“โปรเพชร” สดมภ์ แก้วกาญจนา คว้าแชมป์เอเชียนทัวร์รายการ “โคเรีย โอเพ่น” รับเงินรางวัล 362,811 เหรียญฯ (ราว 12 ล้านบาท) และสิทธิ์เล่นรายการเมเจอร์ “ดิ โอเพ่น” ณ สนามดุน คอร์ส พาร์ 71 ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2568
โปรหนุ่มจากนราธิวาส ซึ่งจบรอบสามตามหลังผู้นำ ภูมิ ศักดิ์แสนศิลป์ หนึ่งสโตรก ทำรอบสุดท้าย 1 อันเดอร์ จาก 4 เบอร์ดี้ 3 โบกี้ คว้าแชมป์ที่สกอร์รวม 7 อันเดอร์ ซึ่งนับเป็นแชมป์ที่ 3 ในเอเชียนทัวร์ต่อจาก บังกาเทศ โอเพ่น 2019 และ สิงคโปร์ โอเพ่น 2022
ขณะที่ ภูมิ ได้รองแชมป์ที่สกอร์รวม 5 อันเดอร์ หลังจากรอบสองตี 2 โอเวอร์ รับเงินรางวัล 87,082 เหรียญฯ (ราว 2.9 ล้านบาท)
สดมภ์ รับเงินรางวัล 362,811 เหรียญฯ (ราว 12 ล้านบาท) พร้อมสิทธิ์ในการเล่นเมเจอร์รายการ “ดิ โอเพ่น” ซึ่งจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 13-20 กรกราคม 2568 ซึ่งจะเป็นครั้งที่ 3 สำหรับสดมภ์จะได้เล่นรายการเมเจอร์ โดยก่อนหน้านั้นได้เคยเล่นทั้ง ยูเอส พีจีเอ แชมเปี้ยนชิพ 2022 และ ดิ โอเพ่น 2022 โดยเฉพาะในรายการ ดิ โอเพ่น นั้น สดมภ์ ทำผลงานเยี่ยมด้วยอันดับ 11 ร่วม ในปี 2022
“ตื่นเต้นมากครั้ง ก็พยายามมีสมาธิกับเกมให้มากกว่า 3 รอบแรก ในที่สุดก็ทำได้ ดีใจมากครับ นับเป็นเกียรติอย่างยิ่งเพราะนี่เป็นรายการกอล์ฟที่ยิ่งใหญ่รายการหนึ่งในภูมิภาคนี้” โปรวัย 26 ปี ซึ่งเล่นรายการที่ 6 ในฤดูกาลนี้ กล่าว
สดมภ์ เป็นนักกอล์ฟไทยคนที่ 3 ที่ได้แชมป์รายการนี้ต่อจาก ธงชัย ใจดี (2000) และแจ๊ส เจนวัฒนานนท์ (2019)
สิงห์ คอร์เปอเรชั่น ในฐานะ โกลบอล สปอร์ต พาร์ทเนอร์ชิพ การแข่งขันกอล์ฟที่เก่าแก่ที่สุดรายการหนึ่งอย่าง “ดิ โอเพ่น” กำลังหา 8 ผู้ชนะจาก “สิงห์ ไทยแลนด์ ชาลเลนจ์”รับรางวัล “สิงห์ ดิ โอเพ่น ดิ เอ็กซ์คลูซีฟทริป” เดินทางไปชมการแข่งขัน ดิ โอเพ่น ครั้งที่ 153 ที่สนาม รอยัล พอร์ตรัช ประเทศไอร์แลนด์เหนือ เพื่อร่วมเชียร์ “โปรสดมภ์” โปรกอล์ฟชาวไทยหัวใจสิงห์ ในการแข่งขันกอล์ฟเมเจอร์อย่าง “ดิโอเพ่น” โดยรอบสุดท้ายเพื่อหา 4 คนสุดท้ายจะมีขึ้นที่วันที่ 31 พฤษภาคม 2568 ที่สนามริเวอร์เดล กอล์ฟคลับ