จับตา! “แม่ทัพภาค2” สั่งปิดตาเมือนธม หลัง “บิ๊กอ้วน” ยื่นดาบให้ปรามเขมร

“ภูมิธรรม” ยื่นดาบให้ “แม่ทัพภาค 2” สั่งปิดปราสาทตาเมือนธมได้ หากสถานการณ์ไม่สู้ดี หลังพบ “คนเขมร” แห่กันขึ้นมามากผิดปกติ

โซเชียลถึงกับเฮกันลั่นเลยทีเดียว เพราะรอวันนี้มานานแล้ว หลังรัฐบาลส่งสัญญาณให้ พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ตัดสินใจสั่งปิดปราสาทตาเมือนธมได้ หากเห็นว่าสถานการณ์ตึงเครียด

โดยนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีที่นักท่องเที่ยวชาวกัมพูชา ขึ้นมาเที่ยวปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ มากผิดปกติ จนเป็นนัยยะสำคัญ ว่า อำนาจการพิจารณาปิดจุดท่องเที่ยวตาเมือนธม อยู่ที่สภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช. ในขณะที่รัฐบาลก็กำกับดูแล เมื่อมีอะไรเกิดขึ้นรัฐบาลรับรู้ทั้งหมด ซึ่งทางนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานสมช. มอบอำนาจให้กองทัพ ในการพิจารณา มาตรการเปิด – ปิดด่านใน 4 ขั้นตอน เพราะมองว่าทหารอยู่ด่านหน้า สามารถพิจารณาสถานการณ์ได้ ว่ามีความรุนแรงมากน้อยแค่ไหน

เมื่อถามว่าอำนาจในการตัดสินใจ ที่จะไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปบนปราสาทตาเมือนธม เป็นของทหารในพื้นที่ใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม ระบุว่า เป็นไปตามปกติ เรายังไม่ได้มีการห้าม หรือไม่ห้าม ที่ผ่านมา ปราสาทตาเมือนธมขึ้นมาได้ทั้งสองฝ่าย ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขที่กำหนดไว้ และขณะนี้ยังไม่ได้มีเงื่อนไขอะไรที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ยกเว้นแต่มีคำสั่งจากทางแม่ทัพภาคที่ 2 จะต้องเป็นผู้ตัดสินใจ และเชื่อว่าทางทหารจะสามารถดูแลสถานการณ์ในพื้นที่ได้ แม้ปัจจุบันจะมีชาวกัมพูชา และไทย ขึ้นไปเที่ยวบนปราสาทตาเมือนธม แต่เมื่อครบกำหนดเวลา เขาก็กลับไปตามปกติ แต่ทั้งนี้ กองทัพภาคที่ 2 จะต้องพิจารณาตามสถานการณ์ความเป็นจริง ว่าควรจะปิดการท่องเที่ยวไปก่อนหรือไม่ พร้อมทั้งทำเรื่องผ่านกองทัพบก มายังรัฐบาล เพื่อที่จะนำเข้าที่ประชุม สมช.

เมื่อถามว่าสุดท้าย จะต้องให้สมช.และรัฐบาล เป็นผู้อนุมัติใช่หรือไม่ นายภูมิธรรมย้ำว่าเป็นไปตามขั้นตอน อำนาจอยู่ตรงนี้ ก็ให้ไปดู หากจะทำเลย ก็สามารถทำได้

ส่วนได้มีการประเมินสถานการณ์หรือไม่ หลังมีการยกระดับมาตรควบคุมด่านเข้มข้นขึ้น และสถานการณ์ในพื้นที่มีความตึงเครียดมากน้อยเพียงใด นายภูมิธรรมระบุว่า ประชาชนตามแนวชายแดน ไม่ถึงขนาดตึงเครียดจนหน้ากังวลใจ ซึ่งทางกระทรวงมหาดไทย ได้ไปสำรวจหลุมหลบภัย ไว้เรียบร้อยหมดแล้ว แต่สามารถกันอาวุธได้บางส่วน ไม่แน่ใจว่า หากเป็นอาวุธหนัก จะสามารถป้องกันได้หรือไม่ จึงได้เร่งให้ทางมหาดไทยไปจัดการ เพื่อเสริมความแข็งแรงของหลุมหลบภัยให้มากยิ่งขึ้น

ส่วนกรณีที่ทหารกัมพูชา มีการเพิ่มเติมกำลัง และอาวุธหนักเข้าประชิดพื้นที่ชายแดน มีนัยอะไรหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า สำหรับในส่วนของกองทัพ เราเตรียมความพร้อมไว้ทุกเรื่องแล้ว และเชื่อว่า กำลังที่มีอยู่เพียงพอ ที่จะรับสถานการณ์

