“ตร.ไซเบอร์” ประกาศล่า “ก๊ก อาน” นายทุนใหญ่แก๊งคอลฯ คนสนิทฮุนเซน แจงชัดกัมพูชาไม่ให้ความร่วมมือจับตัว

“ตร.ไซเบอร์” ประกาศล่า “ก๊ก อาน” นายทุนใหญ่แก๊งคอลฯ คนสนิทฮุนเซน แจงชัดกัมพูชาไม่ให้ความร่วมมือจับตัว

วันนี้ 9 ก.ค. 68 พลตำรวจโท ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ ผบช.สอท.ให้สัมภาษณ์กับท็อปนิวส์ ในรายการจับตาประเทศไทย กรณี ออกหมายจับ นายก๊ก อาน นายทุนใหญ่แก๊งคอลเซ็นเตอร์ คนสนิทสมเด็จ ฮุนเซน อดีตนายกรัฐมนตรี กัมพูชา กระทั่งวานนี้ได้ออกหมายค้นบ้าน นายก๊ก อาน 19 จุด ทั้ง กทม.สมุทรปราการ และชลบุรี ว่า ตอนนี้ยังจับนาย ก๊ก อาน ไม่ได้ แต่ตำรวจไซเบอร์ได้ออกหมายจับไว้แล้ว ในข้อหามีส่วนร่วมในการก่ออาชญากรรมข้ามชาติ

 

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

พลตำรวจโท ไตรรงค์ ได้ให้ข้อมูลอัปเดต เกี่ยวกับผู้ต้องหาที่จับได้ล่าสุด ซึ่งหลายคนตั้งข้อสังเกตว่า มีความใกล้ชิดกับตัวนายก๊ก อาน อย่างไร ว่า อันดับแรกต้องแยกการปฏิบัติของตำรวจไซเบอร์ ดังนี้ เราดำเนินคดีเรื่องแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หรือ องค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ซึ่งเป็นความรับผิดชอบของตำรวจไซเบอร์อยู่แล้ว พูดง่ายๆ ว่าเป็นต้นคดีเรื่อง ที่นำมาสู่การดำเนินคดีของนายก๊ก อาน โดยขอศาลอนุมัติหมายจับ นอกจากนี้ยังถือเป็นคดีในความรับผิดชอบของตำรวจไซเบอร์ ที่ต่อเนื่องจากปีที่แล้ว เพราะเราทำคดีนี้ตั้งแต่ปี 66-68 ซึ่งมีทั้งหมด 4 คดี

พลตำรวจโท ไตรรงค์ กล่าวอีกว่า สำหรับคดีล่าสุดนั้นเป็นคุณหมอที่จังหวัดเชียงราย ถูกแก็งคอลเซ็นเตอร์หลอกให้ลงทุน สูญเงินไป 30 กว่าล้าน เป็นคดีที่ออกหมายจับผู้ต้องหาไปแล้ว 35 คน โดยเช้าวันนี้ (9 ก.ค.68) ได้ตรวจค้นสถานที่ที่มีความเกี่ยวข้องกับนายก๊ก อาน และได้พบผู้ต้องหารายสำคัญที่ตำรวจไซเบอร์ ได้ออกหมายจับไว้ ในคดีแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่จังหวัดเชียงรายก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นชาวไทย และได้หลบหนีกลับมาที่ประเทศไทยและจับกุมได้เมื่อเช้านี้ ซึ่งผู้ต้องหาคนดังกล่าว เป็นผู้ที่รวบรวมบัญชีม้า และทำหน้าที่ในออฟฟิศสแกนใบหน้า อยู่ที่ตึก 25 ชั้น ที่ประเทศกัมพูชา ถือว่าในคดีนี้เราสามารถจับผู้ต้องหาได้หลายชั้น หลายระดับและระดับ โดยมีนายก๊ก อาน เป็นเจ้าของตึก ซึ่งเป็นคนที่ตำรวจไซเบอร์ ได้ออกหมายจับไปก่อนหน้านี้

 

 

 

เมื่อถามว่าวานนี้การจากไปตรวจค้นบ้าน จำนวน 19 จุด และบ้านในหลายจุดของ นายก๊ก อาน มีชื่อของลูกสาวเป็นเจ้าของบ้าน โดยทราบชื่อว่า “จูรี” หรือ “เชอร์รี่” และมีบัตรประชาชนเป็นชาวไทย พลตำรวจโท ไตรรงค์ กล่าวว่า ทางกฎหมายต้องยึดถือว่าเจ้าของบ้าน มีความสัมพันธ์กับนายก๊ก อาน อย่างไร ซึ่งเราได้สอบสวนไปแล้ว แต่เนื่องจากคนที่เป็นเจ้าของบ้าน ที่ชื่อว่า เชอร์รี่ มีบัตรประชาชนของคนไทยด้วย เราจึงต้องตรวจสอบว่าได้มาอย่างไร ซึ่งเรื่องนี้ขัดแย้งกับข้อมูลที่ตำรวจไซเบอร์ ได้รับมาจากการสอบสวน พูดง่ายๆ ว่าข้อมูลทางทะเบียนไม่ตรง กับข้อมูลที่ตำรวจไซเบอร์มี ต้องตรวจสอบประเด็นนี้ให้กระจ่าง เพราะมีประชาชนเกิดความสงสัยในเรื่องนี้ และตอนนี้ จุรี หรือ เชอร์รี่ ได้เดินทางไปต่างประเทศ

