ผู้การเมืองชลฯ เดือด สั่งฟันแก๊งจีนดำยิงกันเอง ทุกข้อหา หลังตามไป ยึดปืน-ยาเสพติด ได้อีกเพียบ

ผู้การเมืองชลฯ เดือด สั่งฟันแก๊งจีนดำยิงกันเอง ทุกข้อหา หลังตามไป ยึดปืน-ยาเสพติด ได้อีกเพียบ พบข้อมูลเชิงลึกเป็นแก๊งเอเย่นต์ยานรกครบวงจร ในสถานบันเทิงพัทยา

ความคืบหน้า กรณี นายชีหยาง ชง ( Mr. Qiyang Song ) อายุ 26 ปี ชาวจีน ถูกเพื่อนสัญชาติเดียวกัน คือ คือ นายจูบิน ( MR.JU BIN ) อายุ 32 ปี ใช้อาวุธปืนยิงเข้าที่ข้อขาด้านขวาจนได้รับบาด ขณะที่ตำรวจค้นรถเบนซ์ เจอยาเสพติดจำนวนมาก เหตุเกิดภายในบ้าน 33/152 ซอย เขามะกอก 6/4 หมู่ 4 ต.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรีตามที่มีข่าวเสนอไปแล้วนั้น
เมื่อเวลา 12.00 น. 1 มิถุนายน 2568 พล.ต.ต.ธวัชเกียรติ จินดาควรสนอง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี ได้เดินมายัง สภ.ห้วยใหญ่ เพื่อติดตามความคืบหน้าในคดีนี้ โดยมี พ.ต.อ.ชาตรี สุขศิริ รอง.ผบก.ภ.จว.ชลบุรี พ.ต.อ. อรรถพล อิทธโยภาสกุล ผกก.สภ.ห้วยใหญ่ , พ.ต.อ.ภาสกร ไพจิตต์ ผกก.สส.ภ.จว.ชลบุรี , พร้อมชุดสืบสวน สภ.ห้วยใหญ่ , ตำรวจตรวจค้นเข้าเมืองชลบุรี , ตำรวจท่องเที่ยว ร่วมกันรายงานสรุปผลความคืบหน้าทางคดี

ในเบื้องต้น ตำรวจ สภ.ห้วยใหญ่ ได้ควบคุม ชาวจีน 3 คน ซึ่งอยู่ในบ้านหลังเกิดเหตุทั้งหมด ประกอบด้วย 1. นายจู บิน ( MR.JU BIN ) อายุ 32 ปี มือยิง 2. นายหวัง จื่อเจี่ย ( MR.WANG ZHIJIE ) อายุ 26 ปี และ 3. นางสาวจาง จุนฮัน ( MS.ZHANG JUNHAN ) อายุ 24 ปี ชาวจีน โดยพบว่าทั้ง 3 คนอยู่ในสถานะ อยู่ในราชอาณาจักรไทยเกินเวลาอนุญาตที่กำหนด (โอเวอร์สเตย์) โดยภายหลังก่อเหตุยิงเพื่อนชาวจีนด้วยกัน จนได้รับบาดเจ็บสาหัส แถมยังพยายามจะลากคนเจ็บให้เข้าไปนอนอยู่ในบ้าน หลังจากนั้นก็พากันขึ้นรถเก๋ง สีขาว ป้ายแดง ขับนำอาวุธปืนไปโยนทิ้งในบ่อน้ำ แล้วขับพยายามหลบหนี ห่างจากบ้านหลังเกิดเหตุไปไกลกว่า 3 กม. จากสุดท้ายก็ไปไม่รอด ถูกชุดสืบสวน สภ.ห้วยใหญ่ ควบคุมตัวได้ในที่สุด

