จับแล้ว สาวมิจฉาชีพ ตุ๋นเงิน “อดีตพีดีมิสแกรนด์” เครียดหนักก่อนจบชีวิต

จับแล้ว สาวมิจฉาชีพ ตุ๋นเงิน “อดีตพีดีมิสแกรนด์” เครียดหนักก่อนจบชีวิต

จับแล้ว สาวมิจฉาชีพ ตุ๋นเงิน “อดีตพีดีมิสแกรนด์” เครียดหนักก่อนจบชีวิต

 

ข่าวที่น่าสนใจ

จากกรณีข่าวเศร้าวงการนางงาม หลังจากที่ นายพิชญ์ศุธางศ์ ไขแสงทอง หรือ อั้ม อายุ 38 ปี อดีตพีดีมิสแกรนด์ขอนแก่น และช่างแต่งหน้านางงามหลายเวที ตัดสินใจจบชีวิตตัวเองลงที่บ้านพักในพื้นที่ จ.สุพรรณบุรี เมื่อวันที่ 10 ก.ค.ที่ผ่านมา หลังถูกมิจฉาชีพหลอกลงทุนผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว สูญเงินไปหลายหมื่นบาท

 

ต่อมาเมื่อวันที่ 15 ก.ค.68 พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผบช.ภ.7 พร้อมด้วย พล.ต.ต.พงศ์พันธ์ วงษ์มณีเทศ ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.นครปฐม สนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน บช.ภ.8 จับกุมตัว น.ส.นลินทิพย์ เฮงวิเชียร อายุ 28 ปี ภูมิลำเนา จ.สงขลา ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนครปฐม เลขที่ จ.646/2568 ลงวันที่ 14 ก.ค.68 ข้อหา เปิดหรือยินยอมให้ผู้อื่นใช้บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์หรือบัญชีอิเล็กทรอนิกส์ของตน โดยจับกุมตัวได้ที่บ้านพักในพื้นที่ อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช

 

โดยก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 6 ก.ค.68 นายพิชญ์ศุธางศ์ ผู้ตาย ได้เดินทางเข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.ภูวิช ศรีคุ้ม รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.กำแพงแสน จ.นครปฐม ว่า เมื่อวันที่ 4 ก.ค.68 เวลาประมาณ 15.36 น. ขณะที่ผู้แจ้งได้เข้าไปเล่นเฟซบุ๊ก มีเฟซบุ๊ก ชื่อ บจก.ทรัพย์ไพศาล แอดเข้ามาชักชวนลงทุน โดยผู้แจ้งจึงได้โอนเงินจากบัญชีส่วนตัว ไปยังบัญชีพร้อมเพย์ เลขที่ 140000963024658 ชื่อบัญชี นลินทิพย์ เฮงวิเชียร จำนวนเงิน 1,560 บาท ต่อมาได้เชิญชวนให้เปิดบิลเยอะกว่านี้เพื่อให้ทุนหมุนเวียนเยอะขึ้น

มีการวางแผนออกอุบายให้ผู้แจ้งเปิดบิล วีไอพี ที่ยอด 25,000 บาท ผู้แจ้งจึงได้โอนเงินจากบัญชีส่วนตัว ไปยังบัญชีพร้อมเพย์  ชื่อบัญชี นลินทิพย์ เฮงวิเชียร จำนวนเงิน 5,000 บาท 5 ครั้ง ต่อมาได้ชักชวนให้เปิดบิลเป็นบิลทองค้ำประกันอีก และให้โอนเงินทั้งหมด 10 งวด งวดละ 5,000 บาท ผู้แจ้งจึงได้โอนเงิน ไปยังบัญชีพร้อมเพย์ ชื่อบัญชี นลินทิพย์ เฮงวิเชียร จำนวนเงิน 5,000 บาท 10 ครั้ง ต่อมาเฟซบุ๊กดังกล่าวไม่ได้ทำตามข้อตกลง จึงรู้ว่าถูกหลอกลวง จึงได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.กำแพงแสน จ.นครปฐม ก่อนนำหลักฐานใบแจ้งความโพสต์ลงในเฟซบุ๊ก และตัดสินใจจบชีวิตลงเพราะความเครียดในที่สุด

 

ซึ่งหลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจหลายหน่วยงาน ได้ทำการตรวจสอบพยานหลักฐาน รวมถึงเส้นเงินที่ผู้ตาย โอนไปยังบัญชี ของผู้ต้องหา พบ ว่า ในอดีต น.ส.นลินทิพย์ เคยถูกดำเนินคดีข้อหาข้อโกงมาแล้ว ปัจจุบันพักอยู่กับสามี ที่บ้านในพื้นที่อำเภอทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช มีบุตร จำนวน 4 คน ขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจนำกำลังเข้าจับกุม ก็กำลังตั้งครรภ์ลูกแฝดในท้อง ใกล้คลอด อีก 1 คู่

 

เบื้องต้นจึงถูกเชิญตัวไปทำบันทึกจับกุมที่ สภ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช โดยชุดคลี่คลายคดีเชื่อว่า น.ส.นลินทิพย์ น่าจะวางแผนก่อเหตุด้วยตนเอง นำเงินมาใช้เอง ไม่ใช่บัญชีม้า แต่อย่างใด เนื่องจากหลักฐานเส้นเงินที่ผู้เสียหายโอนเข้าบัญชีไป พบว่า ไม่ได้มีการโอนต่อไปยังบัญชีอื่นๆ ในลักษณะกระทำเป็นขบวนการ อย่างไรก็ตามจะพามาสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง ที่ สภ.กำแพงแสน จ.นครปฐม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

อาลัยเศร้า วงการสาธารณสุข สูญเสีย "นพ.สงคราม ทรัพย์เจริญ" แพทย์ประจำพระองค์ "ในหลวง ร.9" ปูชนียบุคคล ผู้ริเริ่มรณรงค์การงดสูบบุหรี่
ไม่ทอดทิ้ง "กองทัพไทย" มอบทุนการศึกษาแก่ "บุตรกำลังพลผู้เสียสละ" ปกป้องอธิปไตย รักษาความสงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้
"ภูมิธรรม" สวนกลับ "พริษฐ์" ปชน.อยู่ฝ่ายไหนแน่ มาชวนเพื่อไทยเป็นฝ่ายค้าน มั่นใจไม่มีสมาชิกพรรคลาออกเพิ่ม
ฉะเชิงเทรา ผู้ว่าฯ มอบโฉนดที่ดินให้ชาวบ้าน 33 ราย 36 แปลง
สมุทรปราการ ชาวบ้าน เผยนาทีชีวิต หนุ่มวัย 17 เข็น จยย.ลุยน้ำท่วมถูกไฟรั่วดูดดับสลด
สมุทรปราการ ยังอ่วม หลายจุดน้ำยังท่วมขัง โรงเรียน 25 แห่ง ปิดเรียนออฟไลน์ ปรับสอนออนไลน์แทน

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​