“ถวิล” ชี้กัมพูชารุกล้ำเกิดแล้วกว่า 400 ครั้ง ปมช่องบก เจตนายั่วยุยึดเป็นเจ้าของ แนะเดินหน้า MOU 43 เร่งปักปันเขตแดน

"ถวิล" ชี้กัมพูชารุกล้ำเกิดแล้วกว่า 400 ครั้ง ปมช่องบก เจตนายั่วยุยึดเป็นเจ้าของ แนะเดินหน้า MOU 43 เร่งปักปันเขตแดน

วันที่ 13 มิ.ย.68 นายถวิล เปลี่ยนศรี อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ให้สัมภาษณ์พิเศษท็อปนิวส์ กรณีข้อพิพาทตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ชายแดนไทย-กัมพูชา ปัจจุบันยังไม่ได้ปักปันเขตแดนกัน 100% ซึ่งยังไม่ได้ชัดเจนทุกจุด รวมไปถึงการแบ่งเขตแดนทางทะเลด้วย ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาระหว่างเพื่อนบ้านที่มีชายแดนติดกัน ไทยกับเมียนมา ไทยกับลาว ก็ไม่สามารถที่จะตกลงเรื่องเขตแดนร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ก็ต้องถือว่าได้มีการปักปันเขตแดนกันไปบ้างแล้วทั้ง 73 หลัก และมีข้อตกลงเอ็มโอยูที่นำไปสู่การปักปันเขตแดน เพราะฉะนั้นเรื่องความชัดเจน ก็มีทั้งจุดที่ชัดเจนและบางจุดที่ยังตกลงกันไม่ได้

 

 

“จุดที่มีปัญหา คือ ช่องบก อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ที่เกิดการปะทะกัน เมื่อวันที่ 28พ.ค.68 ซึ่งจุดดังกล่าวหากยึดตามแผนที่ไทยจะเห็นได้ชัดว่า ทหารกัมพูชารุกล้ำเข้ามาในเขตพื้นที่ประเทศไทย แต่ถ้าเป็นแผนที่กัมพูชาที่ตนมองว่ายังโต้แย้งกันอยู่ เขาก็อาจถือว่าตรงจุดนั้นยังไม่ชัดเจน แต่ประเด็นพื้นที่ตรงนั้นจะเป็นของเราหรือไม่ก็ตาม หรือเป็นพื้นที่ที่ยังไม่ชัดเจน มันมีข้อตกลงเอ็มโอยู 43 ที่เป็นข้อตกลงไปสู่การปักปันเขตแดน แก้ปัญหาชายแดน เขาห้ามวางกำลังเข้ามา ห้ามเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิประเทศ สันปันน้ำต่าง ๆ จนกว่าจะมีการปักปันเขตแดน เพราะฉะนั้นที่ช่องบก ต้องถือว่ากัมพูชาล้ำเข้ามา จะล้ำเข้ามาในเขตอธิปไตยของไทย หรือล้ำเข้ามาในจุดที่ยังไม่ชัดเจนว่าสุดท้ายจะเป็นของใคร พื้นที่ตรงนี้ก็คือห้าม เมื่อเข้ามาก็ถือว่าละเมิดข้อห้าม มีการปะทะกัน และสิ่งที่เป็นหลักฐานชัดเจนว่ากัมพูชาละเมิด คือคูเลตเพราะสุดท้ายก็มากลบคูเลตให้

 

ข่าวที่น่าสนใจ

เมื่อถามว่า มองว่าการกระทำของกัมพูชาเป็นการยั่วยุฝั่งไทยใช่หรือไม่ นายถวิล กล่าวว่า เรื่องแบบนี้ไม่ใช่เพิ่งมาเกิด ซึ่งตนเชื่อตามที่รองแม่ทัพภาคที่ 2 บอกว่ามีการรุกล้ำเข้ามากว่า 400 ครั้ง สมัยที่ตนอยู่ สมช. ตนได้รับรายงานตลอดว่ามีการรุกล้ำเข้ามาในพื้นที่ตลอดแนวชายแดนไม่ใช่พื้นที่ช่องบกเพียงอย่างเดียว มีทั้งตั้งหมู่บ้าน ชักธง และสร้างอาคารต่างๆ แสดงถึงความเป็นเจ้าของ แต่เนื่องจากเป็นกำลังของพลเรือน ประเทศไทยได้ทำการประท้วง และหลายจุดก็ถอนออกไป

 

“ถามว่ากัมพูชาคิดอะไรอยู่ ผมคิดเป็นอย่างอื่นไม่ได้ นอกจากว่า กัมพูชาต้องการเคลียร์พื้นที่เขตแดน ซึ่งเขาอาจคิดในแง่มุมของเขาว่าจะเป็นเจ้าของได้อีกหลายพื้นที่ นอกจากประสาทเขาพระวิหารแล้ว พื้นที่ตรงอื่น และอาจฝันไปถึงพื้นที่ทางทะเลด้วย ซึ่งอาจจะมีความเชื่อมั่นในหลักฐาน แผนที่ และมีฝรั่งเศสยืนแบ็คอัพข้างหลังเขาอยู่”