สำหรับกรณีที่นายสมชัย ศรีสุทธิยากร ออกมาระบุว่า นายภูมิธรรม เซ็นรับรองให้ทหารกัมพูชา เข้ามาอยู่ในปราสาทตาเหมือนธม ในการประชุม คณะกรรมการชายแดนทั่วไป หรือ GBC ครั้งล่าสุด นายภูมิธรรมกล่าวว่า ตนยังไม่ได้ไปเซ็นอะไร ทุกอย่างทำตาม MOU43 ซึ่งขณะนี้ยังมีขั้นตอน การประชุมคณะกรรมการส่วนภูมิภาค ไทย-กัมพูชา หรือ RBC ซึ่งทางกัมพูชา รอสมเด็จฮุนเซน ประธานวุฒิสภากัมพูชาอนุมัติ พร้อมกับขอนายสมชัย อย่าพูดอะไรบนพื้นฐานที่ไม่ได้อยู่บนข้อเท็จจริง

ข่าวที่น่าสนใจ

 

 

เมื่อถามถึงกรณีที่นายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา เสนอให้ไทยเปิดด่านชายแดนก่อน แล้วกัมพูชาจะเปิดตามใน 5 ชั่วโมง แล้วจะค่อยหารือเรื่องการปรับกำลัง นายภูมิธรรม ระบุว่า เรามีเงื่อนไขและข้อเสนอที่วางไว้ คือลดการเผชิญหน้า ตลอดแนวชายแดน ให้มีการปรับกำลังทั้งสองฝ่าย รวมถึงการเปิดด่านชายแดนทั้งหมด เพื่อให้เข้าสู่สภาวะปกติ ซึ่งการดำเนินการเหล่านี้จะต้องทำไปพร้อมกันทั้ง 2 ประเทศ โดยการกำหนดวัน-เวลา ซึ่งทางฝั่งกัมพูชาบอกว่า อำนาจทุกอย่างอยู่ที่สมเด็จฮุนเซนเพียงคนเดียว ซึ่งก็ยอมรับว่า ได้มีการเสนอเงื่อนไขตามนั้นจริง ซึ่งในส่วนของเรา บอกว่า เป็นไปไม่ได้ จุดยืนของเรา ต้องดำเนินการ คือให้มีการปรับกำลังก่อนเปิดด่านพร้อมกัน จะมาบอกว่าคุณเปิดก่อน เราเปิดก่อน คงไม่ได้ เพราะตอนนี้มันมั่วไปหมดแล้ว ก็ควรจะทำให้พร้อมกัน

นายภูมิธรรม ย้ำว่า การที่ไทยจะทำอะไรนั้น ต้องคำนึงถึงสายตานานาประเทศด้วย เพราะเราเป็นประเทศที่ใหญ่กว่า เพื่อป้องกันข้อครหาว่าเรารุกรานเขา ในขณะเดียวกันเราก็ยังยืนอยู่ ในการประชุม RBC ที่จะเกิดขึ้น

เมื่อถามว่าเป็นหน้าที่ของรัฐบาล ที่จะต้องไปพูดคุยกับสมเด็จฮุนเซนเพื่อให้ได้ข้อยุติ ในเรื่องการเปิดด่านพร้อมกันใช่หรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า ก็ไม่ถูกเสียทีเดียว การจะเปิดด่าน เป็นเรื่องของที่ประชุม RBC ส่วนที่กัมพูชาปิดประตูตาย จะไม่ประชุมนั้น ตนมองว่า มันสามารถพูดคุยและเจรจาได้ คำพูดสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอด เมื่อมีปัญหา หรือมีประโยชน์ ก็ต้องอยู่ในเงื่อนไขที่ต้องคุย และเชื่อว่าจะสามารถพูดคุยกันได้

ขณะที่คุณวาสนา นาน่วม สื่อมวลชนสายทหาร โพสตข้อความเมื่อวันที่ 23 มิ.ย. ระบุว่า “บิ๊กปู” ลงพื้นที่ 3 ปราสาท พร้อมแม่ทัพกุ้ง-ผบ.ภพ” เยี่ยมกำลังพลในพื้นที่สุรินทร์ ขอบคุณทำหน้าที่ทหารของชาติ ปกป้องแผ่นดินไทย คุ้มครองความปลอดภัย ของประชาชน

พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พร้อมด้วย พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2, พลตรี สมภพ ภาระเวช ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี และคณะ เดินทางไปติดตามสถานการณ์ และเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทหาร ที่ปฏิบัติงานตามแนวชายแดนไทย – กัมพูชา ในพื้นที่รับผิดชอบ ของกองกำลังสุรนารี จ.สุรินทร์ ซึ่งโอกาสนี้ ผู้บัญชาการทหารบก ได้พบปะพูดคุยให้กำลังใจกำลังพล ในฐานปฏิบัติการอย่างใกล้ชิด พร้อมขอบคุณผู้บังคับบัญชา และกำลังพลทุกนาย ที่ได้ทำหน้าที่ทหารของชาติอย่างเต็มความสามารถ ในการปกป้องแผ่นดินไทย และคุ้มครองความปลอดภัยของประชาชน เพื่อรักษาอธิปไตยของประเทศชาติ

