เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2567 กรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม จัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์และพิธีทำบุญตักบาตรพระภิกษุสงฆ์ สามเณร โดยมี พระเทพประสิทธิคุณ เจ้าอาวาสวัดระฆังโฆสิตาราม เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และ นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม มอบหมายให้นางสาวพลอย ธนิกุล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานพิธี พร้อมด้วย นายประสพ เรียงเงิน ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม นายชัยพล สุขเอี่ยม อธิบดีกรมการศาสนา ผู้บริหารกระทรวงวัฒนธรรม ผู้แทนหน่วยงาน องค์กรเครือข่ายทางพระพุทธศาสนา เข้าร่วม ณ พระอุโบสถวัดระฆังโฆสิตาราม เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร
นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันเฉลิมพระชนมพรรษา 3 มิถุนายน นับเป็นโอกาสอันดียิ่งที่พสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหล่าจะได้แสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ด้วยการบำเพ็ญคุณงามความดีถวายพระราชกุศลแด่สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี ที่เสด็จพระราชดำเนินเคียงคู่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อทรงปฏิบัติพระราชภารกิจน้อยใหญ่นานัปการ ทั้งยังทรงช่วยแบ่งเบาพระราชภาระแห่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ด้วยพระวิริยะอุตสาหะ และพระราชจริยวัตรอันงดงาม พระองค์ทรงมีศรัทธา ในพระพุทธศาสนาโดยทรงประกอบพระราชกรณียกิจเพื่อส่งเสริมบำรุงให้พระพุทธศาสนาเจริญรุ่งเรือง ในคราวที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จทรงบำเพ็ญพระราชกุศลเนื่องในพระราชพิธีต่าง ๆ ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม รวมทั้งพระอาราม วัด และสถานที่ต่างๆ ที่กราบบังคมทูลเชิญพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีก็จะทรงติดตามเพื่อร่วมบำเพ็ญพระราชกุศลในพระราชพิธีดังกล่าวนั้นด้วย เช่น ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลในวันสำคัญทางศาสนา ได้แก่ วันมาฆบูชา วันวิสาขบูชา และวันอาสาฬหบูชา-เข้าพรรษา ในปี พ.ศ. 2567 ที่ผ่านมาทรงติดตามพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐิน ณ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม วัดบวรนิเวศวิหาร วัดราชโอรสาราม วัดอรุณราชวราราม วัดพระพุทธบาท และเสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ในการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐิน ณ วัดนิเวศธรรมประวัติ วัดสุวรรณดาราราม ด้วยพระราชจริยวัตรอันงดงาม และยังทรงบริบูรณ์พร้อมด้วยมัททวธรรม คือความอ่อนน้อมต่อพระบรมวงศ์ผู้ใหญ่ ซึ่งนับเป็นพระราชธรรมสำคัญอันเป็นที่ชื่นชมตลอดมา