มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ประกาศแซงชั่น ผู้พิพากษาหญิง 4 คนจากยูกันดา เปรู เบนิน และสโลเวเนีย ตามที่ทรัมป์มีคำสั่งก่อนหน้า ให้คณะรัฐมนตรีร่างมาตรการลงโทษไอซีซี /ในจำนวนนี้ 2 คน อนุมัติหมายจับนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ผู้นำอิสราเอล และ โยอาฟ กัลแลนต์ อดีตรัฐมนตรีกลาโหม จากการทำสงครามในกาซ่าเป็นเหตุให้เกิดความอดอยากแร้นแค้น เข้าข่ายอาชญากรรมสงคราม อีกสองคน อนุมัติเปิดสอบสวนการละเมิดสิทธิมนุษยชนของสหรัฐฯในอัฟกานิสถาน ทั้ง 4 คนจะไม่ได้รับอนุญาตเข้าสหรัฐฯ อายัดทรัพย์สินหรือผลประโยชน์อื่นใดที่มีอยู่ในสหรัฐฯ
รูบิโอ อ้างว่า ในฐานะผู้พิพากษาไอซีซี /ทั้ง 4 คน ดำเนินการพุ่งเป้าสหรัฐฯ และพันธมิตรใกล้ชิดอย่างอิสราเอลแบบไม่มีมูลและไม่ชอบธรรม ไอซีซีมีมูลเหตุจูงใจทางการเมือง และใช้คำกล่าวอ้างผิด ๆ ในการสอบสวน กล่าวหา และดำเนินคดีพลเมืองสหรัฐฯและพันธมิตร การถือสิทธิอย่างอันตรายและใช้อำนาจโดยมิชอบ ละเมิดอธิปไตยและความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ และพันธมิตรรวมถึงอิสราเอล
ก่อนหน้านี้ สหรัฐฯขึ้นบัญชีดำ คาริม ข่าน หัวหน้าอัยการ ICC ไปแล้ว เนื่องจากเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการออกหมายจับเนทันยาฮู และกัลแลนต์ การแซงชั่น ทำให้ คาริม ข่าน ไม่สามารถเข้าถึงอีเมลและบัญชีธนาคารที่ถูกอายัด นอกจากนี้ ชาวอเมริกันที่ทำงานให้กับศาลโลกในกรุงเฮกแห่งนี้ ยังถูกเตือนว่าอาจถูกจับกุมหากกลับเข้าประเทศ
ด้าน ICC ออกแถลงการณ์ทันทีว่า มาตรการสหรัฐฯ เป็นความพยายามบั่นทอนความเป็นอิสระของสถาบันตุลาการระหว่างประเทศ ที่ดำเนินงานภายใต้อาณัติจากภาคี 25 รัฐจากทั่วมุมโลก การพุ่งเป้าไปที่คนทำงานเพื่อช่วยพลเรือนที่เป็นเหยื่อในความขัดแย้ง กำลังให้ท้ายคนที่เชื่อว่าพวกเขาทำอะไรก็ได้โดยไม่ถูกดำเนินคดี การแซงชั่นไม่เพียงเล่นงานผู้พิพากษา 4 คน แต่ยังรวมไปถึงผู้ที่สนับสนุนศาล เหยื่อผู้บริสุทธิ์ในทุกสถานการณ์ที่ต้องการพึ่งพาศาล ตลอดจนหลักนิติธรรม สันติภาพ ความมั่นคง และการป้องกันอาชญากรรมที่ช็อกสามัญสำนึกมนุษยชาติมากที่สุด
ดันยา ไชเคล ผู้แทนสหพันธ์สิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศที่ ICC กล่าวว่า มาตรการแซงชั่นที่แต่เดิมรัฐบาลทรัมป์ ออกแบบมาขัดขวางเครือข่ายก่อการร้ายแบบ ไอซิส กลุ่มขนค้าอาวุธ และบรรดาผู้ที่ละเมิดสิทธิมนุษยชน กำลังถูกนำมาใช้กับเจ้าหน้าที่สถาบันตุลาการระหว่างประเทศ เป็นการใช้อำนาจฝ่ายบริหารในทางที่ผิดอย่างร้ายแรง และส่งสารอย่างน่าสะพรึงว่า ความพยายามเอาผิดกับผู้เข่นฆ่าคนจำนวนมาก อาจทำให้ถูกลงโทษได้ ส่วนการก่ออาชญากรรมระหว่างประเทศ อาจได้รับการคุ้มครอง
ขณะที่ เจมส์ โกลด์สตัน ผู้อำนวยการโครงการยุติธรรมขององค์กร โอเพน โซไซตี้ และอดีตอัยการ ICC กล่าวว่า ศาลถือเป็นที่พึ่งสุดท้าย และ ICC เป็นสถานที่เดียวที่เหยื่ออาชญากรรมร้ายแรงที่สุด หันหน้าไปพึ่งได้ เมื่อทางเลือกอื่น ๆ ในการแสวงหาความจริงและความยุติธรรมล้มเหลว การแซงชั่นผู้พิพากษา ICC คุกคามความหวังของคนเหล่านั้น ทำให้ผู้กระทำผิดได้ใจ ทั้งยังเป็นการทรยศต่อการยึดหลักนิติธรรมและความยุติธรรมระหว่างประเทศอันน่าภาคภูมิใจของอเมริกา