ตร.เร่งล่า “แบงค์ เกียร์ R” พร้อมพวกอีก 1 คดีปล้นบุหรี่ไฟฟ้า-ชน รปภ.ดับคาโกดังท่าเรือ

ผบก.น.5 ยันไม่มีตำรวจเกี่ยวพันกับผู้ต้องหาคดีปล้นบุหรี่ไฟฟ้า เชื่อมีคนในคอยชี้เป้าสั่งการ เตรียมเรียกเจ้าหน้าที่กรมศุลกากรมาสอบเพิ่ม ขณะที่ผู้ต้องหาถูกจับแล้ว 4 ราย อีก 2 คน รวม "นายแบงค์" ที่ขับรถถอยชน รปภ. ยังหลบหนี

ตร.ไล่ล่า “แบงค์ เกียร์ R” พร้อมพวกอีก 1 คดีปล้นบุหรี่ไฟฟ้า-ชน รปภ.ดับคาโกดังท่าเรือ – Top News รายงาน

 

 

จากกรณีมีกลุ่มบุคคลบุกปล้นบุหรี่ไฟฟ้าของกลางจากโกดังของกรมศุลกากร ภายในพื้นที่ของการท่าเรือแห่งประเทศไทย ถนนเกษมราษฎร์ เขตคลองเตย กรุงเทพฯ เมื่อช่วงเวลาประมาณ 01.00 น. คืนวันที่ 1 มิ.ย.68 ที่ผ่านมา โดยกล้องบันทึกภาพ ขณะรถตู้คนร้ายถอยหลังด้วยความเร็วและพุ่งชนรถจักรยานยนต์ของนายบุญนาค สวัสสุข อายุ 58 ปี เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย จนเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ก่อนหลบหนี

ล่าสุดวันนี้ (2 มิ.ย.68 เวลา 15.30 น. พลตำรวจตรีวิทวัฒน์ ชินคำ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 ได้เดินทางมายัง สน.ท่าเรือ เพื่อเข้าประชุมติดตามความคืบหน้าคดี 6 ผู้ต้องหาบุกปล้นบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งเป็นของกลางที่ถูกเก็บไว้ในโกดังของกรมศุลกากร ภายในพื้นที่ของการท่าเรือแห่งประเทศไทย ถนนเกษมราษฎร์ เขตคลองเตย กรุงเทพฯ เมื่อช่วงเวลาประมาณ 01.00 น. คืนวันที่ 1 มิ.ย.68 ที่ผ่านมา และคนร้ายยังขับรถชนเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจนเสียชีวิต

แบงค์ เกียร์ R

หลังการประชุมนานกว่า 1 ชั่วโมง พลตำรวจตรีวิทวัฒน์ เปิดเผยว่า วันนี้ได้มีการขอออกหมายจับที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ซึ่งศาลได้อนุมัติหมายจับทั้ง 6 รายเป็นที่เรียบร้อย โดยความคืบหน้าสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้แล้ว 4 ราย กำลังสอบปากคำอยู่ที่ สน.ท่าเรือ 2 ราย คือ นายนรินทร์ กาเผือก หรือ นายเบิร์ด , นายเอกชัย สมใจ หรือ นายเอก ส่วนผู้ต้องหา นายธนทร ก้อนนาค หรือ นายจี และ นายภียกร ธิติปุญญวัชร์ หรือ นายคิง ได้ประสานขอเข้ามอบตัวที่ สภ.ปากช่อง ขณะนี้อยู่ระหว่างการนำตัวกลับมาที่ สน.ท่าเรือ

ส่วนอีก 2 ราย นายสิทธิศักดิ์ สุขบุญ หรือ นายแบงค์ และ นายสุวัฒน์ พ่วงยาม หรือ นายเล็ก ที่อยู่ในระหว่างหลบหนีนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างเร่งติดตามนำตัวเข้ามาดำเนินคดี โดยเชื่อว่าตัวของผู้ต้องหาทั้ง 2 รายยังอยู่ละแวกใกล้เคียงในกรุงเทพมหานคร

