CNN และ AFP รายงานว่าประธานาธิบดีสี จิ้นผิง กล่าวระหว่างเป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมสุดยอดจีน-กลุ่มประเทศละตินอเมริกาและแคริบเบียน (China-CELAC) ที่กรุงปักกิ่งเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา (อังคารที่ 13 พค.) ว่า “โลกปัจจุบันกำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วแบบไม่เคยเห็นมาก่อนในรอบศตวรรษ ทำให้เกิดความเสี่ยงต่อผลประโยชน์ทับซ้อน” ดังนั้น “ความร่วมมือระหว่างนานาชาติจึงเป็นสิ่งจำเป็นและหลีกเลี่ยงไม่ได้”
ผู้นำจีนกล่าวต่อว่า “ไม่มีผู้ใดได้ชัยชนะในสงครามภาษีหรือสงครามการค้า การบูลลี่หรือการครอบงำคนอื่นมีแต่จะนำไปสู่การโดดเดี่ยวตัวเอง” ถือเป็นการพูดเหน็บแนมสหรัฐอย่างแนบเนียน
คำเตือนของประธานาธิบดีสีมีขึ้นเพียงวันเดียวหลังจากจีนและสหรัฐบรรลุข้อตกลงลดการเผชิญหน้าทางการค้าระหว่างกันหลังเจรจามาราธอนเต็ม 2 วันเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาที่สวิตเซอร์แลนด์ โดยทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะลดกำแพงภาษีระหว่างกันเป็นการชั่วคราว 90 วันโดยสหรัฐลดเหลือ 30% จากเดิม 145% ส่วนจีนจะลดเหลือ 10% จาก 125%
พร้อมกันนี้สีก็กล่าวชื่นชมความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับกลุ่มประเทศละตินอเมริกาและแคริบเบียนว่ามีความยาวนานและเป็นมิตร พร้อมเปรียบเทียบการประชุมสุดยอดครั้งนี้ว่าเปรียบเหมือนต้นไม้ใหญ่ที่แข็งแกร่ง ผู้นำจีนยังให้คำมั่นจะให้เงินสินเชื่อจำนวน 9 พัน 200 ล้านดอลล่าร์สหรัฐเพื่อใช้ในการพัฒนาภูมิภาคละตินอเมริกาและแคริบเบียน
ทั้งนี้ จีนได้ยกระดับความร่วมมือทางด้านเศรษฐกิจและการเมืองกับกลุ่มประเทศละตินอเมริกาในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา และได้เรียกร้องพันธมิตรละตินอเมริกาให้ผนึกกำลังต่อต้านสงครามภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์