“นพ.ประพนธ์” สวดชุดใหญ่ “สมศักดิ์” อย่าใช้อำนาจทำลายสภาวิชาชีพ ปลุกแพทยสภาทำหน้าที่ร่วมกัน
ข่าวที่น่าสนใจ
4 มิ.ย. 2568 นายแพทย์ประพนธ์ ตั้งศรีเกียรติกุล ประธานคณะกรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา พร้อม สว. ที่มีความเกี่ยวข้องกับวิชาชีพทางการแพทย์ กล่าวถึงกรณี “ วีโต้” ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะสภานายกพิเศษ ต่อมติของแพทยสภา ว่า การวีโต้ของรัฐมนตรีต่อมติของคณะกรรมการวิชาชีพแพทย์ ถือเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 40 ปี ทั้งที่การเป็นสภานายกพิเศษ ตามพระราชบัญญัติวิชาชีพเวชกรรม พ.ศ.2525 เป็นการที่สภาวิชาชีพแพทย์ให้เกียรติรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะที่มาจากประชาชน กรุณาอย่าใช้เกียรติที่สภาวิชาชีพให้มา ทำร้ายสภาวิชาชีพ และย้ำว่าหน่วยงานวิชาชีพทางการแพทย์ไม่ใช่หน่วยงานทางการเมือง แต่เป็นเสาหลักของการกำกับมาตรฐานความปลอดภัย การคุ้มครองผู้ป่วย และการธำรงไว้ซึ่งจริยธรรมทางวิชาชีพ หากมีการแทรกแซงจากอำนาจภายนอก ย่อมเสี่ยงต่อการสั่นคลอนการอิสระ และบ่อนทำลายความน่าเชื่อถือของระบบวิชาชีพแพทย์และกระบวนการยุติธรรมอย่างยิ่ง
นายแพทย์ประพนธ์ กล่าวว่า สิ่งที่ศาลใช้เป็นพยานผู้เชี่ยวชาญมาโดยตลอด มักได้จากวิชาชีพแพทย์ ไม่ว่าจะเป็นนิติวิทยาศาสตร์ การชันสูตรบาดแผล ใบความเห็นแพทย์ หรือใบรับรองแพทย์ สิ่งเหล่านี้จะต้องเที่ยงธรรมเช่นเดียวกับศาล หากสิ่งเหล่านี้ถูกเบี่ยงเบนไปเพื่อประโยชน์ของบุคคลใดบุคคลหนึ่ง ย่อมทำให้ความยุติธรรมเสียหายโดยสิ้นเชิง
“เรื่องนี้มีจุดที่น่าห่วงมาก เพราะมีการออกใบรับรองหรือความเห็นทางการแพทย์จากแพทย์ที่ไม่ได้เชี่ยวชาญ และไม่ได้ผ่าตัดผู้ป่วยโดยตรง ซึ่งอาจทำให้ข้อมูลคลาดเคลื่อนไม่ตรงกับความเป็นจริงและยิ่งเอกสารถูกนำไปประกอบการตัดสินใจให้ผู้ต้องขังออกมารักษาตัวนอกเรือนจำ ก็ยิ่งส่งผลกระทบต่อความยุติธรรมโดยตรง การกระทำแบบนี้จึงไม่สมควรเกิดขึ้น เพราะทำให้ระบบเสียความน่าเชื่อถือ และทำให้ประชาชนตั้งคำถามว่ามีอะไรอยู่เบื้องหลังหรือไม่ ในฐานะวุฒิสภา ที่เป็นแพทย์และในสายวิชาชีพด้านสาธารณสุข ขอยืนยันว่ากระบวนการตรวจสอบของแพทยสภาไม่ใช่ของเล่น และไม่ควรแทรกแซงจากอำนาจหรือการเมือง เพราะข้อมูลที่ใช้ตรวจสอบจากเวชระเบียน ใบรับรองแพทย์หรือความเห็นแพทย์ มันไม่ใช่กระดาษธรรมดา แต่มันคือพยาน หลักฐานที่ศาลใช้ตัดสินคดีจริง ๆ ถ้าปล่อยให้มีการบิดเบือนข้อมูลจะส่งผลกระทบต่อความยุติธรรม และความน่าเชื่อถือของระบบทั้งหมด ไม่เพียงแต่มิติทางวิชาชีพแพทย์เท่านั้น แต่ยังรวมถึงศรัทธาของประชาชนต่อขบวนการยุติธรรมของประเทศ ผมจึงขอให้ทุกฝ่ายเคารพบทบาทขององค์กรวิชาชีพ ไม่บิดเบือนข้อเท็จจริง และร่วมกันรักษาความน่าเชื่อถือของระบบแพทยสภาไทย เพื่อประโยชน์สูงสุดของประชาชนทั้งประเทศ” นายแพทย์ประพนธ์ กล่าว
เมื่อถามว่า จำเป็นต้องเชิญรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขมาให้ความเห็นด้วยหรือไม่ นายแพทย์ประพนธ์ กล่าวว่า ในวันนี้มาแถลงข่าวในฐานะ สว. ที่มีวิชาชีพที่เกี่ยวข้อง ขณะที่กรรมาธิการ ก็ต้องวางกรอบต่อไป หากเริ่มดำเนินการก็ต้องเชิญแพทย์มาเรื่อย ๆ เพื่อสอบถามว่ากระบวนการติดขัดตรงไหน ซึ่งหากติดขัดตรงที่รัฐมนตรี ก็คงต้องเชิญมาให้ความเห็น
ด้านนายแพทย์วีระพันธ์ สุวรรณนามัย สมาชิกวุฒิสภา ในฐานะรองประธานกรรมาธิการการสาธารณสุข สว. กล่าวว่า ข้อเรียกร้องทางการแพทย์ เกิดขึ้นเนื่องจากมีการนำประเด็นนี้ไปรวมกับการเมือง ทำให้สังคมตั้งคำถามว่าเหตุใดแพทย์จึงต้องรวบรวมรายชื่อเพื่อเรียกร้อง และย้ำว่า การลงชื่อเป็นสิทธิ์ตามกฏหมาย ไม่ได้มีความผิดอะไร อีกทั้งยังแสดงให้เห็นว่าแพทย์มีความตื่นตัว และเป็นความงดงามตามระบอบประชาธิปไตยด้วยซ้ำ พร้อมเรียกร้อง ให้กรรมการแพทยสภาทุกคน ไปประชุมเพื่อทำหน้าที่ลงความเห็นอย่างเที่ยงตรง โดยไม่หลีกเลี่ยงการประชุม ในวัน 12 มิถุนายนนี้
ส่วนที่สังคมตั้งคำถามว่า แพทย์อยู่ตรงข้ามกับผู้ถูกร้องเรียนหรือไม่นั้น นายแพทย์วีระพันธ์ กล่าวว่า ทุกคนมีความเห็นเรื่องการเมือง หมอ 100 คน 50 คนอาจจะเห็นเหมือนกัน อีก 50 คนอาจจะเห็นไม่เหมือนกัน อาจจะครึ่ง ๆ ก็เป็นได้ จึงไม่ใช่ฝั่งตรงข้ามทั้งหมด จึงมองมุมนั้นไม่ได้ การลงชื่อเป็นเรื่องของสิทธิเสรีภาพ ตามระบอบประชาธิปไตย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ข่าวล่าสุด
เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น