“ประเสริฐ” ปัดโดนสำนักงบฯริบเงิน 5.1 หมื่นล้านแก้ภัยแล้ง แจงรัวเจอยื่นร้องป.ป.ช.ทำผิดรธน.มาตรา144

"ประเสริฐ"ปัดโดนสำนักงบฯริบเงิน 5.1 หมื่นล้านแก้ภัยแล้ง แจงรัวเจอยื่นร้องป.ป.ช.ทำผิดรธน.มาตรา144

วันนี้ เวลา 09.40 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ให้สัมภาษณ์กรณีสำนักงบประมาณมีหนังสือถึงนายกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หรือ อปท. ที่ได้รับอนุมัติงบประมาณวงเงิน 5.1 หมื่นล้านบาทจากงบกลางปี 2568 เพื่อแก้ปัญหาภัยแล้งและฝนทิ้งช่วง โดยขอให้ถอนการอนุมัติ และให้ทบทวนความจำเป็นในการใช้งบประมาณ เป็นการริบเงินหรือไม่ โดยยืนยันว่าไม่ได้เป็นการริบเงิน เพียงแค่มีหนังสือแจ้งไปว่าอย่าเพิ่งดำเนินการ ซึ่งเป็นหนังสือจากสำนักงบประมาณไปยังเขตพื้นที่หนึ่ง แต่ตนจำไม่ได้ว่าเป็นเขตพื้นที่ใด อีกทั้งตนยังไม่ได้รับการแจ้งเรื่องจาก ป.ป.ช. กรณีรับไต่สวนการทุจริตแผนการใช้งบจัดการทรัพยากรน้ำปี 2568 จำนวน 5.1 หมื่นล้านบาท ที่ถูกยื่นความผิดตามรัฐธรรมนูญมาตรา 144 ซึ่งตนเองเป็นผู้อนุมัติ

 

 

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

 

เมื่อถามว่า ขณะนี้ส่วนท้องถิ่นได้เบิกจ่ายงบแล้วใช่หรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า ยังไม่มีการเบิกจ่ายงบ เราเช็กดูแล้ว และเรามีหนังสือแจ้งไปว่าอย่าเพิ่งดำเนินการ ส่วนเมื่อสถานการณ์เป็นเช่นนี้ จะเบิกจ่ายงบไปใช้ดูแลประชาชนได้อย่างไรนั้น จริงๆเราก็กังวลในการช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ซึ่งเรื่องนี้เดี๋ยวจะต้องมีความชัดเจน ส่วนผู้ร้องที่บอกว่ามีการเอางบประมาณไปลงพื้นที่ สส.พรรคเพื่อไทย ตนยืนยันว่า ไม่เป็นความจริง เพราะเป็นงบกลาง ไม่ได้เกิดจากการแปรญัตติ แต่เป็นงบที่คำนึงความเดือดร้อนประชาชน ซึ่งกระจายตัวทุกพื้นที่ ไม่ได้มีแต่พรรคเพื่อไทย และขั้นตอนต่างๆที่ สส.ไปเกี่ยวข้องได้แทบปิดประตูตาย ไม่มีเลย ขอให้สบายใจ

เมื่อถามว่าทราบหรือไม่ว่าใครเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ นายประเสริฐ กล่าวว่า พอทราบอยู่ แต่ผู้ร้องไม่มีตำแหน่งอะไรในรัฐบาล อย่างไรก็ตามตนไม่ทราบว่าผู้ร้องต้องการหวังสะกัดเก้าอี้มหาดไทย หรือต้องการขวางงบประมาณหรือไม่

 

ก่อนหน้านั้นมีรายงานข่าว

จากกรณีที่เมื่อวันที่ 9 มิ.ย.ที่ผ่านมา คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติรับเรื่องกล่าวหา กรณี 1.สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง พรรคเพื่อไทย 2.นายสาโรจน์ หงษ์ชูเวช อดีต ผอ.พรรคเพื่อไทย 3.นายพิษณุ หัตถสงเคราะห์ อดีต ส.ส. พรรคเพื่อไทย 4.นายจักรพงษ์ แสงมณี ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย และ 5.ผู้บริหารระดับสูงของสำนักงบประมาณ ว่า มีพฤติการณ์ฝ่าฝืนบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ มาตรา 144 วรรคสอง

เนื่องจากมีพฤติการณ์ใช้สถานะหรือตำแหน่งกระทำการสั่งการ บังคับ ก้าวก่าย หรือเข้าแทรกแชง ในการจัดทำงบประมาณการอนุมัติงบประมาณ การบริหารงบประมาณ โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำเพื่อรองรับสถานการณ์ภัยแล้งและฝนทิ้งช่วง ปี 2568 ผ่านองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) เพื่อประโยชน์ของตนเอง และผู้อื่น หรือพรรคการเมือง ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อมในการใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบฯ2568 นั้น

สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า กรณีดังกล่าว เป็นผลสืบเนื่องจากการที่มีผู้ยื่นคำร้องไปยัง ป.ป.ช. เพื่อขอให้ดำเนินการตรวจสอบ กรณีคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเมื่อวันที่ 22 เม.ย.2568 อนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ภายในกรอบวงเงิน 7,404.34 ล้านบาท สำหรับเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ เพื่อรองรับสถานการณ์ภัยแล้งและฝนทิ้งช่วง ปี 2568 สำหรับ 4 กระทรวง 12 หน่วยงาน จำนวน 2,748 รายการ

