“เราจะสู้เพื่อให้สภานี้เป็นที่พึ่งของผู้บริโภคอย่างแท้จริง และเป็นต้นแบบของความโปร่งใสที่ทุกคนภาคภูมิใจ เราคือพลังของผู้บริโภค เราจะทำหน้าที่อย่างชื่อสัตย์และเดี๋ยวเพื่อสังคมที่ดีกว่า”

รายงานข่าวแจ้งต่อว่า หนังสือร้องเรียนที่สมาชิกสภาองค์กรของผู้บริโภคส่งถึงบรรดาสมาชิกทุกคนนั้น เชื่อกันว่า มาจากเรื่องความข้องใจเกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้างของสภาองค์กรของผู้บริโภค โดยก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2568 นางสารี อ๋องสมหวัง ในฐานะเลขาธิการสำนักงานสภาองค์กรของผู้บริโภคได้ออกประกาศเรื่องผู้ชนะเสนอราคา โครงการสำรวจและทดสอบสินค้าเพื่อเผยแพร่ข้อมูลให้ผู้บริโภคในการเลือกซื้อสินค้าด้วยวิธีเฉพาะเจาะจง โดยผู้ได้รับการคัดเลือก ได้แก่ “มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค” โดยเสนอราคา เป็นเงินทั้งสิ้น 3,800,000 บาท ซึ่งเป็นราคารวมภาษีมูลค่าเพิ่ม ตลอดจนภาษีอากรอื่น ๆ และค่าใช้จ่ายทั้งปวงปวง

ขณะเดียวกันในวัน 2 พฤษภาคม พ.ศ 2568 นางสาวสารี อ๋องสมหวัง ได้ออกประกาศเกี่ยวกับการโครงการจัดซื้อวารสารทางวิชาการเพื่อการพัฒนาศักยภาพและส่งเสริมความรู้การคุ้มครองผู้บริโภคแก่องค์กรสมาชิก (นิตยสารฉลาดซื้อ) ด้วยวิธีเฉพาะเจาะจง ซึ่งโครงการจัดซื้อวารสารทางวิชาการดังกล่าวพบว่า ผู้ได้รับการคัดเลือก ได้แก่ “มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค” อีกเช่นกัน โดยเสนอราคา เป็นเงินทั้งสิ้น 323,000 บาท

รายงานข่าวแจ้งต่อว่า การได้งานของ “มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค” ทั้ง 2 โครงการ ถูกบรรดาสมาชิกในสภาองค์กรของผู้บริโภคตั้งคำถามถึงความไม่โปร่งใส โดยเรื่องดังกล่าวมีการมองกันว่าก่อนหน้านี้นางสารี อ๋องสมหวัง เคยดำรงตำแหน่งเลขามูลนิธิเพื่อบริโภคในช่วงปี 2663 ก่อนที่จะมาดำรงตำแหน่งเลขาธิการสำนักงานสภาองค์กรขชองผู้บริโภค ดังนั้นการได้งานของ “มูลนิธิเพื่อบริโภค” ซึ่งเป็นเงินรวมกันกว่า 4,00,000 บาท ทำให้เกิดข้อสงสัยในเรื่องธรรมาภิบาลและความโปร่งใสของผู้บริหารในลักษณะการเอื้อประโยชน์ในการได้งานดังกล่าวหรือไม่ และด้วยเหตุนี้จึงเป็นที่มาของการออกหนังสือร้องเรียนของสมาชิกสภาองค์กรของผู้บริโภคที่ส่งถึงสมาชิกทุกคน