พร้อมกันนี้ พลตำรวจโท ไตรรงค์ ยอมรับว่าไม่ได้รับความร่วมมือ จากตำรวจกัมพูชาเท่าที่ควร ประกอบกับบรรยากาศการเมืองแบบนี้ และก่อนหน้านี้เรื่องการปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ทั้งตึก 18 และ 25 ชั้น และตึกคลาวด์กาสิโน ซึ่งปีที่แล้วเราได้ส่งตำรวจไซเบอร์ ไปรออยู่ที่กัมพูชานับเดือน เพื่อจะชี้เป้าให้ว่ามีการทำความผิดที่ตึกของนายก๊ก อาน และขอให้ทางตำรวจกัมพูชาช่วยจับให้ด้วย แต่เราไม่เคยได้รับความร่วมมือเลย ซึ่งครั้งนั้นตำรวจไซเบอร์ ได้ออกหมายจับไว้ 165 หมายจับ ซึ่งใน 165 หมายจับ มีชาวกัมพูชาเพียงเล็กน้อย อีกส่วนหนึ่งเป็นคนไทย และคนจีน

ส่วนประเด็นที่สมเด็จ ฮุนเซน โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก ว่า ปฏิบัติการณ์ปราบอาชญากรรม ที่เกิดขึ้นในประเทศไทย เท่ากับคนไทยได้ทุ่มก้อนหินใส่เท้าของตนเอง อีกทั้งนายทักษิณ ชินวัตร สนิทกับกับตน และขอให้ไปตรวจสอบนายทักษิณด้วยเช่นกัน พลตำรวจโท ไตรรงค์ กล่าวว่า ตนไม่ขอออกความคิดเห็น ตำรวจเราทำหน้าที่ ในการปราบปรามอาชญากรรม และตำรวจไซเบอร์จะเน้นการปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ ดังนั้นใครเกี่ยวข้องและมีส่วนในการกระทำความผิด เกี่ยวกับเรื่องของออนไลน์ หรือแก๊งคอลเซ็นเตอร์ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ เราทำเต็มที่ หากว่ามีพยานหลักฐานถึงไหน ก็ต้องดำเนินการผู้เกี่ยวข้องทุกคน ส่วนเรื่องนี้จะไปถึงไหน หรือกระทบกับใคร เราไม่ได้โฟกัสเรื่องนั้น

 

 

พลตำรวจโท ไตรรงค์ กล่าวอีกว่า วันนี้มีอีกหนึ่งจุดที่จะตรวจค้น หลังจากวานนี้ได้ไปตรวจค้น บ้านของนายก๊ก อาน และพบว่าผู้เกี่ยวข้องปิดบ้านหลบหนีไปแล้ว ดังนั้นคงหาแนวทางตรวจค้นต่อไป ส่วนโอกาสที่จะได้ตัวนายก๊ก อาน หรือไม่ คงจะคล้ายกับหลายคดี ที่ดำเนินการกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยการออกหมายจับคงแล้ว และจะต้องมีการดำเนินการต่อไป และหากพิจารณาว่ามีความผิดจริง ก็จะต้องส่งฟ้องอัยการ และหลังจากนี้ที่ตำรวจไซเบอร์ ได้มีการสืบสวนแล้วว่า มีการกระทำความผิดนอกราชอาณาจักร เราต้องรายงานอัยการสูงสุด เพื่อมอบหมายให้พนักงานสืบสวน หรือพนักงานอัยการมาทำการสอบสวน พูดง่ายๆ ว่าเราทำตามพยานหลักฐานที่มี เนื่องจากรอไม่ได้

 

 

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"ดีเอสไอ-อัยการ" ร่วมแจ้งข้อหาคดี 7 ตร.จราจร ทำร้ายร่างกาย หนุ่มมาสด้าแดงผิดคัน อาการสาหัส ผู้ต้องหาทุกรายปฏิเสธ
จีนบอกอียูให้ไปปรับสมดุลความคิดแทนสมดุลการค้า
"โฆษกกองทัพบก" แจงเคลียร์แล้ว ปมทหารกัมพูชารุกล้ำเขตแดนไทย บริเวณด่านอานเสะ
ผบ.ทบ.ตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงาน และบำรุงขวัญกำลังพล ปฏิบัติหน้าที่ป้องกันชายแดน ในพื้นที่กองกำลังบูรพา จังหวัดสระแก้ว
"ทักษิณ" ขึ้นโชว์วิสัยทัศน์งาน SPLASH-soft power forum 2025 ลั่นใหญ่นำสำเร็จ "โอทอปไทย" สร้างรายได้มหาศาล ก่อนหยุดชะงักเพราะการเมืองไร้สาระ พร้อมโยนบาปมหาดไทยยุคก่อนไม่ร่วมมือ
กล้องพร้อม คนพร้อม ! MEA ร่วมกับ สมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ชวนคุณมาร่วมสร้างประวัติศาสตร์ภาพถ่ายกับโครงการ "มหานครไร้สาย สู่ความทันสมัยแห่งอนาคต" ชิงเงินรางวัลรวม 120,000 บาท
ฉะเชิงเทรา ชาวบ้านยังคงศรัทธาหลวงพ่อโสธร แม้จะมีข่าวดังเกี่ยวกับพระ
"ทบ." จัดทริป สื่อมวลชนสัญจร ตามติด ภารกิจ "แม่ทัพภาคที่ 2" ตรวจความพร้อม ซ้อมหลบภัย ปชช.-นักเรียน หากเผชิญเหตุชายแดน
"บิ๊กโจ๊ก" รอดอีกคดี หลังอัยการสั่งไม่ฟ้อง ปมถูกกล่าวหา มาตรา 112
ผู้นำมาเลเซียวิจารณ์ภาษีทรัมป์ขณะเปิดประชุมอาเซียน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น