ทั้งนี้ เนื่องจากปรากฏข้อเท็จจริงว่า ในขั้นตอนการพิจารณาเพื่อขอรับการจัดสรรงบประมาณสำหรับเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำฯ มีการอนุมัติจัดสรรงบฯให้กับแผนงาน/โครงการให้เฉพาะองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ในเขตพื้นที่เลือกตั้งของ สส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง ของพรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะ อปท.บางแห่ง ได้รับการจัดสรรงบฯเป็นจำนวน 78 โครงการฯ

นอกจากนี้ ยังพบว่าแผนงาน/โครงการฯ ที่ได้รับจัดสรรงบประมาณดังกล่าว มีลักษณะโครงการเหมือนกันหรือคล้ายคลึงกัน อีกทั้งในหลายจังหวัดได้รับจัดสรรงบประมาณใกล้เคียงกันมาก เป็นต้น

ทั้งนี้ รัฐธรรมนูญ มาตรา 144 วรรคสอง บัญญัติว่า “ในการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร วุฒิสภา หรือคณะกรรมาธิการ การเสนอ การแปรญัตติ หรือการกระทำด้วยประการใดๆ ที่มีผลให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภาหรือกรรมาธิการ มีส่วนไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อมในการใช้งบประมาณรายจ่าย จะกระทำมิได้”

รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า ปัจจุบันการจัดสรรงบประมาณสำหรับเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ เพื่อรองรับสถานการณ์ภัยแล้งและฝนทิ้งช่วง ปี 2568 ยังอยู่ในขั้นตอนที่หน่วยรับงบประมาณจัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ และขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นฯ

อย่างไรก็ตาม เมื่อปรากฏเป็นข่าวว่า เมื่อวันที่ 9 มิ.ย.2568 คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้รับเรื่องโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ เพื่อรองรับสถานการณ์ ภัยแล้งและฝนทิ้งช่วง ปี 2568 ไว้ตรวจสอบ สำนักงบประมาณ จึงได้เสนอให้ชะลอการอนุมัติเงินจัดสรรงบประมาณฯ ในครงการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำฯ ทั้งหมด วงเงิน 51,584 ล้านบาท เอาไว้ก่อน เพื่อความรอบคอบและโปร่งใส จนกว่าจะมีความชัดเจนจาก คณะกรรมการ ป.ป.ช.

สำนักข่าวอิศรารายงานว่า ก่อนหน้านี้ คณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) มีมติเมื่อวันที่ 6 ม.ค.2568 เห็นชอบแผนงาน/โครงการมาขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปี งบประมาณ พ.ศ.2568 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น วงเงิน 51,584 ล้านบาท เพื่อดำเนินโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ เพื่อรองรับสถานการณ์ภัยแล้งและฝนทิ้ง ช่วงปี 2568 สำหรับ 4 กระทรวง 15 หน่วยงาน 19,970 รายการ ตามที่สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.)

ต่อมาสำนักงบประมาณได้พิจารณาแล้ว และเห็นควรให้หน่วยรับงบประมาณที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามแผนงาน/โครงการที่ สทนช. เสนอ โดยใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ภายในกรอบวงเงิน 7,404.34 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำเพื่อรองรับสถานการณ์ภัยแล้งและฝนทิ้งช่วง ปี 2568 และเสนอให้ ครม. เห็นชอบเมื่อวันที่ 22 เม.ย.2568 ดังกล่าว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"อบจ.สงขลา" พร้อมสุดจัดแข่งเซปักตะกร้อ ชิงแชมป์โลก “คิงส์คัพ” ยิ่งใหญ่ระดับนานาชาติ 22 – 27 ก.ค.นี้
"บิ๊กกุ้ง" แม่ทัพภาคที่ 2 เผยนายกฯโทรหาแล้ว ยันไม่ติดใจปมคลิปหลุดพาดพิง
"ผู้ว่าฯ สงขลา" ยันสิทธิเพิกถอน “สจ.กอล์ฟ” พ้นตำแหน่ง เป็นอำนาจสภา อบจ.
"อนุทิน" ลั่นภท.ไม่มีอะไรต้องประนีประนอมแล้ว "ภราดร" ลาออกรองปธ.สภาฯด้วย
"ภูมิธรรม" เผย "นายกฯ" โทรเคลียร์ "แม่ทัพภาคที่ 2" แล้ว รับเข้าใจได้ ประเด็นพูดคุย "ฮุน เซน"
"ตร.ทางหลวง" สกัดจับแรงงานต่างด้าวเถื่อน 33 คน คาสำนักสงฆ์เมืองกาญจน์
"นายกฯอิ๊งค์" รับสภาพ คลิปจริงคุย "ฮุน เซน" ขออย่าถือสา พาดพิง "แม่ทัพภาคที่ 2" เจตนาลดรุนแรงเจรจา
ชาวกัมพูชาชุมนุมในพนมเปญราว 1 แสน 5 หมื่นคน
"ดร.โอฬาร" ชี้ชัดภท.ถอนตัวร่วมรัฐบาล ทำเสียงปริ่มน้ำ ไร้เสถียรภาพ "เพื่อไทย" โดนลดอำนาจต่อรอง
"ฮุนเซน" สุดเหลี่ยม แฉคุย "นายกฯอิ๊งค์" จริง ถกขัดแย้ง 2 ประเทศ เตรียมปล่อยคลิปเต็ม อ้างเพื่อความโปร่งใส

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น