หลักฐานมัด “ปลาหมอบัตเตอร์” มาจากขบวนการลักลอบค้าปลา

เป็นที่รู้กันมานานว่าประเทศไทย เป็นแหล่งใหญ่ที่ขายปลาสวยงามปลาแปลก ทั้งถูกและผิดกฎหมาย มีตลาดซื้อขายขนาดใหญ่อยู่กลางกรุง และมีที่เพาะเลี้ยงกระจายอยู่ในหลายจังหวัด โดยเฉพาะปลาต้องห้ามนำเข้าหลายชนิด ถ้าหากปลาเหล่านี้หลุดลงแหล่งน้ำธรรมชาติ อาจมีผลกระทบกับระบบนิเวศ เช่น การลักลอบนำเข้า "ปลาหมอบัตเตอร์"

“ปลาหมอบัตเตอร์” คือ 1 ใน 3 ปลาหมอต่างถิ่น ที่ห้ามนำเข้ามาในประเทศ นอกเหนือจากปลาหมอมายัน และปลาหมอคางดำ จากการสืบค้นของเจ้าหน้าที่กรมประมง พบว่ามีผู้ลักลอบนำเข้า และแอบเพราะเลี้ยงอยู่ในกระชัง กลางเขื่อนสิริกิติ์ จังหวัดอุตรดิตถ์ และเขื่อนศรีนครินทร์ จังหวัดกาญจนบุรี มาตั้งแต่ ปี 2546 ก่อนจะขยายพันธุ์มากขึ้นจนถึงปัจจุบันนี้

 

 

คำยืนยันจากผู้ประกอบการแพปลาในเขื่อนสิริกิติ์ ว่าพบเจอปลาหมอบัตเตอร์มานานมากกว่า 20 ปี โดยจุดเริ่มต้นมาจากมีผู้นำมาเลี้ยงไว้ในกระชัง ซึ่งคาดว่าเป็นนายทุนขบวนการค้าปลาส่งออกเป็นผู้ว่าจ้าง ต่อมาเมื่อปลาไม่ได้เป็นที่นิยมในตลาดต่างประเทศ ส่วนที่ยังเหลืออยู่นี้ ก็ไม่ได้นำมาทำลาย แต่กลับปล่อยลงไปในเขื่อน ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ว่าจะเกิดผลร้ายแรงตามมา

 

โดยธรรมชาติ “ปลาหมอบัตเตอร์” เมื่อโตเต็มวัยจะมีขนาด 30-40 เซนติเมตร มีนิสัยดุร้าย หวงอาณาเขต โดยเฉพาะในช่วงการวางไข่และเลี้ยงลูกอ่อน ทำให้เปอร์เซนต์การมีชีวิตรอดของลูกปลาสูง โดยนับตั้งแต่ปี 2550 ที่พบเพียง 30 ตัว กลับเพิ่มจำนวนถึงหนึ่งหมื่นตัว ในช่วงเวลาเพียง 10 ปีเท่านั้น หรือเพิ่ม 300 % อีกทั้งปลาหมอบัตเตอร์ยังเป็นปลาที่กินจุ ทำให้ไล่กินลูกกุ้ง ลูกปลาพื้นถิ่นชนิดอื่น ๆ จนชาวประมงบ่นให้ฟังว่า ทุกวันนี้ไม่ค่อยจะพบปลาแรด และปลาหมอช้างเหยียบอีกแล้ว แต่จับได้ปลาหมอบัตเตอร์มาแทน จึงถือว่าสร้างผลกระทบต่อระบบนิเวศไม่น้อยทีเดียว