แบงค์ เกียร์ R

 

ข่าวที่น่าสนใจ

โดยในผู้ต้องหาทั้ง 6 คน มีตัวการหลักคือ นายแบงค์ (ที่ยังหลบหนี) ที่เป็นคนชักชวนให้ผู้อื่นมาร่วมกันก่อเหตุครั้งนี้ จากคำให้การของผู้ต้องหาที่สอบปากคำไปบ้างแล้ว ไม่มีผู้ดูต้นทาง โดยหลังก่อเหตุเสร็จ นายแบงค์ เป็นคนขับรถ และนายเล็กนั่งมาข้างๆ ที่เหลืออีก 4 คน วิ่งไปเปิดประตูเพราะว่า รปภ. จะปิดประตูไม่ให้ออก จากนั้นทั้ง 4 คนจึงได้วิ่งกระจัดกระจายกัน และนายแบงค์เป็นคนขับรถถอยไปชนผู้เสียชีวิต โดยหลังจากก่อเหตุชน รปภ.เสียชีวิตแล้ว ก็มีนายจีมาขึ้นรถในภายหลังและนำของกลาง ไปฝากไว้ที่บ้าน นายดิสรณ์ หรือ นายเจ

โดย นายเบิร์ด และนายเอก 2 ผู้ต้องหาที่กำลังสอบปากคำอยู่ที่ สน.ท่าเรือนั้น ให้การเป็นประโยชน์ สอดคล้องกับการสืบสวนก่อนหน้านี้ ผู้ต้องหาได้อ้างว่าไม่ได้รู้รายละเอียดทั้งหมดเพราะนายแบงค์เป็นคนจัดการทั้งหมด ส่วนจะได้ส่วนแบ่งอย่างไรนั้น จะต้องทำการสอบสวนเพิ่มเติมก่อน

โดยผู้ต้องหาทั้งหมด ถูกดำเนินคดีในข้อหา ร่วมกันปล้นทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย , ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน , ร่วมกันบุกรุกเคหสถานในเวลากลางคืน , ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์และซ่องโจร ส่วนนายแบงค์ถูก ดำเนินคดีเพิ่มเติมในข้อหา ฆ่าผู้อื่น

ส่วนกรณีคนชี้เป้าหรือคนให้ข้อมูลตอนนี้อยู่ระหว่างการสืบสวน ซึ่งเชื่อว่ามีความเป็นไปได้ที่จะมีคนสั่งมาอีกที จะยังไม่ตัดประเด็นนี้ ซึ่งผู้ต้องหาทั้ง 6 รายนั้นรู้จักกันมาเนื่องจากเป็นคนในพื้นที่ทั้งหมด ซึ่งจากการสอบปากคำนายเบิร์ด กับนายเอก พบว่าครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่นายแบงค์ชักชวนมาร่วมก่อเหตุ แต่ว่ายังไม่ได้ปักใจเชื่อ อย่างที่เราสงสัยเช่นเดียวกันว่าตู้มันไม่ได้มีตำหนิอะไร ว่าเป็นทรัพย์สินอะไร ทำไมผู้ต้องหาถึงได้รู้ว่าตู้ไหนเป็นของมีราคาและทำไมรู้ว่าประตูเปิดหรือปิดเวลาไหน อย่างไรก็ตามจะต้องเชิญเจ้าหน้าที่กรมศุลกากรเข้ามาสอบปากคำ

 

พลตำรวจตรีวิทวัฒน์ กล่าวว่า ส่วนกรณีที่มีข้อมูลว่านายเบิร์ดเป็นลูกน้องกับนายตำรวจที่ สน.ท่าเรือ นั้น ยอมรับว่าเคยใช้ทำงานบ้างบางครั้ง อาทิทำความสะอาดโรงพัก และใช้ซื้อของ แต่ไม่ได้มีหน้าที่หรือภารกิจอื่นๆ จึงยืนยันได้ว่าตำรวจ สน.ท่าเรือ ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุครั้งนี้ และหากการขยายผลไปถึงใครยืนยันว่าไม่มีการละเว้นใดๆทั้งสิ้น

