AFP รายงานว่าเหมา หนิงโฆษกกระทรวงต่างประเทศจีนออกมาแถลงในวันนี้ (พุธที่ 9 กค.) โดยกล่าวว่าจีนหวังว่าสหภาพยุโรปหรืออียูจะเข้าใจและเริ่มตระหนักว่าสิ่งที่อียูจะต้องปรับคือ ความสมดุล ”ทางความคิด” ไม่ใช่ปรับสมดุลทางเศรษฐกิจกับจีน เพื่อเป็นการตอบโต้หลังจากเออร์ซูล่า ฟอน แดร์ ไลเอิน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรปออกมากล่าวเมื่อวานนี้ (อังคารที่ 8 กค.) ว่าอียูจะแสวงหาความสมดุลทางการค้ากับจีน พร้อมกับเรียกร้องจีนให้ผ่อนคลายการเข้าถึงตลาดจีนของบริษัทสัญชาติยุโรป รวมทั้งขอให้จีนลดมาตรการควบคุมการส่งออกแร่หายาก ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญของอุปกรณ์อิเลคทรอนิกและมีความสำคัญต่ออุตสาหกรรมการผลิตสินค้าเทคโนโลยีระดับสูงมากมาย
แดร์ ไลเอินยังบอกด้วยว่าจีนเกินดุลทางการค้าครั้งใหญ่ที่สุดของประวัติศาสตร์มนุษยชาติ ด้วยการส่งออกสินค้าจำนวนมหาศาลเข้าสู่ตลาดอียู ขณะเดียวกันก็กำหนดเงื่อนไขต่างๆที่เป็นอุปสรรคต่อบริษัทของอียูในการเข้าถึงตลาดจีน โดยเปิดเผยตัวเลขการขาดดุลการค้าว่ามีมูลค่าสูงถึง 3 แสน 5 หมื่น 7 พันล้านดอลล่าร์สหรัฐหรือมากกว่า 11 ล้านล้านบาทในปีที่แล้ว (2567)
แดร์ ไลเอินซึ่งจะเดินทางเยือนปักกิ่งพร้อมกับอันโตนิโอ คอสต้า ประธานสภาอียูในเดือนนี้กล่าวด้วยว่าเธอจะขอให้จีนผ่อนคลายเงื่อนไขการส่งออกเเร่หายาก ขณะเดียวกันก็จะมองหาแหล่งแร่จากที่อื่นเพื่อเป็นทางเลือก
ทั้งนี้เหมาหนิงได้โต้กลับว่าภายใต้สถานการณ์ที่กำลังวุ่นวาย อียูและจีนควรแก้ปัญหาความแตกต่างและความขัดแย้งอย่างเหมาะสม และจีนหวังว่าอียูจะมองจีนอย่างมีความเป็นกลางและสร้างความเข้าใจต่อจีนอย่างมีเหตุผลมากกว่านี้ รวมทั้งดำเนินนโยบายกับจีนในทางบวกและมีความเป็นไปได้มากขึ้น