สหรัฐเผชิญพายุทอร์นาโดหลายลูกตายเจ็บเพียบ

ราบเป็นหน้ากลอง! พายุทอร์นาโดสร้างความเสียหายอย่างหนักให้กับรัฐทางใต้และตอนกลางหรือมิดเวสต์ของสหรัฐ ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 27 คน บ้านพังราบไปหลายพันหลัง โดยรัฐเคนตั๊กกี้และมิสซูรี่โดนถล่มหนักที่สุด

AP และ AFP รายงานว่าหลายพื้นที่ทางภาคใต้และมิดเวสต์ของสหรัฐเผชิญกับสภาพอากาศรุนแรงและพายุฝนฟ้าคะนองเมื่อกลางดึกของคืนวันศุกร์ (16 พค.) ต่อเช้ามืดวันเสาร์ (17 พค.) ตามเวลาท้องถิ่น ทำให้เกิดพายุทอร์นาโดอย่างน้อย 6 ลูกเคลื่อนตัวผ่านรัฐเคนตั๊กกี้และมิสซูรี่ สร้างความเสียหายอย่างหนัก บ้านเรือนพังราบเป็นหน้ากลอง

โดยที่รัฐเคนตั๊กกี้ นายแอนดี้ บีเชียร์ ผู้ว่าการรัฐแถลงผ่าน X ว่ามีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 18 คนจากพายุทอร์นาโด คาดว่าจำนวนผู้เสียชีวิตจะเพิ่มขึ้นอีก และบาดเจ็บสาหัสอีก 10 คน นอกจากนี้ต้องสั่งปิดพื้นที่บางช่วงของทางหลวงไปกว่า 20 แห่ง

เจ้าหน้าที่เผยว่าล่าสุดพบผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 17 คนที่เขตลอว์เร็วและ 1 คนที่เขตพูลาสกี้ นอกจากนี้ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกจำนวนมาก เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้ค้นหาผู้รอดชีวิตจากใต้ซากอาคารบ้านเรือนตลอดทั้งคืน ขณะที่เมืองลอนดอน มีรายงานว่าบ้านเรือนถูกทำลายไปหลายร้อยหลัง รถยนต์รถปิคอัพถูกต้นไม้ล้มทับและลมพัดปลิวพังเสียหายเป็นจำนวนมาก

ส่วนที่รัฐมิสซูรี่ พายุทอร์นาโดได้เคลื่อนผ่านเมืองเซนต์หลุยส์ ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 5 คนและทำลายอาคารบ้านเรือนไปกว่า 5 พันหลัง และทำให้มีผู้เสียชีวิตอีก 2 คนที่ในเขตสก็อต ทางตะวันออกเฉียงใต้ของรัฐมิสซูรี่

โฆษกที่โรงพยาบาลสองแห่งที่เมืองเซนต์หลุยส์เผยว่ามีผู้ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลรวมแล้วเกือบ 70 คน ในจำนวนนี้มีเด็กอย่างน้อย 15 คน

ทั้งนี้รัฐเคนตั๊กกี้ได้ประกาศภาวะฉุกเฉินใน 5 เขต ขณะที่รัฐมิสซูรี่ประกาศภาวะฉุกเฉินที่เมืองเซนต์หลุยส์ในช่วงเวลากลางคืนเพื่อป้องกันการปล้นสะดมและป้องกันเศษซากความเสียหายตกใส่ประชาชนได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่ได้จัดตั้งศูนย์ผู้ประสบภัยหลายแห่งและเร่งส่งความช่วยเหลือและสิ่งของบรรเทาทุกข์เข้าไปยังพื้นที่ประสบภัย ทั้งนี้มีรายงานว่าพายุได้ตัดขาดกระแสไฟฟ้าเป็นบริเวณกว้างที่รัฐมิสซูรี่, เคนตั๊กกี้และมิชิแกน กระทบบ้านเรือนประชาชนมากกว่า 3 แสน 3 หมื่นหลัง

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) ส่องเหล่า 'แพนด้ายักษ์' ใช้ชีวิตหน้าร้อนแสนสบาย
(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) 'หูซินถิง' โรงน้ำชาชื่อดังของเซี่ยงไฮ้หวนเปิดรับลูกค้าอีกครั้ง
(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) จีนเปิดโครงการ ”โซลาร์เซลล์ลอยน้ำ” ในทะเลแห่งแรกที่ชิงเต่า
"อบจ.สมุทรปราการ" ร่วมกองทัพเรือ จัดแสดง “แสง เสียง สื่อผสม มิวสิคัลรำลึก"เหตุการณ์ ร.ศ.112” ส่งเสริมท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์
"กกต." แจงลือชุดสืบสวน พร้อมชงผลสอบ วินิจฉัยเอาผิด "ทักษิณ" ครอบงำ ยุบ 6 พรรคร่วม ไม่เป็นความจริง
"ผบ.รร.สธ.ทบ." นำหลักสูตร บมท.ชุดที่2 ดูงานพื้นที่ภาคเหนือ จ.ตาก เพื่อศึกษางานความมั่นคงแนวชายแดน ควบคู่การดำเนินกิจกรรมเพื่อสังคม
ทบ.โต้ข่าว ทหารกัมพูชายึด "ภูมะเขือ" ไม่เป็นความจริง แจงเป็นพื้นที่พิพาท 2 ปท.ต่างอ้างสิทธิ์ ยันพร้อมปกป้องอธิปไตยหากถูกละเมิดข้อตกลง
“เอกนัฏ” ส่งทีมสุดซอย จับโรงงานรีไซเคิล ลักลอบนำเข้ายางเถื่อนจากกัมพูชา กว่า 1 พันตัน
รัสเซียชี้เยอรมนีกลับมาเป็นประเทศอันตรายอีกครั้ง
หวั่น "ปลาหมอบัตเตอร์" ระบาดหนัก ชาวบ้านจับขาย จนลืมผลกระทบระบบนิเวศ

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น