“สรรเพชญ” คาใจงบฯ 69 รัฐตั้งขาดดุลกว่า 8 แสนล้าน เน้นกู้เงินชดเชย ห่วงไร้แผนคุมหนี้ ไม่ตอบโจทย์แก้ราคาสินค้าเกษตร กระจายเงินพัฒนาท้องถิ่น

"สรรเพชญ" คาใจงบฯ 69 รัฐตั้งขาดดุลกว่า 8 แสนล้าน เน้นกู้เงินชดเชย ห่วงไร้แผนคุมหนี้ ไม่ตอบโจทย์แก้ราคาสินค้าเกษตร กระจายเงินพัฒนาท้องถิ่น

“สรรเพชญ” คาใจงบฯ 69 รัฐตั้งขาดดุลกว่า 8 แสนล้าน เน้นกู้เงินชดเชย ห่วงไร้แผนคุมหนี้ ไม่ตอบโจทย์แก้ราคาสินค้าเกษตร กระจายเงินพัฒนาท้องถิ่น

 

ข่าวที่น่าสนใจ

30 พฤษภาคม 2568 นายสรรเพชญ บุญญามณี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคประชาธิปัตย์ ได้ตั้งข้อสังเกตต่อร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 ว่า แม้จะเป็นงบประมาณที่รัฐบาลจัดทำขึ้นในบริบทของการฟื้นฟูเศรษฐกิจ แต่ยังคงมีประเด็นหลายด้านที่ควรจับตา โดยเฉพาะในเรื่องความสมดุลทางการคลัง และทิศทางการจัดสรรงบประมาณให้สอดคล้องกับการแก้ปัญหาเชิงโครงสร้าง

 

 

 

หนึ่งในประเด็นหลักที่ได้รับความสนใจ คือ การตั้งงบประมาณแบบขาดดุลในวงเงินสูงถึง 860,000 ล้านบาท ซึ่งสะท้อนว่า รัฐบาลยังคงต้องพึ่งพาการกู้เงินอย่างต่อเนื่องเพื่อชดเชยรายจ่าย ซึ่งตนเข้าใจได้ว่าเป็นความจำเป็นในระยะสั้นเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ในระยะยาว ควรมีแผนลดระดับการขาดดุลและควบคุมหนี้สาธารณะให้เกิดเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ รวมถึงในส่วนของงบกลาง ซึ่งถูกจัดสรรไว้ถึง 632,968 ล้านบาท หรือประมาณร้อยละ 16.7 ของงบประมาณทั้งหมด ยังเป็นงบที่ไม่มีการแจกแจงรายละเอียดอย่างเพียงพอ และมีลักษณะการรวมศูนย์อำนาจการตัดสินใจไว้ที่ส่วนกลางค่อนข้างมาก ทำให้ยากต่อการตรวจสอบประสิทธิภาพในการใช้งบ แต่งบประมาณในส่วนนี้ก็ยังคงมีความจำเป็นในช่วงที่รัฐบาลต้องแก้ไขปัญหาที่เร่งด่วนที่ไม่อาจคาดคะเนได้ ซึ่งหากรัฐบาลสามารถแจกแจงที่มาที่ไป การใช้จ่ายงบประมาณให้ประชาชนร่วมตรวจสอบได้จะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนเป็นอย่างมาก และเป็นการย้ำให้ประชาชนได้เห็นถึงความโปร่งใสตรวจสอบได้ในกระบวนการงบประมาณของรัฐบาล

นอกจากนี้ นายสรรเพชญ ยังได้เสนอข้อสังเกตต่อบทบาทของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งควรมีบทบาทที่ชัดเจนและเชิงรุกมากยิ่งขึ้นในการบรรเทาปัญหาค่าครองชีพที่ยังอยู่ในระดับสูง พร้อมเสนอให้ฟื้นฟูมาตรการลดราคาสินค้าจำเป็นในรูปแบบที่เข้าถึงประชาชนได้อย่างทั่วถึง เช่น โครงการธงฟ้า ควบคู่กับการรักษามาตรฐานคุณภาพสินค้า ไม่ใช่มุ่งเพียงลดราคาแต่กลับละเลยความปลอดภัยหรือคุณภาพที่ประชาชนควรได้รับ ทั้งนี้ ยังสะท้อนปัญหาราคาสินค้าเกษตรที่ตกต่ำอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะพืชเศรษฐกิจสำคัญอย่างปาล์มน้ำมัน ยางพารา และข้าว ซึ่งกระทบต่อรายได้ของเกษตรกรจำนวนมากทั่วประเทศ จึงเสนอให้รัฐบาลเร่งจัดสรรงบประมาณเพื่อสนับสนุนการเปิดตลาดใหม่และขยายการส่งออกในไตรมาสถัดไป เพื่อช่วยพยุงราคาสินค้าเกษตรและรักษาเสถียรภาพรายได้ของภาคเกษตรกรรมต่อไป

ขณะที่ในด้านการกระจายอำนาจ นายสรรเพชญ ตั้งข้อสังเกตว่า งบประมาณที่จัดสรรให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแม้จะมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นจากปีก่อน แต่ยังต่ำกว่าร้อยละ 35 ตามกรอบแนวนโยบายการกระจายงบประมาณตามกฎหมาย จึงควรมีการเร่งรัดให้เกิดการกระจายงบประมาณสู่ท้องถิ่นอย่างแท้จริง เพื่อให้การพัฒนาเกิดขึ้นจากฐานราก และตอบโจทย์พื้นที่ได้ตรงจุดมากขึ้น นายสรรเพชญเสนอว่า ในปีงบประมาณ 2570 รัฐบาลควรกำหนดเป้าหมายการจัดสรรงบท้องถิ่นให้ได้อย่างน้อย ร้อยละ 30 ของงบทั้งหมด และควรมีการกระจายภารกิจด้านการลงทุนเพิ่มขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อให้สอดคล้องกับหลักการกระจายอำนาจและการพัฒนาที่ยั่งยืน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"หมอมิ้ง" ยัน "นายกฯอิ๊งค์" ไม่ลาออก ย้ำเจตนารมย์คุย "ฮุน เซน" ทำเพื่อชาติ มั่นใจปท.ผ่านพ้น 2 วิกฤต
ไม่รอด ! ฉวยโอกาส ขณะกำลังฝ่ายความมั่นคงเฝ้าชายแดน 2 ผู้ต้องหาลอบขนบุหรี่เถื่อนจากกัมพูชา
จันทบุรี จับสายลับกัมพูชาพร้อมโดรนและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ชี้เป้า กองบิน 5 จ.ประจวบคีรีขันธ์
"โฆษกกต." เผยไทยเชิญองค์การระหว่างประเทศ เข้าพบ “18 เชลยกัมพูชา” พรุ่งนี้ รับทราบข้อเท็จจริง ไล่บี้เขมรชดใช้ปมยิงถล่มรพ.-บ้านพลเรือน
ฉะเชิงเทรา ผบ.พล.ร.11 รับมอบสิ่งของธารน้ำใจ ปชช. ส่งถึงทหารแนวหน้า
สื่อกัมพูชา แท็กทีมปั่นเฟกนิวส์ไม่หยุด หลัง “มาลี” แถลงอ้างไทยส่งทหาร วางลวดหนามช่องอานม้า รุกล้ำเขมร

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​