 

 

ขณะที่ก่อนหน้านี้ คุณวาสนา โพสต์ข้อความระบุว่า ผบ.ทบ. สั่ง ผบ.หน่วยขึ้นตรง ทบ.กำชับหน่วยติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด พร้อมปกป้องอธิปไตย และดูแลประชาชน เป็นกำลังใจให้ทหารทุกคน ขอยึดมั่นปฏิบัติภารกิจเพื่อ ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และประชาชน

พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก เป็นประธานการประชุมหน่วยขึ้นตรงกองทัพบก ครั้งที่ 9/2568 กองบัญชาการกองทัพบก โดยพลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า วาระก่อนการประชุม ผู้บัญชาการทหารบก เป็นประธานในพิธีมอบโล่รางวัล ให้แก่หน่วยที่ได้รับรางวัลจากการประกวด สิ่งประดิษฐ์ทางทหารกองทัพบกประจำปี 68, รางวัลการแข่งขันกีฬาทางอากาศและการบิน สาขากระโดดร่มในการแข่งขันกีฬากองทัพไทยครั้งที่ 55 ประจำปี 2568

จากนั้น เป็นการรายงานสรุปการปฏิบัติที่สำคัญ ของศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก และหน่วยขึ้นตรงกองทัพบก ซึ่งปัจจุบันได้มีการติดตามสถานการณ์ในพื้นที่ชายแดนไทย – กัมพูชา อย่างใกล้ชิด ในช่วงท้ายของการประชุม ผู้บัญชาการทหารบก ได้กล่าวถึงสถานการณ์ภัยคุกคามในปัจจุบัน ที่มีความสลับซับซ้อน และส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของชาติ ในทุกมิติ อันมีส่วนประกอบจากปัจจัย ที่หลากหลาย และรอบด้าน โดยเฉพาะปัญหาในพื้นที่ตามแนวชายแดน

 

กองทัพบกเป็นหน่วยงานหลักด้านความมั่นคง มีหน้าที่ในการรักษาอธิปไตย ปกป้องสถาบันหลักของชาติ และดูแลประชาชนให้ปลอดภัย จึงขอให้กำลังพลทุกคน ตระหนักในหน้าที่รับผิดชอบ ยึดมั่นในการปฏิบัติภารกิจเพื่อ ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และประชาชน

นอกจากนี้ได้เน้นย้ำ ให้ผู้บังคับหน่วย ดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาอย่างดีที่สุด โดยเฉพาะผู้ที่ปฏิบัติภารกิจในพื้นที่เสี่ยงภัย หรือพื้นที่ชายแดน ขอเป็นกำลังใจให้กำลังพล ปฏิบัติภารกิจด้วยความรอบคอบ มีความรัก ความสามัคคี ร่วมมือกัน ปฏิบัติภารกิจอย่างเต็มศักยภาพ ท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่ท้าทาย

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

จับตา! “แม่ทัพภาค2” สั่งปิดตาเมือนธม หลัง “บิ๊กอ้วน” ยื่นดาบให้ปรามเขมร
"ตราด" เปิดด่านผ่านแดนถาวรบ้านหาดเล็ก ส่งผู้ป่วยฉุกเฉินชาวกัมพูชา เข้ารักษาที่รพ.ฝั่งไทย
“Thai Festival 2025 เอกลักษณ์ไทยในมุมมองที่สร้างสรรค์ ณ กรุงลิสบอน สาธารณรัฐโปรตุเกส
มติครม.เห็นชอบ แผนลดค่าใช้จ่ายพลังงาน "พีระพันธุ์" ดันติดตั้ง Solar Rooftop หักลดหย่อนภาษีได้ 2 แสน
ทรัมป์โวยลั่นชี้อิสราเอล-อิหร่านละเมิดหยุดยิงทั้งคู่
จีนขานรับทรัมป์เสนอข้อตกลงหยุดยิง
กาตาร์ยื่นหนังสือถึงยูเอ็นประณามอิหร่านโจมตีฐานทัพสหรัฐ
อิสราเอลสั่งถล่มอิหร่านต่อหลังกล่าวหาละเมิดหยุดยิง
"ฉก.ทพ. 31" ไล่สกัดจับรถกระบะ 2 คัน ยึดยาบ้า 3 ล้านเม็ด ซุกใต้กระสอบปุ๋ยขี้ไก่
ผบ.ฉก.นย.ตราดส่งผู้ป่วยฉุกเฉินชาวกัมพูชา เข้าทำการรักษาที่โรงพยาบาลเพื่อมนุษยธรรม

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น