จบแล้วทักษิณ! “จตุพร” เชื่อศาลฎีกาฯ นำมติแพทยสภา ประกอบไต่สวนนักโทษติดคุกไม่ครบคำพิพากษา

จบแล้วทักษิณ! "จตุพร" เชื่อศาลฎีกาฯ นำมติแพทยสภา ประกอบไต่สวนนักโทษติดคุกไม่ครบคำพิพากษา

วันนี้ 9 พ.ค. 68 เวลา 9.00 น. นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน โพสต์เฟซบุ๊ก ว่า “จบแล้วทักษิณ มติแพทยสภาเอกฉันท์ชี้ไม่มีหลักฐานระบุอาการป่วยวิกฤต เชื่ออยู่ชั้น 14 รพ.ตำรวจ เกิดจากช่วยคนทำผิดหนีโทษติดคุก ซ้ำร้ายศาลไม่ให้ออกนอกประเทศ อุปสรรคขวากหนามขวางกันปิดทางสู้ยากลำบาก แนะกล้าติดคุก อย่าปากกล้าขาสั่นหนีอีก จับตาผลพวงจัดการขบวนการสมคบคิด ละเมิดกฎหมายจะตามมาเป็นพรวน”

นายจตุพร กล่าวว่า เชื่อว่า กรณีชั้น 14 รพ.ตำรวจ ถือว่าจบแล้ว เมื่อแพทยสภามีมติด้วยเสียงมากๆ แสดงถึงมติเอกฉันท์ว่า ไม่มีหลักฐานเชิงประจักษ์ชัดถึงอาการทักษิณ ชินวัตร ได้ป่วยขั้นวิกฤต

ดังนั้น ผลตรวจสอบของแพทยสภา จึงมีมติลงโทษพักใบอนุญาตแพทย์ที่เกี่ยวข้อง 2 คนและตักเตือน 1 คน สิ่งสำคัญการพิจารณาของแพทยสภา ยังเป็นคนละความหมายตรงกันข้าม กับนายกฯ อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร ยืนยันว่า ทักษิณ ป่วยจริงและผ่าตัดจริงด้วย

“สิ่งนี้แสดงว่า ไม่มีใครปกปิดข้อเท็จจริงหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ได้ เชื่อว่าผลการพิจารณาของแพทยสภาส่งผลต่อวันที่ 13 มิ.ย. (ศาลฎีกานักการเมืองนัดพร้อมหรือไต่สวน การบังคับตามหมายจำคุก)”

นายจตุพร กล่าวว่า ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา อุปนายกแพทยสภาคนที่ 1 ให้สัมภาษณ์ว่า มติของแพทยสภามีจำนวนมากๆ ที่ออกเสียงลงโทษจริยธรรมของแพทย์รักษาทักษิณ ซึ่งเป็นความเห็นที่มีนัยสำคัญอย่างยิ่ง และแว่วว่า ที่ประชุมแพทยสภามีมติลงโทษมากกว่า 4 ใน 5 ดังนั้น นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข จึงควรมีความเห็นด้วยความรอบคอบเช่นกัน

อีกทั้งกล่าวว่า ขั้นตอนต่อไป ต้องเสนอผลการตรวจสอบให้ รมว.สาธารณสุข พิจารณาลงโทษตามมติแพทยสภาหรือไม่ จากนั้นนำสู่การพิจารณาของแพทยสภาอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ถ้าแพทยสภาเห็นแย้งกับ รมว.สาธารณสุข ต้องใช้เสียง 2 ใน 3 หากเห็นด้วยแล้วใช้เสียงเพียง 1 ใน 3

ส่วนศาลอาญายกคำร้องทักษิณขอไปต่างประเทศนั้น นายจตุพร กล่าวว่า ศาลพิเคราะห์ถึงการเชิญทักษิณด้วยจดหมายอิเล็กทรอนิกส์หรืออีเมล์ ให้ไปร่วมอาหารค่ำที่พระราชวังประเทศกาตาร์ ถือเป็นการเชิญส่วนตัว ไม่เกี่ยวกับฐานะที่ปรึกษาส่วนตัวนายกฯ มาเลเซีย ที่เป็นประธานอาเซียน และการระบุโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ จะมาร่วมงานเลี้ยงด้วยเป็นเพียงการคาดหมาย ซึ่งไม่มีกำหนดการแน่ชัดในการเจรจาด้านเศรษฐกิจของไทย

