“อนุทิน” มั่นใจ “นายกฯอิ๊งค์” ไม่ชิงยุบสภา แจงยังคุยกันปกติ ย้ำยึดประโยชน์ปชช.เป็นแนวทำงาน – Top News รายงาน
เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2568 ที่โรงเรียนศรีธาตุพิทยาคม อำเภอศรีธาตุ จังหวัดอุดรธานี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงการลงพื้นที่จังหวัดอุดรธานี ที่มี นายอดิศักดิ์ แก้วมุงคุณทรัพย์ สส.อุดรธานี พรรคไทยสร้างไทย ลงพื้นที่ด้วย ได้ประกาศบนเวทีตอนหนึ่งว่ามีความสนิทสนมกัน ว่า นี่คือการเมืองยุคใหม่ เราจะมาบอกว่าคนที่ไม่ใช่พรรคเดียวกันเราไม่สนใจไม่ได้ เพราะเราเป็นหนึ่งในคณะรัฐมนตรี ต้องให้ความสนใจกับเสียงของประชาชนทุกคน สส. คนไหนที่นำความต้องการของประชาชนมาแจ้ง ก็พร้อมที่จะลงพื้นที่กับทุกคน เพื่อติดตามแก้ไขปัญหาให้ เพราะเป็นงบประมาณของหลวง ไม่ใช่ของคนใดคนหนึ่งหรือพรรคใดพรรคหนึ่ง ประชาชนได้ประโยชน์สูงสุดนี่คือการทำงานของตน
เมื่อถามว่า จากนี้จะมี สส.จากพรรคอื่น มาร่วมงานเพิ่มอีกหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ขออย่าเพิ่งพูดถึงเรื่องนั้น เพราะการเลือกตั้งอย่างไม่เกิดขึ้น ถ้ารัฐบาลนี้อยู่ครบเทอมก็ไปถึงปี 70 โน้น มีเวลาเหลือเฟือในการตัดสินใจที่จะร่วมงานทางการเมืองกัน หรือถ้ามีเหตุยุบสภาก่อน ก็ยังมีเวลา 30 วัน ที่ สส. จะคิดย้ายสังกัดพรรคการเมือง ดูแล้วยังไม่เห็นรัฐบาลไหนที่ปล่อยให้มีการหมดอายุของสภา โดยที่ไม่ได้ยุบสภาก่อน เพราะการขับเคลื่อนใดๆ อาจจะติดอุปสรรค ต้องใช้เวลา 90 วัน เป็นอย่างต่ำ ส่วนใหญ่ นายกรัฐมนตรี จะเลือกการยุบสภาก่อน จะสั้นหรือจะยาว หรือจะอยู่หมดจนหมดสมัยก็ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของท่าน
มองว่านายกรัฐมนตรี จะชิงยุบสภาก่อน เพื่อความได้เปรียบทางการเมืองหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า เขาก็ไปจนครบ จนถึงเดือนหรือสองเดือนสุดท้ายก่อนหมดสมัยก็ยุบสภา ถือว่าเป็นเรื่องปกติ ก็ถือว่านั่นครบแล้ว เพียงแต่การดำเนินการทั้งหลายจะมีความคล่องตัวและสะดวกขึ้น
ส่วนคณิตศาสตร์ทางการเมือง ดูจากตัวเลข สส. ในมือ หลังประกาศพร้อมเป็นฝ่ายค้าน หากหลุดจากเก้าอี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายอนุทิน กล่าวว่า การเมือง หรือการฟอร์มรัฐบาล อย่าไปมองเป็นคณิตศาสตร์ เพราะประชาชนเขาไม่ได้เรียนคณิตศาสตร์ด้วย เขาต้องการว่าใครทำประโยชน์ให้กับประชาชนได้มากที่สุด การเมืองเป็นเรื่องของการเมือง ตนไม่ได้คำนึงถึงว่าใครจะมีคณิตศาสตร์ บวก ลบ คูณ หารเท่าไหร่ แต่ขึ้นอยู่กับทำงานให้กับประชาชนได้เท่าไหร่ การทำงานอยู่ร่วมกันก็ต้องจริงใจ เข้าใจ มีเจตนารมณ์ร่วมกันที่จะทำงานรับใช้ชาติบ้านเมือง รับใช้แผ่นดิน รับใช้ประชาชน ถ้าเรารวมกันได้เอาประชาชนเป็นที่ตั้ง อย่าเอาใครคนใดคนหนึ่งเป็นที่ตั้ง