"กรวีร์" ไม่อยู่เฉยๆ โพสต์เตือนสติราชสีห์ เคยต้องพึ่งหนู สะพัดภูมิใจไทย โดนพท.บีบหนัก ต้องตอบรับเงื่อนไข สลับกระทรวงมท.หรือไม่ ภายใน 48 ชม.
ข่าวที่น่าสนใจ
17 มิ.ย.68 มีรายงานข่าวความคืบหน้าการปรับ ครม.แจ้งว่า นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และแกนนำพรรคเพื่อไทย ได้ตัดสินใจเดินหน้าปรับ ครม. โดยขอกระทรวงมหาดไทยคืนจากภูมิใจไทยอย่างแน่นอนแล้ว โดยล่าสุด เมื่อเวลา 15.00 น.วันนี้ ได้แจ้งไปยัง นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรคภูมิใจไทยแล้ว ให้ตัดสินใจว่าจะรับเงื่อนไขการปรับ ครม.หรือไม่ โดยเพื่อไทยขอกระทรวงมหาดไทยมาบริหารเอง โดยสับเปลี่ยนให้ภูมิใจไทยบริหารกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยรัฐมนตรีสำนักนายกฯ อีกตำแหน่ง โดยขอคำตอบภายใน 48 ชั่วโมง หรือถึงเวลา 15.00 น. วันที่ 19 มิถุนายนนี้
ข่าวแจ้งว่า หากภูมิใจไทย ไม่รับเงื่อนไข โดยยืนกรานจะไม่ปล่อยกระทรวงมหาดไทย ถ้าเป็นเช่นนั้น นายกฯ จะต้องปรับ ครม. โดยไม่มีพรรคภูมิใจไทยร่วมรัฐบาลต่อไป โดยเสียงรัฐบาลในเบื้องต้นหากไม่มีพรรคภูมิใจไทยร่วมด้วยจะเหลือกว่า 260 เสียง ซึ่งเกินกว่าครึ่งของสภาปัจจุบัน ที่ไม่มีถึง 500 เสียงอยู่แล้ว และคาดว่าจะมี สส.จากฝ่ายค้านปัจจุบันอีกจำนวนหนึ่ง ประกาศตัวร่วมสนับสนุนรัฐบาลอย่างเป็นทางการตามมาอีกด้วย นอกจากนี้กรณีพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่มีปัญหาขัดแย้งภายใน ยืนยันว่ายังอยู่ร่วมรัฐบาลเพื่อไทยต่อไป
ต่อมาทางด้านนายกรวีร์ ปริศนานันทกุล สส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า อย่าลืมว่าราชสีห์ ก็เคยต้องพึ่งหนู ราชสีห์คิดว่าตัวเองยิ่งใหญ่ที่สุดในป่า จนวันที่เขาติดกับดักนายพราน และไม่มีใครช่วย นอกจากหนูตัวเล็กๆ ที่เคยไว้ชีวิต เชือกเส้นใหญ่ที่ราชสีห์สลัดไม่หลุด กลายเป็นแค่ของเล่นของฟันเล็กๆ จากหนู และนั่นคือสิ่งที่ช่วยชีวิตเจ้าป่าไว้
ในวันที่เรามีอำนาจ เรามักรู้สึกว่าเราไม่ต้องพึ่งใคร แต่ชีวิตเต็มด้วยความไม่แน่นอน และก็ซับซ้อนกว่านั้น บางครั้งคนที่อยู่นอกสายตา อาจเป็นคนที่มีค่าที่สุดในวันที่เราล้ม อย่าดูถูกหนู อย่าดูแคลนคนตัวเล็ก เพียงเพราะเราคำรามได้ดังกว่า อย่าลืมว่า แม้แต่ราชสีห์ก็เคยต้องพึ่งพาสัตว์ตัวเล็กๆ เพื่อรอดชีวิต
นิทานเรื่องนี้ไม่ได้แค่สอนเรื่องความเมตตา แต่มันกระซิบบอกว่า “อย่าลำพอง”
ก่อนหน้านี้นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึง กระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี โดยมีการเสนอสูตร 2 แลก 1 ได้มีการคุยกับนายกรัฐมนตรีเมื่อวานนี้ (16 มิ.ย.) ด้วยหรือไม่ว่า เมื่อกี้นายกรัฐมนตรีไม่ได้ให้สัมภาษณ์หรือ นายกรัฐมนตรีบอกไม่มีแล้วใครจะบอกว่ามี