“ประกอบกับช่วงที่ขอเดินทางไปต่างประเทศ อยู่ใกล้วันนัดพิจารณาคดีที่ศาลฎีกา (นักการเมือง) และศาลอาญา คดี ม.112 อาจกระทบต่อการพิจารณาของศาลได้ จึงไม่มีเหตุหนักแน่นเพียงพอให้จำเลย (ทักษิณ ชินวัตร) เดินทางออกนอกราชอาณาจักร จึงยกคำร้อง”

นายจตุุพร กล่าวว่า ทักษิณต้องตัดสินใจอย่างใดอย่างหนึ่งว่า จะเอาอย่างไง เพราะที่ผ่านมาการหลบหนีคดีไม่มารับโทษถึง 17 ปีและต้องการกลับประเทศไทยอย่างเท่ๆ จึงทำให้เกิดเรื่องราวต่างๆ มากมาย ซึ่งความจริงแล้วโทษจำคุก 1 ปี ติดเพียง 6 เดือน หลังจากรับพระราชทานอภัยลดโทษนั้นน้อยนิดมาก ถ้าเทียบโทษติดคุกของคนอื่นที่ร่วมกับทักษิณมา ซึ่งโทษของทักษิณ เล็กน้อยมาก

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ดังนั้น เมื่อทักษิณไม่ติดคุกสักวันเดียว จึงทำให้เรื่องราวไปจบและกำลังใกล้มาถึงจะจบคดี ม.112 อีกคดี แม้ รมต.บางคนพยายามอธิบายว่า ไม่เกี่ยวข้องกับรัฐบาล ไม่ต้องกังวล แต่ รมต.คนพูดไม่ได้ติดคุกเอง และไม่มีประสบการณ์ติดคุกด้วยก็พูดเอาดีอย่างไรก็ได้

“ผลการตรวจสอบของแพทยสภาเป็นเหมือนหัวใจกรณีชั้น 14 เพราะเหตุราชทัณฑ์ส่งตัวทักษิณมา รพ.ตำรวจได้ต้องป่วยวิกฤต เมื่อเสียงส่วนใหญ่มากๆ ของแพทยสภาชี้ถึงภาวะไม่มีหลักฐานเชิงประจักษ์ ว่าป่วยวิกฤตแล้ว ย่อมมองถึงการต่อสู้คดีของทักษิณ เป็นเรื่องที่ยากมากและจะเป็นเหตุ ให้ต้องกลับไปจำคุกที่เรือนจำ”

อีกทั้งเชื่อว่า ทักษิณ คนติดคุกย่อมต้องวิตก เพราะการกลับไปเรือนจำนั้น เหตุไม่ได้ป่วยวิกฤตจะมีผลพวงตามมาอีกมาก โดยราชทัณฑ์และแพทย์ที่เกี่ยวข้องต้องรับผิดชอบ ถ้าเป็นการสมคบคิดแบ่งงานกันทำ ย่อมเป็นขบวนการทำความผิดจึงอาจต้องรับผิดชอบ

“เรื่องราวหลังจากนี้จะมีตามมาอีกมาก ทั้งการละเมิดอำนาจศาล แจ้งความเป็นเท็จไม่ให้รับโทษทางอาญา จะเป็นคดีใหม่ยาวเหยียดเพิ่มเติมกันอีก หรืออาจมีใครไปยื่นว่า ไม่ได้เป็นไปตามพระบรมราชโองการฯ รวมทั้งมีคดี ม.112 ติดตัวอีก จึงเป็นวิบากกรรมจากนี้ไปของทักษิณ”

นายจตุพร กล่าวว่า มติของแพทยสภาย่อมทำให้วงการแพทย์ และกระบวนการยุติธรรมพอได้เห็นแสงสว่างกันบ้าง ดังนั้นฝ่ายการเมืองคงคาดการณ์อนาคตกันได้ เพราะด้วยหลักวิญญูชนคิดได้ว่า นายกฯ อยู่ได้เพราะพ่อนายกฯ

