ถอดรหัส 4 สมการ การเมือง สู่จุดจบรัฐบาลแพทองธาร คลิปเสียงนายกฯคุย “ฮุน เซน” ด้อยค่าแม่ทัพภาค 2 ตัวเร่งนับถอยหลัง

ถอดรหัส 4 สมการการเมืองสู่จุดจบรัฐบาลแพทองธาร คลิปเสียงนายกคุย “ฮุน เซน” ด้อยค่าแม่ทัพภาค 2 ตัวเร่งนับถอยหลังวันสูญสิ้น

ถอดรหัส 4 สมการ การเมือง สู่จุดจบรัฐบาลแพทองธาร คลิปเสียงนายกฯคุย “ฮุน เซน” ด้อยค่าแม่ทัพภาค 2 ตัวเร่งนับถอยหลัง

 

 

เดินทางมาถึงจุดอับที่สุดสำหรับ รัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร หลังเจอที่เด็ดผู้นำเขมรตัวพ่อ “ฮุน เซน” ปล่อยคลิปเสียงตลบหลังด้อยค่าแม่ทัพภาค 2 ที่หลุดจากปากนายกฯไทยว่า “แม่ทัพภาค 2 ไม่ใช่ฝ่ายเรา” ตามเสียงอ้อนขอความเห็นใจ “ฮุนเซน”จากหลาน “อิงค์” ว่า คนไทยไม่อยากให้อยู่ไล่ให้เป็นนายกฯเขมร ซึ่งทันทีที่คลิปเสียงดังกล่าวถูกเผยแพร่สู่สาธารณชนนั้น นายกฯได้ออกมายอมรับว่า เป็นคลิปเสียงของตนคุยกับ “ฮุน เซน” จริง แต่ยังไม่วายอ้างว่า เป็นการพูดคุยต่อรอง เพื่อให้เกิดสันติภาพ ไม่เสียเลือดเนื้อ และเป็นความตั้งใจ แต่ร้อยทั้งร้อยคงไม่มีใครเชื่อคำแก้ตัวของนายกฯ โดยปรากฎการณ์คลิปเสียง ฮุน เซน แทงข้างหลังนายกฯส่งผลให้สถานภาพภาวะความเป็นผู้นำของนายกฯสูญสิ้นในทันทีต่อสายตาคนไทยทั้งประทศ

 

ปัจจัยที่รัฐบาล “อุ๊งอิ๊ง” ใกล้มาถึงจุดจบยังเกิดจากการเล่นการเมืองด้วยการลุแก่อำนาจเห็นประโยชน์ต่อพวกพ้อง เมื่อนายกฯ ประกาศริบกระทวงมหาดไทยออกจากอกพรรคภูมิใจไทย เพื่อขอมาดูแลเอง พร้อมยื่นคำขาดให้ตัดสินใจภายใน 48 ชั่วโมงหากไม่ยินยอมก็จะดีดภูมิใจไทยให้ไปเป็นฝ่ายค้าน แต่คำตอบที่นายกฯได้รับจากภูมิใจไทย คือ หากจะยึดกระทรวงมหาดไทย ภูมิใจไทยทั้งหมด 69 เสียงพร้อมใจเป็นฝ่ายค้าน นั่นคือสัญาญแตกหักที่เกิดขึ้นโดยเฉพาะเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 18 มีนาคมที่ผ่านมาปรากฎภาพนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เดินทางเข้ามาเก็บของใช้ส่วนตัวที่ทำเนียบรัฐบาล

 

การถีบภูมิใจไทยอาจทำให้สถานการณ์ของรัฐบาลอยู่ในภาวะสุ่มเสียง เพราะการขาดเสียง สส.ของภูมิใจไทยจำนวน 69 จะส่งผลให้เสียงของรัฐบาลที่มีอยู่เดิม 325 เสียง เหลือเพียง 256 เสียง ขณะที่ฝ่ายค้านจะมีเสียงรวมมากขึ้นเป็น 239 เสียงจากเดิมที่มีอยู 170เสียงเมื่อได้เสียงภูมิใจไทยเข้าไปเติม และนั่นอาจทำให้เสถียรภาพของรัฐบาลสั่นคลอนทันที เนื่องจากเสียงรัฐบาลและฝ่ายค้านมีความใกล้เคียงกันชนิดหายใจรดต้นคอ

ข่าวที่น่าสนใจ

อย่างไรก็ตามดูเหมือนชะตากรรมของรัฐบาล “อุ๊งอิ๊ง” จะตกอยู่ในสถานการณ์ลำบากมากยิ่งขึ้น เพราะดูเหมือนท่าทีของพรรครวมไทยสร้างชาติ หนึ่งในพรรคร่วมรัฐบาลมีแนวโน้มเปลี่ยนไป โดยจับสัญญาจากการประชุมคณะหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงหรือเทียบเท่า ครั้งที่ 5/2568 ซึ่งมี นายกฯ เป็นประธานในวันที่ 18 มิ.ย. โดยมีคณะผู้บริหารกระทรวงพลังงาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาให้การต้อนรับอย่างคึกคัก แต่กลับไร้เงา นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เข้าร่วมการประชุมทั้งที่เป็นเจ้าบ้าน ซึ่งการตีตัวออกห่างของนายพีระพันธุ์ในครั้ง ทำให้เกิดตีความกันว่า นายกฯ และรัฐบาลเพื่อไทยกำลังถูกลอยแพหรือไม่