เมื่อถามย้ำว่านายกรัฐมนตรีบอกว่ารัฐมนตรีก็ต้อง พร้อมทำงานทุกกระทรวงถือเป็นนัยยะอะไรหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า รัฐมนตรีก็พร้อมทำงาน เป็นธรรมดา ถูกต้องแล้ว
เมื่อถามว่า ดูเหมือนนายอนุทิน จะทวงเรื่องสัญญาใจ แต่นายกรัฐมนตรี บอกว่าตั้งแต่จับมือร่วมรัฐบาลก็ไม่มีเรื่องนี้ นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่รู้ ไม่ได้ยิน ถามย้ำว่า วันที่พูดคุยกันวันแรกในการจับมือร่วมรัฐบาลมีสัญญาใจกันหรือไม่ว่าจะต้องเป็นไปตามโควตาเดิม นายอนุทิน กล่าวว่า อย่างพวกเราไม่ต้องมี เอ็มโอยู สมัยก่อนที่จะมารวมกันในขั้วนี้ ใช้เวลาเดือนกว่า กว่าจะทำเอ็มโอยูพรรคก้าวไกลใช่หรือไม่ แต่ของพวกเราเป็นคนคุ้นเคย ตอนที่ท่านเชิญไปที่พรรคเพื่อไทย วันที่กินช็อคมิ้น เรื่องเอ็มโอยูไม่จำเป็น การไม่มีเอ็มโอยู แต่เป็นเรื่องความเข้าใจ ความเชื่อมั่นซึ่งกันและกันสำคัญกว่ามานั่งเขียน ถ้าไม่เป็นไปตามข้อตกลงหรืออะไร อีกหน่อยการตั้งรัฐบาลคงลำบาก ก็ต้องมานั่งเขียนสัญญากันอันนี้ยุ่งตายเลย เลือกตั้งเสร็จแทนที่จะเร่งตั้งรัฐบาล ต้องมานั่งดูเอ็มโอยู ถ้าเกิดเป็นแบบนี้ต้องเขียนเลยว่า อยู่กันยังไง ต้องสนับสนุนกันยังไง มีการเปลี่ยนแปลงได้หรือไม่ ซึ่งคิดว่า เราก็ไม่น่าจะทำแบบนั้น
เมื่อถามว่าพรรคภูมิใจไทยพร้อมเป็นฝ่ายค้านใช่หรือไม่ ถ้าไม่ได้กระทรวงมหาดไทย โดยอยากให้นายอนุทินย้ำล่าสุดในเวลานี้เลย นายอนุทิน กล่าวว่า ย้ำครับ ใช่ครับ ถามย้ำว่าต้องรักษาเก้าอี้มหาดไทยไว้ให้ได้ นายอนุทิน กล่าวว่า ใช่ครับ เป็นไปตามข้อตกลงของการจัดตั้งรัฐบาล
เมื่อถามว่าอยู่ในการเมืองมานานอ่านเกมออกหรือไม่ว่าขณะนี้พรรคเพื่อไทยไม่ให้กระทรวงมหาดไทยแน่ นายอนุทินกล่าวว่า คิดว่าไม่มีเกมอะไร ภูมิใจไทยไม่ให้แน่
ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่าพรรคเพื่อไทยไม่ให้แน่แล้วใช่หรือไม่ตอนนี้ นายอนุทิน กล่าวว่า ก็อยู่กับตนจะไม่ให้ได้อย่างไร ข้อตกลงยังเป็นข้อตกลงอยู่ ตนยังให้ความเคารพต่อนายกรัฐมนตรีอยู่แล้ว
เมื่อถามว่าผู้นำทางจิตวิญญาณทั้ง นายทักษิณ ชินวัตร และนายเนวิน ชิดชอบ เห็นด้วยหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า เรื่องพรรคภูมิใจไทยการจัดการอยู่ที่ตน
ถามต่อว่า ทำไมพรรคเพื่อไทยถึงอยากได้กระทรวงมหาดไทย นายอนุทิน กล่าวว่า กระทรวงไหน ไปไหน อยู่ที่ตน