 

โดยจากการตรวจสอบประวัติผู้ต้องหาทั้ง 6 คน พบว่า นายแบงค์ มีคดีปล้นทรัพย์ที่ สน.ท่าข้าม เมื่อเดือนตุลาคม ปี 2567 , นายเอก ถูกดำเนินคดียาเสพติด ท้องที่ สน.ท่าเรือ ปี 2558 , นายคิง คดีอาวุธปืน พื้นที่ สน.บางรัก ปี 2563 และคดียาเสพติดพื้นที่ สน.บางชัน ปี 2565 ส่วนผู้ต้องหาที่เหลือยังไม่พบประวัติอาชญากรรม

จากที่ประชาชนเคยให้ข้อมูลว่า แก๊งนี้เคยก่อเหตุ ลักษณะนี้ในกรมศุลกากรบ่อยครั้ง พลตำรวจตรีวิทวัฒน์ บอกว่า จากการตรวจสอบยังไม่พบว่ามีผู้ใดมาแจ้งความ แต่ยินดีรับข้อมูลข่าวสารจากผู้แจ้งเบาะแสทุกราย

ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจยืนยันว่าจะทำให้ดีและรวดเร็วที่สุด ซึ่งขณะนี้พยายามติดต่อญาติของผู้ต้องหาอีกสองรายที่ยังหลบหนีอยู่ ให้เข้ามอบตัว เพราะตำรวจเองก็อยากปิดคดีให้เร็วที่สุดเช่นกัน ขอยืนยันว่าไม่มีการช่วยเหลือใดๆในทางคดีอย่างแน่นอน

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"ภูมิธรรม" สวนภูมิใจไทย ลั่นไม่เคยขอใครร่วมรัฐบาล ไม่เคยมีข้อตกลง วาระคุมกระทรวง รอฟังนายกฯ
"ทหารเมียนมา" ยกธงขาวยอมแพ้ "กองกำลังกะเหรี่ยง" หลังเครื่องบินทิ้งบอมบ์พลาด ทำพวกเดียวกันเองเสียชีวิต 30 นาย
"มท.1" สั่งผู้ว่าฯชายแดนไทย-กัมพูชา เตรียมกำลังพิทักษ์พื้นที่ส่วนหลัง ดูแลความปลอดภัยปชช.
(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) จีนจ่อออก 'วีซ่าอาเซียน' ให้ชาติสมาชิกและติมอร์-เลสเต
(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) ติ่มซำ'เรือมังกร' สุดแนว ฝีมือเซฟจีนรุ่นใหม่ในกวางตุ้ง
(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) ร้านอาหารจีนที่เฉิงตูดึงดูดลูกค้าด้วยกิจกรรมทางวัฒนธรรม
"โฆษกภูมิใจไทย" ลั่นฟังนายกฯคนเดียวเท่านั้น ยันยังไม่มีแจ้งปรับครม. ย้ำยึดข้อตกลงเดิมตั้งรัฐบาล
“ผบ.นปอ.” ตรวจสภาพความพร้อมรบ ร้อย.ปตอ.เฉพาะกิจ สนับสนุนเหตุกองทัพบก ปกป้องห้วงอากาศและผืนแผ่นดินไทยจากภัยคุกคาม
"รัฐบาลไทย" ออกแถลงการณ์ ยันให้ความสำคัญปกป้องอธิปไตย ยึดกลไกเจรจากัมพูชา สถานการณ์ทั่วไปยังปกติ
ทั่วไทยฝนฟ้าคะนอง 34 จังหวัด ตกหนัก เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน กทม.โดนด้วย 60 เจอฝน 60 %

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น