ต่อมาตำรวจ มีการย้อนกลับไปตรวจค้น บ้านหลังเกิดเหตุอีกครั้ง จนไปพบ ยาไอซ์ 3.22 กรัม อาวุธปืนสั้นไม่มีทะเบียน , กระสุนปืนขนาด 9 มม. , กระสุนปืนขนาด .38 , อุปกรณ์ผลิตบุหรี่ไฟฟ้าจำนวนหนึ่ง ซุกซ่อนอยู่ภายในบ้าน นอกจากนี้ ยังตรวจค้นรถยนต์ ของกลุ่มชาวจีนทั้ง 3 คัน โดยในรถเบนซ์ สีน้ำเงิน พบ ยาไอซ์ 225.84 กรัม , ยาบ้า 711 เม็ด , ยาเคตามีน 165.83 กรัม อุปกรณ์ผลิตบุหรี่ไฟฟ้าจำนวนมาก ส่วนภายในรถเก๋งสีขาวคันที่ใช้ขับหลบหนี ค้นในรถพบกระเป๋าแบนด์เนมยี่ห้อดัง 2 ใบ ภายในเงินสด สกุลไทย หยวนจีน และ ดอลล่าร์ รวมทัังหมด 108,000 บาท ทั้งหมดถูกตำรวจตรวจยึดไว้เป็นหลักฐาน

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ขณะที่ฝ่ายคนเจ็บ คือ นายชีหยาง ชง ( Mr. Qiyang Song ) อายุ 26 ปี สัญชาติจีน ปัจจุบันยังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา โดยตำรวจมีการไปอายัดตัว หลังชุดสืบสวน สภ.ห้วยใหญ่ , สภ.เมืองพัทยา , สืบสวนจังหวัดชลบุรี , สืบสวน ตม.ชลบุรี , นำกำลังไปค้นห้องพัก ย่านซอยเทพประสิทธิ์ ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี และ ยึดของกลางอาวุธปืนได้อีกจำนวน 2 กระบอก ( เป็นอาวุธปืนสั้นจำนวน 1 กระบอก และ อาวุธปืนลูกซองสไลด์ จำนวน 1 กระบอก และ ยาเสพติดจำนวนหนึ่ง พร้อมทั้ง จับกุมชาวจีนได้เพิ่มอีก 3 คน ซึ่งอยู่ภายในห้องดังกล่าว ทั้งหมด พบว่า อยู่ในราชอาณาจักรไทยเกินเวลาอนุญาตที่กำหนด (โอเวอร์สเตย์) และมีสารเสพติดอยู่ในร่างกายทุกคน

ส่วนประเด็น รถจักรยานยนต์ ฮอนด้า ซีบีอาร์ สีเลือดหมู ซึ่งเป็นรถจักรยานยนต์สายตรวจ ทะเบียนตราโล่ ที่ไปพบว่าจอดอยู่ในบ้านหลังที่เกิดเหตุ โดยตำรวจ สภ. ห้วยใหญ่ ไปยึดมาได้ เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคมที่ผ่านมา หลังชาวบ้านโทรศัพท์มาแจ้งว่า มีชาวจีนใช้อาวุธปืนยิงขึ้นฟ้า แต่เมื่อไปตรวจสอบปรากฏ ผู้ก่อเหตุได้แยก การไปพบรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวจอดอยู่ในบ้านเกิดหลังเกิดเหตุ จึงมีการตรวจยึดนำมาตรวจสอบ โดยล่าสุดมีการยืนยันแล้ว รถจักรยานยนต์คันดังกล่าวเป็นของ สภ.หางน้ำสาคร จ.ชัยนาท แต่มีการปลดระวาง และถูกจำหน่ายออกไปประเมินขายทอดตลาด ก่อนจะมีผู้ซื้อไปในราคา 8,000 บาท ซึ่งตำรวจอยู่ระหว่างการขยายผล เพิ่มเติมว่า หลังจากที่มีการขายเข้าทอดตลาดแล้ว รถมาอยู่ที่บ้านของชาวจีนหลังนี้ได้อย่างไร