วิบากกรรมของรัฐบาลยิ่งมาถึงทางตันเมื่อนายนิพนธ์ บุญญามณี อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ และอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยได้ออกมาเรียกร้องขอให้พรรคประชาธิปัตย์ถอนตัวจากการร่วมรัฐบาล เพราะรัฐบาลไม่สามารถเดินหน้าต่อไปได้ ไม่สามารถแก้ปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนได้ หากพรรคประชาธิปัตย์อยู่ต่อไปก็ยิ่งเสียหาย การถอนตัวออกมาจะสามารถฟื้นความนิยมของพรรคได้

อย่างไรก็ตามหากพรรครวมไทยสร้างชาติถอนตัวจากรัฐบาล เชื่อว่า อาจจะไม่ยกยวงมาทั้งหมด 36 คน เนื่องจากกลุ่มของนายพีระพันธุ์ มีสส.ในมือเพียง 18 เสียง ขณะที่กลุ่มของนายสุชาติ ชมกลิ่น รมช.พาณิชย์ก็ถือ สส.ในมือ 18 เสียงเช่นกัน ดังนั้นเชื่อว่าหากมีการถอนตัวจากพรรคร่วมรัฐบาลจริง นายพีระพันธ์ จะหอบ สส. เข้าไปร่วมกับภูมิใจไทยเพียง 18 เสียงเท่านั้น

ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์มีอยู่ 26 เสียง เชื่อว่า กลุ่มที่แตกตัวออกจากพรรรร่วมรัฐบาลอาจมีแค่ 4 เสียง คือกลุ่มของนายชวน หลีกภัย นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฐ์ นายบัญญัติ บรรทัดฐาน และสรรเพชญ บุญญามณี แต่เมื่อรวมเสียงทั้งหมดของฝ่ายค้านที่มีอยู่ 239 เสียง + 18 เสียงรวมไทยสร้างชาติจากกลุ่มนายพีระพันธุ์ + 4 เสียงประชาธิปัตย์จากกลุ่มนายชวน นั่นเท่ากับว่า เสียงฝ่ายค้านทั้งหมดรวมกันได้ 261 เสียง ขณะที่รัฐบาลแพทองธารจะเหลือเสียงพรรคร่วมแค่ 234 เสียง ส่งผลให้กลายเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อยทันที

จากจำนวนเสียงข้างน้อยของรัฐบาลที่มีอยู่ 234 เสียงหากมีการโหวตกฎหมายสำคัญเช่นกฎหมายเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ในช่วงต้นเดือนกรกฎาคม หรืองบประมาณในช่วงเดือนสิงหาคมก็จะถูกฝ่ายค้านโหวตคว่ำทันที ซึ่งการโหวตกฎหมายสำคัญหากไม่ผ่านสภฯ ตามธรรมเนียมที่ปฏิบัติกันมา นายกฯมีทางเลือก 2 ทางเท่านั้น คือ ลาออก หรือ ยุบสภา เท่านั้น

 

สิ่งเหล่านี้คือสัญญาณการล่มสลายของรัฐบาลอุ๊งอิ๊งที่อาจเกิดขึ้นในไม่ช้านี้หากทุกสมการเกิดขึ้นจริง ซึ่งเชื่อว่า รัฐบาลต้องเร่งหาหนทางแก้ลำ เพื่อความอยู่รอด และคนที่มีบทบาทสำคัญที่สุดอาจตกไปอยู่ที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรมที่จะต้องแสดงพลังการดูด สส.งูเห่าจากพรรคอื่น ๆ เพื่อค้ำบัลลังค์รัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร ที่รอวันนับถอยหลังในอีกไม่ช้านี้ก็เป็นไปได้….?

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ปริศนา "ปลาหมอมายัน" เอเลี่ยนสปีชีส์ แฝงอยู่กับฝูงปลาหมอคางดำ
"ลุงพล" วืดประกันตัว ส่งคุมขังเรือนจำมุกดาหาร หลังศาลพิพากษาเพิ่มโทษคุก เป็น 26 ปี "แม่น้องชมพู่" น้ำตาไหล ลูกได้รับความเป็นธรรม
"แม่ทัพภาค 2" ลงพื้นที่สุรินทร์  ยี่ยมให้กำลังใจทหารกล้าชายแดน มอบผ้ายันต์ - พระเครื่อง และสิ่งของจำเป็น พร้อมกำชับเฝ้าระวัง หากมีอะไรให้แจ้งทันที
ผู้ว่าฯ เมืองคอน ตรวจเยี่ยม "ศูนย์มินิธัญญารักษ์ท่าศาลา"
ไต้ฝุ่นโพดุลถล่มไต้หวันรุนแรงกระทบขนส่งทั่วเกาะ
"เสธ.แมว" จี้รัฐเร่งตอบโต้กัมพูชา 5 ทหารไทยโดนกับระเบิดขาขาด ย้ำปัญหาคลิปหลุดขยายผลกระทบ แนะต้องทำมากกว่าแค่ประณาม

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​