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ขณะที่ภาครัฐ ทั้งผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ และประมงจังหวัด ต่างเร่งลงพื้นที่เพื่อกำชับเกษตรกรปลากระชังว่า ห้ามเพาะเลี้ยงเด็ดขาด และหากจับได้ให้ทำลายหรือนำไปทำอาหาร เนื่องจากเนื้อปลาหมอบัตเตอร์ มีรสชาติคล้ายกับปลานิล ที่สำคัญก็เพื่อป้องกันมิให้มีผู้นำปลาต่างถิ่นชนิดนี้ออกไปแพร่พันธุ์ในแหล่งน้ำอื่น ๆ ได้ ซึ่งเคราะห์ดีที่ตรงนี้ยังเป็นแหล่งน้ำปิด ส่วนสาเหตุที่ระบาด ก็มองว่ามีผู้ลักลอบนำเข้ามาแอบเลี้ยงนั่นเอง ขณะนี้ ทางการ จึงสั่งกำชับกับแพปลา รวมทั้งนักตกปลาว่า ห้ามนำปลาหมอบัตเตอร์ที่มีชีวิตออกไปจากเขื่อนอย่างเด็ดขาด พร้อมกำหนดโทษ เพื่อป้องกันไม่ให้หลุดลงไปสร้างปัญหาในแม่น้ำลำคลองซ้ำอีก

 

 

การมีอยู่ของ ปลาหมอบัตเตอร์ คือหลักฐานที่ยืนยันได้ว่า ในประเทศไทยมีขบวนการเลี้ยงและส่งออกปลาสวยงามและปลาแปลกมานานแล้ว โดยมีคำสั่งซื้อมาจากหลายประเทศ อาทิ อินโดนีเซีย มาเลเซีย และ สหรัฐอเมริกา เป็นต้น ขึ้นอยู่กับว่าขณะนั้นจะนิยมเลี้ยงปลาชนิดใด ขบวนการเหล่านี้จะแอบนำเข้ามาเพาะเลี้ยงส่งขายทำกำไร แม้ที่ผ่านมาทางภาครัฐจะบังคับใช้กฎหมาย แต่ก็ไม่สามารถจับผู้ทำผิดทั้งได้เลย นั่นเพราะการทำลายหลักฐานสามารถทำได้ง่าย เพียงแค่เททิ้งลงในแหล่งน้ำ เมื่อสืบย้อนกลับไปที่ผู้ส่งออก คนเหล่านี้จะใช้วิธีปิดบริษัทหนี ทำลายหลักฐาน

 

เมื่อนำมาเทียบเคียงกับกรณีผู้ส่งออกปลา ชื่อ Blackchin Tilapia ซึ่งแปลตรงตัวว่า “ปลาหมอคางดำ” ก็พบว่าหลายบริษัทได้ปิดตัวไปแล้ว จึงไม่ได้มาตามที่คณะอนุกรรมาธิการเรียก ส่วนที่เข้ามาให้การณ์ ก็อ้างง่าย ๆ ว่า เป็นแค่การกรอกชื่อผิด ทั้งที่ส่งออกไปแล้วกว่าสามแสนตัว ตลอด 4 ปีที่ผ่านมา จากเรื่องนี้เอง ทางภาครัฐ จึงควรเร่งหาความกระจ่างมาตอบให้กับสังคมโดยเร็วที่สุด ก่อนที่จะมีปลาหรือสัตว์ต้องห้ามชนิดอื่น โผล่มาระบาดได้อีก

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

“ราชินีแห่งราชินี” ผู้ทรงเป็น “พระแม่แห่งแผ่นดิน”
นักท่องเที่ยวและประชาชนกว่า 1,000 คน ร่วมงาน “กินเจ อิ่มบุญ”
“OCEAN CHUMPHON Soft Power Runway” ฉลองครบรอบ 42 ปี ปลุกพลัง Soft Power
ชาวระนองร่วมแสดงความอาลัย “สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง” ในพิธีแห่พระใหญ่ เทศกาลถือศิลกินผัก
อวสาน“เสือเหลือง” สายแว้นเมืองคอน
ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 แถลงการณ์จับกุมคดียาเสพติดรายสำคัญ จำนวน 2 คดี

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​