ลบพล.ต.ต.ธวัชเกียรติ จินดาควรสนอง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี เปิดเผยว่าในคดีนี้ต้องขอชื่นชมตำรวจทุกนาย โดยเฉพาะ ตำรวจ สายตรวจ สภ.ห้วยใหญ่ ที่เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุได้อย่างรวดเร็ว ก่อนจะประสานงานชุดสืบสวน ติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุ ได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งพยายามจะหลบหนี ไปไกลห่างจากจุดเกิดเหตุ ประมาณ 3 กม. นอกจากนี้ ร่วมกันบูรณาการจากตำรวจหลายฝ่าย เข้าตรวจสอบและค้นที่พัก รวมถึงรถยนต์ของกลุ่มชาวจีน จนสามารถยึด ยาเสพติด อาวุธปืน และ เครื่องผลิตบุหรี่ไฟฟ้า ได้จำนวนมาก โดยใช้เวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมง
ซึ่งในคดีนี้ ต้องแยกออกเป็น 2 เรื่อง ระหว่างฝ่ายผู้ก่อเหตุ กับ ฝ่ายผู้ถูกก่อเหตุ โดยฝ่ายผู้ก่อเหตุมีทั้งหมด 3 คน ส่วนฝ่ายผู้ก่อเหตุ มี 4 คน รวมทั้งหมด 7 คน ซึ่งทั้งหมดจะถูกตำรวจแจ้งข้อกล่าวหา ฐานความผิด อยู่ในราชอาณาจักรไทยเกินเวลาที่กำหนด ( โอเวอร์สเตย์ ) , พรบ.อาวุธปืน , มียาเสพติดให้โทษไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่าย , และ เสพยาเสพติดโดยผิดฏหมาย ( คนจีนทั้ง 7 คนมีปัสสาวะเป็นสีม่วงทั้งหมด ) มีเพียง นายจู บิน ( MR.JU BIN ) จะถูกแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่ม “ ฐานพยายามฆ่าผู้อื่น ” ส่วนสาเหตุปมเหตุในครั้งนี้ ตำรวจยังไม่สามารถ ชี้ชัดได้ว่าเกิดจากสาเหตุใด เนื่องจากผู้ต้องหาทั้งหมดให้การไม่เป็นประโยชน์ ส่วนเรื่องการยืมเงิน 500,000 บาท เป็นการกล่าวอ้างของตัวผู้ต้องหา แต่อย่างไรก็ตามตำรวจเชื่อว่าปมเห็นในครั้งนี้น่าจากการขัดผลประโยชน์กันเอง ส่วนเรื่องยาเสพติด ผู้ต้องหาชาวจีนให้การยอมรับว่า นำมาขายให้กับกลุ่มชาวจีนกันเอง ซึ่งจากข้อมูลเชิงลึก พบว่ากลุ่มชาวจีนรายนี้ จะนำยาเสพติดไปขายให้กับชาวจีนกันเองในสถานบริการ
แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ตำรวจยังไม่หยุดแค่นี้ อีกทั้ง ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 มีการสั่งการ ให้ตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี เร่งสืบสวนขยายผล ทุกอย่างที่เกี่ยวกับกลุ่มคนจีนกลุ่มนี้ ค้นหาแหล่งที่มาของยาเสพติดและอาวุธปืนทั้งหมด เส้นทางการเงิน รวมถึงว่าคนไทยเกี่ยวข้องกับคดีนี้หรือไม่ โดยเบื้องต้น ซึ่งกลุ่มคนจีนกลุ่มนี้ เป็นกลุ่มเป้าหมาย ที่ทางตำรวจ สภ.ห้วยใหญ่ เตรียมจะออกหมายค้นตรวจสอบบ้านหลัง แต่ดันมาเกิดเหตุขึ้นเสียก่อน ซึ่งหลังจากนี้ ตำรวจจะเร่งสืบสวนขยายผล

พล.ต.ต.ธวัชเกียรติ จินดาควรสนอง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี กล่าวปิดท้ายว่า หลังจากนี้ ตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี จะร่วมกับตำรวจทุกหน่วยงาน เตรียมตรวจสอบชาวจีน 1500 คน ซึ่งมีประวัติลักลอบอาศัยอยู่ในประเทศประเทศไทย (โอเวอร์สเตย์) โดยจะมีการกวาดล้างจับกลุ่มให้สิ้นซาก และป้องกันไม่ให้มีการลักลอบกระทำความผิดในประเทศไทยต่อไป

ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังจุดเกิดเหตุอีกครั้ง และ ได้มีโอกาสพูดคุยกับชาวบ้านในละแวกดังกล่าว โดยได้หลักฐานเป็นภาพจากกล้องวงจรปิดวงจร เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม จะเห็นว่า กล้องในบ้านหลังหนึ่ง ติดกับบ้านที่เกิดเหตุ ช่วงเวลาประมาณ 12.38 น. จะได้ยินเสียงปืนดังมาจากบ้านชาวจีน 2 นัด จนชาวบ้านต้องปิดประตูหนี เพราะกลัวว่าจะไม่ปลอดภัย หลังจากนั้นตำรวจ สภ. ห้วยใหญ่ ได้มาทำการตรวจสอบและมีการยึด รถจักรยานยนต์ ซึ่งน่าจะเป็นรถจักรยานยนต์ตำรวจสายตรวจ ซึ่งจอดอยู่ในบ้านของคนจีนนำไปตรวจสอบ ต่อมาวันที่ 24 พ.ค.เวลา 14.51 น. บ้านข้างๆ ที่ติดกับบ้านชาวจีน มีการติดกล้องวงจรปิดใหม่ๆ เนื่องจากเริ่มหวั่น ว่าคนในครอบครัวจะไม่ปลอดภัย เนื่องจากบ้านชาวจีน มีอาวุธปืน และชอบทะเลาะกันบ่อย แต่ติดตั้งไม่ถึง 1 ชั่วโมง กลุ่มชาวจีนที่ก่อเหตุก็เดินมาต่อว่า และพยายามมีพฤติกรรมมาเฟียข่มขู่คนไทย บ่อยครั้ง จนกระทั่งมาเกิดเหตุการณ์รุนแรงเมื่อระหว่างที่ผ่านมาดังกล่าว

 

ภาพ/ข่าว อนันต์ กิ่งสร ทิวากร กฤษมณี ผู้สื่อข่าว จ.ชลบุรี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ชาวสงขลาจัดกิจกรรม "รวมใจภักดิ์ รักสมเด็จพระราชินี"
“สรวงศ์” ย้ำปรับ ครม.เป็นอำนาจนายกฯ เชื่อ “ภูมิใจไทย” ไม่ถอนตัวจากพรรคร่วมรัฐบาล
"มนพร" ลุยแก้ปัญหาผู้รับเหมาทิ้งงาน ปรับปรุงท่าเรือเกาะสมุย
"มาริษ" รับเป็นสิทธิกัมพูชาฟ้องศาลโลก ยังเชื่อเวที JBC แก้ปัญหาขัดแย้ง เร่งผลักดันให้เกิดเร็วที่สุด
สายมูตัวจริงต้องไม่พลาด! "สุดาวรรณ" ปักหมุด เปิดเส้นทางสายบุญ "พระธาตุนครลำปาง" เชื่อมศรัทธา 8 วัดศักดิ์สิทธิ์
"รมว.ปุ๋ง" สยบข่าวลือ ชี้นายกฯแซวเล่นโยนตอบปรับ ครม.
"กรมลดโลกร้อน" ชวนร่วมกิจกรรม "วันสิ่งแวดล้อมโลก" ปี68 รวมพลัง ใช้พลาสติกอย่างเข้าใจ เปลี่ยนประเทศไทยให้ยั่งยืน
"ภูมิธรรม" ยืนกราน "รัฐบาล-กองทัพ" ยังเป็นเอกภาพแกัปัญหาชายแดน ท่าที "กัมพูชา" ยังคุยลดรุนแรงได้ดีกว่าปิดด่าน
“อดีต สว.คำนูณ” ลั่นไทยไม่ยอมรับเขตอำนาจศาลโลก จี้ “นายกฯอิ๊งค์” ออกมาแจงให้ชัดเจน
"เชียงใหม่" ระทึก! แผ่นดินไหวขนาด 4.5 จุดศูนย์กลางที่ "อำเภอพร้าว" หลายจังหวัดรับรู้ถึงแรงสั่นสะเทือน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น