ส่วนวันที่ 13 มิ.ย. นี้ ศาลฎีกานักการเมืองนัดพร้อมหรือไต่สวนนั้น หากศาลออกหมายเรียกให้ทักษิณไปศาล ถ้าทักษิณไม่ไปต้องถูกหมายจับ แล้วจะกลายเป็นอีกเรื่องซ้ำเติมมาทันที ดังนั้นหนทางข้างหน้าจึงมากด้วยอุปสรรคขวากหนาม เพราะเมื่อทักษิณได้รับโอกาสแล้ว แต่ได้ทำลายโอกาสนั้นด้วยตัวเอง

 

อาจเป็นรูปภาพของ 1 คน และ ข้อความพูดว่า "ประกศไทยต้องมาก่อน ประกาศไทย ต้องมาก่อน เมื่อความจริงปรากฏ ควา มจริง ปรากฎ จบแล้ว"ทักษิณ จบแล้ว ล้ว 'ทักษิณ" ิณ" 'ทัก์ ยอมติดคุกเสียดีๆ ุกเสีย เสี ยอม ติด ดีๆ G Thailand irst PEOPLE'S ThailandFirst PEOPLE'SUNITY UNITY"

“วันนี้ (8 พ.ค.) ถือว่าจบแล้ว เมื่อไม่ป่วยวิกฤตจะไป รพ.ตำรวจ 180 วันได้ด้วยเหรอ นี่เป็นหัวใจของเรื่องที่มีความชัดเจนในข้อเท็จจริงประจักษ์ จึงชี้ถึงเจตนาเลี่ยงข้อกฎหมาย ถ้าเป็นภาษามวยถือว่า จบแล้ว สิ้นสงสัยแล้ว ดังนั้นเหลือเพียงขั้นตอนอื่นๆ เกี่ยวข้องกับคนอื่นๆ ที่ช่วยเหลือผู้กระทำความผิดไม่ให้รับโทษทางอาญา ซึ่งเป็นเรื่องรองลงไป และจะตามมาในความผิดตามข้อกฎหมาย”

นายจตุพร ย้ำอีกว่า เชื่อว่า โดยข้อเท็จจริงแล้ว ไม่มีใครรู้เรื่องการป่วยดีไปกว่าทักษิณ และที่ใหญ่มากกว่านั้นคือ มติแพทยสภาจำนวนมากๆ แสดงถึงนัยเป็นเอกฉันท์ได้พิจารณาอย่างรอบคอบแล้ว จึงทำให้หัวใจการมาชั้น 14 รพ.ตำรวจ ถือว่าจบแล้ว

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

จีนเตือนสหรัฐฯแสดงความ 'จริงใจ'ในการคุยดีลการค้า
“ดนุพร” ลั่นไม่เคยพูด “ทักษิณ” ป่วยวิกฤต แจงยิบถามนายกฯแล้ว ภาพใส่เฝือกคอ-คล้องแขน
"ดีเอสไอ" ลงนามด่วนถึง "ผบ.ตร.-ปลัด มท." พร้อมร่วมมือสอบสวนเอาผิดฟอกเงินคดีฮั้วสว.
ผู้ว่าแบงก์ชาติ เตือนศก.ไทย “จ่อปากเหว” เจรจาภาษีสหรัฐยังไม่ชัด แนะรัฐบาลเร่งปรับโครงสร้าง- คุมสินค้าตปท.ทะลัก-ทบทวนมาตรการแจกเงินหมื่น
เปิดเอกสารเต็มหมายเรียก "สว.อลงกต" รับทราบข้อหาคดีฮั้วเลือกสว. เจ้าตัวไม่อยู่ห้อง นิติคอนโดฯ รับเอกสารไว้แทน
ปูตินสวมกอดทหารเกาหลีเหนือในพิธีสวนสนาม
"วิรังรอง" คาใจแพทย์รพ.ราชทัณฑ์ โดนโทษแค่ตักเตือน ทั้ง ๆ เป็นต้นเหตุปัญหาชั้น 14
รัสเซียฉลองวันชัยชนะครบรอบ 80 ปียิ่งใหญ่
"การบินไทย" โชว์ผลกำไรไตรมาสแรก ปี 68 เติบโตต่อเนื่อง 9.8 พันล้าน เตรียมเดินหน้าออกจากแผนฟื้นฟูกิจการ
งานเข้าอีก ศาลรับฟ้องคดี “ดิว อริสรา” ฉ้อโกง ลวงนำสร้อยเพชรหรูจำนำ นัดไต่สวนมิ.ย.นี้

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น