เมื่อถามว่าเหตุผลพรรคภูมิใจไทยยังอยากเอากระทรวงมหาดไทยไว้ ตามข้อตกลงคืออะไร นายอนุทิน กล่าวว่า มันเป็นไปตามข้อตกลง ข้อตกลง คือข้อตกลงกันแบบนี้ ถ้าทำแบบนี้แต่ละพรรคการเมือง ก็จะกำกับดูแลกระทรวงนี้ กระทรวงนั้น เป็นไปตามข้อตกลง และ ยังไม่มีการกระทำใดๆที่เสียหาย ถ้าไปดูโพลมหิดล ก็ชัดเจนดี ว่ากระทรวงมหาดไทยก็ไม่ได้ทำความเสียหายใดๆ และตนก็ไม่ได้ทำความเสียหายใด ๆ ให้กับรัฐบาล ตรงกันข้ามตนก็สนับสนุน การทำงานของนายกรัฐมนตรีอย่างออกนอกหน้ามาโดยตลอด ให้กำลังใจ เชียร์ท่าน และพร้อมยืนอยู่เคียงข้างท่านทุกสถานการณ์ ตนทำทุกอย่างตามครรลองของคนที่ทำงานด้วยกันที่พึงจะกระทำ
เมื่อถามว่า นายกรัฐมนตรีได้แจ้งหัวแจ้งก้อย เรื่องของกระทรวงมหาดไทยบ้างหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีไม่ได้แจ้งหัวแจ้งก้อย
เมื่อถามว่า ได้มีการประเมินหรือไม่ว่าพรรคภูมิใจไทยไม่ได้ร่วมรัฐบาลเสียงในสภาจะเพียงพอหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ตนไม่ได้คิดตรงนั้น คิดแต่เรื่องข้อตกลง ความสัมพันธ์ที่ดี การร่วมงานที่ดี ตนเห็นท่านนายกฯชมตนตลอดเวลา ในการทำงาน หากมีบางเรื่องที่ล่าช้าไปท่านก็โทรมาขอให้เร่งรัด ตนก็เร่งรัด ตรงไหนที่ติดข้อกฎหมายจริง ๆ ก็เรียนท่านไปว่าติดข้อกฎหมาย ท่านก็รับฟัง ท่านน่ารักจะตาย
เมื่อถามว่า ถ้าพรรคภูมิใจไทยไปเป็นฝ่ายค้านรัฐบาลจะอยู่ครบวาระหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ตรงนี้ต้องให้ผู้สื่อข่าวคิดมากกว่า ตนคิดว่าอยู่ด้วยกันด้วยข้อตกลง อยู่ด้วยความเข้าใจดีกว่า ตนไม่รู้ว่าจริง ๆ แล้ว นายกรัฐมนตรีต้องการกระทรวงมหาดไทยหรือใครต้องการ เพราะคุยกับนายกเมื่อวาน และมีนพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดชเลขาธิการนายกรัฐมนตรี อยู่ด้วย มีกันอยู่สามคนเท่านั้น ก็ไม่ได้มีเรื่องที่ออกมาเป็นข่าวเลย และตนเดินลงมาผู้สื่อข่าวได้สอบถาม ตนก็บอกว่าไม่มี พอข่าวออกไปว่าไม่มีก็เหมือนมีคนเขียนข่าว ว่าต้องมี ซึ่งคนคนนั้นนั้นไม่ได้อยู่ในที่หารือ เพราะมีกันอยู่แค่สามคน ถ้านพ.พรหมินทร์ ไม่พูดซึ่งตนเชื่อว่าท่านไม่พูด ท่านนายกไม่พูดแน่นอน ส่วนตนมาพูดให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ได้คุยอะไรกันในข้อสรุป เรื่องก็มีอยู่แค่นี้ เมื่อถามย้ำว่า เมื่อนายกฯไม่ต้องการแล้วใครต้องการ นายอนุทินกล่าวว่า ก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่มันก็ต้องมีความต้องการอะไรเกิดขึ้นแน่นอน ไม่งั้นทำไมถึงมาลงที่กระทรวงมหาดไทย กระทรวงนี้มันอะไรสำคัญอะไรกันนัก
เมื่อถามว่าการปรับครั้งนี้ไม่ทำตามข้อตกลงเดิมจะยุ่งหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ของตนไม่ยุ่งแน่นอน เพราะตนบอกไปแล้ว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง