที่รุนแรงที่สุดในทางการทูต ฉะนั้นตรงนี้อย่าตกอยู่ในเกมของเขา และอย่าไปฟังเชื่อถือนฮุนเซนมาก เพราะไม่ใช่แค่ประเทศไทย แต่ในต่างประเทศก็ไม่มีเครดิต ในการประชุมนานาชาติในช่วงที่ผ่านมาได้รับรายงานจากกระทรวงต่างประเทศว่า ไม่มีการหยิบยกเรื่องกัมพูชาขึ้นมา เพราะฉะนั้นต่างประเทศไม่ได้สนใจเรื่องนี้ โดยเฉพาะกลุ่มภาคีต่างๆก็ไม่มีเรื่องนี้เข้าไปอยู่ในวาระ แสดงว่าเขาไม่ได้เชื่อถือ
นายภูมิธรรม กล่าวย้ำอีกว่า อะไรก็ตามที่ฮุนเซนได้พูดมา จริงๆก็ไม่ใช่ผู้นำกัมพูชา ในทางการไม่ได้เกี่ยวข้องกับนายฮุนมาเนต ฉะนั้นนายฮุนเซนเป็นเพียงแค่คนๆ หนึ่ง ที่มีตำแหน่งประธานวุฒิสภา แล้วก็ไม่ได้มีอำนาจในการเจรจาพูดคุย เรื่องนี้ตนคิดว่าท่านแสดงตัว แต่นั่นเป็นเรื่องในประเทศเขา เขาก็ต้องไปจัดการว่าตกลงใครกันแน่เป็นผู้นำสูงสุด เเราพูดคุยเรายึดหลักกฎหมายระหว่างประเทศ คุยเฉพาะนายฮุนมาเนต ส่วนฮุนเซนถือว่าเป็นคนรอบข้างที่มีอิทธิพลจริง แต่ถึงเวลาแล้วก็ไม่ใช่คนที่จะสามารถสรุปอะไรได้ เว้นแต่ไปใช้อิทธิพลในการคุยกับนายกฯ ของประเทศเขา
นายภูมิธรรม ยังขอให้พี่น้องประชาชนมีความอดทนอดกลั้น เราพยายามจัดการปัญหานี้ให้ดีที่สุด เพื่อไม่ให้ประเทศไทยเสียประโยชน์ และเราคำนึงว่าอธิปไตยของประเทศไม่อาจยอมได้ ซึ่งเราไม่อาจยอมได้ไม่ว่าจะเป็นความสัมพันธ์ของใคร อย่างไร และในการพูดคุยหรือเอาประโยชน์ รัฐบาลไทยชุดนี้จะไม่เปิดโอกาสให้ทำอย่างนั้นได้ และจะจัดการอย่างเต็มที่ ถ้าหากมีเหตุการณ์แบบนั้นเกิดขึ้น