 

 

 

 

นายถวิล กล่าวว่า ทางกัมพูชาอยากจะพิสูจน์เรื่องพื้นที่ และพยายามทำให้เกิดปัญหาขึ้น กลไกที่มีอยู่เดิม เอ็มโอยู เจบีซี มันไม่ได้ผล เขาถูกรังแก เขาพยายามสร้างเรื่องขึ้นมาเพื่อนำไปสู่การพิสูจน์ทราบ นอกจากพื้นที่ช่องบกแล้ว ยังจะยกปราสามตาเมือนธม ปราสามตาเมือนโต๊ด ปราสาทตาควาย ขึ้นศาลโลก

 

“ตรงนี้เราต้องชัดเจนว่าเมื่อปี 43 เราได้พูดคุยกันแล้วว่ายังมีปัญหาชายแดนในหลายจุดที่ยังไม่ชัดเจน จึงขอให้มีกรอบการตกลง จึงเกิดเอ็มโอยู 43 เพื่อพิสูจน์พื้นที่หลักเขตที่ 1 อยู่ตรงไหน ในช่วงที่มีสงครามกลางเมืองในกัมพูชา ก็มีการเปลี่ยนแปลงภูมิประเทศ หลักเขตเสียหาย ทั้งสองประเทศก็สมัครใจที่จะมีเอ็มโอยู เพื่อพิสูจน์พื้นที่ให้ชัดเจน ซึ่งเราเห็นว่ากรอบอันนี้จะแก้ปัญหาได้ ผ่านมา 20 กว่าปี ก็มีพัฒนาการ ร่วมกันทำพื้นที่ ไม่ใช่ทำอะไรไม่ได้เลย ต้องใช้เวลา เอ็มโอยู 43 เป็นกลไกที่มีประสิทธิภาพในการแก้ปัญหา จุดไหนปักปันได้ก็ทำ จุดไหนทำไม่ได้ก็อยู่กันอย่างมีกติกา ก็สามารถไปได้” นายถวิล กล่าว

 

เมื่อถามว่าวันที่จะมีการประชุม JBC คาดว่าไทยกับกัมพูชาจะตกลงกันได้หรือไม่ นายถวิล กล่าวว่า ตนเชื่อว่านายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ประธานเจรจาปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา เป็นบุคคลที่มีความรู้ และทัศนคติที่ดีระนาบเดียวกับท่านทูตวีรชัย พลาศรัย อดีตเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงเฮก มีความรู้ความเข้าใจเรื่องนี้ ฉะนั้นขอให้อย่าหวาดระแวง ว่าจะตกเป็นเหยื่อเขา หรือเข้าข้างกัมพูชา เพราะท่านสัญชาติไทย ส่วนการประชุมจะได้ข้อยุติหรือไม่ เชื่อว่า ไม่มีข้อยุติ ซึ่งก็ต้องประชุมกันต่อ เพื่อให้รู้ว่าปัญหาอยู่ตรงไหนและพยายามแก้ปัญหาให้ได้

 

 

เมื่อถามว่ามองอย่างไรที่สมเด็จฮุนเซน ออกมาตรการตอบโต้ไทย 6 มาตรการ นายถวิล กล่าวว่า การที่ไทยจะไปรุกล้ำ หากมองแบบเป็นกลาง ตนยังไม่เคยเห็นว่าประเทศไทยไปรุกล้ำกัมพูชา ฉะนั้น ตนมองว่ามันย้อนแย้ง แต่อันนี้เป็นวิธีการทำไอโอ สื่อสารกับประชาชนของเขา สื่อสารกับโลกภายนอกของเขา ซึ่งถือว่าเขาทำได้ดี

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) จีนนำบัลเล่ต์ “ความฝันในหอแดง”บุกเวทีไทย
แก๊งโจรขโมยควายอาละวาด
ซีพีตอกย้ำพลังองค์กรแห่งนวัตกรรม วันที่สามงาน "CP Innovation Exposition & Symposium 2025" สุดคึกคัก ไฮไลต์เสวนา "Where Are the Women in Innovation – Why It Matters" ปลุกพลังผู้นำหญิง จุดประกายอนาคตแห่งความเท่าเทียม
ประมงจังหวัดนครศรีธรรมราช ปล่อยปลานักล่า เพิ่มสมดุลให้ระบบนิเวศของแหล่งน้ำ
กิจกรรมการประกวด TO BE NUMBER ONE DANCERCISE ระดับจังหวัด “TO BE NUMBER ONE DANCERCISE NSN 2025 ครั้งที่ 2”
จับแล้ว!!! สภ.เมืองเชียงใหม่ ติดตามตามวัยรุ่นพ่นสีสเปรย์ ลานอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ ดำเนินคดีตามกฎหมาย และ ให้ผู้ก่อเหตุทาสีปรับสภาพดังเดิม

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​