“พิชิต” ขยี้ซ้ำ 5 คนนี้ว่าอย่างไร “แพทยสภา” ชี้ “ทักษิณ” ไม่ป่วยวิกฤต ซัดนี่คือขบวนการโกหก
ข่าวที่น่าสนใจ
จากกรณีที่ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา อุปนายกแพทยสภาคนที่ 1 แถลงภายหลังจากทำหน้าที่ประธานในที่ประชุมคณะกรรมการแพทยสภาชุดใหญ่ ประจำเดือนพฤษภาคม ซึ่งมีวาระสำคัญ คือการนำเสนอผลสรุปการสอบสวนจริยธรรมแพทย์ที่ผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการกลั่นกรองของแพทยสภา กรณีการพักรักษาตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ
ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ แถลงว่า วันนี้ มีการประชุมคณะกรรมการแพทยสภาครั้งที่ 5/2568 ประจําเดือนพฤษภาคม มีวาระสําคัญคือการพิจารณาคดีจริยธรรมของแพทย์ที่เป็นเรื่องที่อยู่ในความสนใจของประชาชนในกรณีที่มีการกล่าวโทษแพทย์ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ และโรงพยาบาลตํารวจ ผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม ซึ่งที่ประชุมคณะกรรมการแพทยสภา ได้มีมติลงโทษแพทย์ 3 คน เป็นการประกาศตักเตือน 1 คน ในกรณีประกาศวิชาชีพเวชกรรมที่ไม่ได้มาตรฐาน มีการพักใช้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรม 2 คน ในกรณีให้ข้อมูลและเอกสารทางการแพทย์อันไม่ตรงกับความเป็นจริง
แพทย์สภาเสร็จจากการประชุมวันนี้มีหน้าที่จะต้องนําเสนอมติต่อสภานายกฯ พิเศษ คือท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เพื่อขอความเห็นชอบ ก่อนที่จะดําเนินการตามมติ ฉะนั้นวันนี้เป็นมติของที่ประชุม แต่การดําเนินการทั้งหลาย เราจะต้องรอความเห็นจากท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งอันนี้เป็นขั้นตอนตามพระราชบัญญัติวิชาชีพเวชกรรม 2525 ต่อไป
“ 1 ท่านที่เราว่ากล่าวตักเตือน เพราะความผิดอันนั้นไม่ได้รุนแรงมากนัก คือการประกอบวิชาชีพเวชกรรมที่ไม่ได้มาตรฐานเกี่ยวกับการออกใบส่งตัว แต่ว่า 2 ท่านที่ถูกพักไปประกอบวิธีอาชีพเวชกรรมนั้น เป็นเรื่องของการให้ข้อมูลในเอกสารทางการแพทย์ที่ไม่ตรงกับความเป็นจริง”
ขณะนี้ ข้อมูลที่เราได้รับไม่ได้มีหลักฐานเชิงประจักษ์ที่ชัดเจนว่ามีภาวะวิกฤติเกิดขึ้นผมให้ข้อมูลได้แค่นี้ตอนนี้นะครับ แต่ว่าทั้งหมดเนี่ยเป็นเหตุแห่งการที่เรากําหนดต้องมีการลงโทษ การพักใช้ใบประกอบวิชาชีพเวชกรรมถือเป็นการลงโทษรุนแรงกับแพทย์ทุกท่านอยู่แล้ว ฉะนั้นเราถือว่า เป็นการผิดที่รุนแรงด้วยข้อมูลหลักฐานทั้งหลายที่เราได้รับ มันไม่มีหลักฐานเชิงประจักษ์ที่ชัดเจนว่ามีภาวะมีภาวะวิกฤติ ตามที่ท่านไปแถลงข่าว เพราะฉะนั้นก็อยู่ที่ตีความ
วันนี้ทําไมเราไม่สามารถบอกได้ว่าพักใช้นานเท่าไหร่ เพราะว่าการพักใช้นานเท่าไหร่จะต้องผ่านความเห็นชอบของรัฐมนตรีก่อน แล้วถ้าวันนี้เราให้ข้อมูลไปแล้วเกิดไม่ตรงกับท่านรัฐมนตรี เพราะอย่าลืมนะฮะ จําได้นะฮะ และที่แถลงข่าวว่าทั้งหมด 7 ขั้นตอนขั้นตอนสุดท้ายขั้นตอนที่ 7 เนี่ย เราจะต้องส่งมติแพทยสภาไปให้ท่านรัฐมนตรีและท่านรัฐมนตรีเห็นชอบก็ไปตามนั้นเลย แต่ถ้าไม่เห็นชอบเรื่องจะกลับกลับมาที่แพทยสภาเสร็จอีกครั้งจนได้ข้อสรุป แล้วถึงจะออก ถึงตอนหน้าจะมีการแถลงข่าวให้ทราบว่าจะมีการพักใช้ระยะเวลานานเท่าไหร่ เอกสารทั้งหมดที่เราได้รับ ผมใช้คําว่าเอกสารที่เราได้รับ เราอาจจะได้รับไม่หมด แต่ที่เราได้รับทั้งหมดเนี่ย ข้อมูลมันเป็นแบบนั้น
แพทยสภายึดความถูกต้อง ยึดหลักฐานต่าง ๆ เราไม่ได้อิงกับปัจจัยภายนอก ถ้าว่าไปแล้วไม่ได้สนใจด้วยซ้ำเรื่องของเคสนี้คือใครนะ ไม่งั้นอีกหน่อยเราจะมีประเด็น งั้นข้อมูลที่มีอย่างนี้เราสรุปแบบนี้ แล้วก็ผมก็ตอบคําถามให้แล้ว เพียงแต่ให้รู้ว่าโดย พ.ร.บ.2525 เนี่ยเรามีมติอย่างไรมันยังไม่สิ้นสุด คําสั่งยังไม่ออก ออกไม่ได้ จนกว่ารัฐมนตรีเห็นชอบ เพราะฉะนั้นเราไปดูกันอีกครั้งหนึ่งนะครับ หลังจากที่ทั้งหมดเสร็จเรียบร้อย
ผมคิดว่าแพทย์สภามีศักดิ์ศรี แพทย์ทุกคนมีศักดิ์และศรีของตนเอง ในการที่จะดําเนินการในสิ่งที่ถูกต้องและชอบธรรมให้กับสังคม
ล่าสุดทางด้านนายพิชิต ไชยมงคล แกนนำเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า ตามลำดับ แพทยสภาแจ้งว่าไม่มีหลักฐานเชิงประจักษ์ว่าป่วยวิกฤต กระดุมเม็ดแรกบอกว่าไม่ป่วยวิกฤตแล้ว
1.ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพ เอารายงานทางแพทย์จากไหนพานักโทษมานอนโรงพยาบาลตำรวจ
2.อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ท่านอนุญาติได้อย่างไร
3.ปลัดกระทรวงยุติธรรม ท่านให้นอนรักษาตัวต่อได้อย่างไร
4.รัฐมนตรียุติธรรม ท่านอนุญาตให้รักษาตัวต่อได้อย่างไร
5.นายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร เอาหลักฐานจากไหน ที่บอกว่าป่วยวิกฤต มีการผ่าตัดด้วย
นี่คือขบวนการโกหก หลอกลวง ประชาชน ทำลายกระบวนการยุติธรรมที่ร่วมกันเป็นขบวนการ เจ้าภาพร่วมเหล่านี้ ต้องติดคุกตาม ๆ กัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ข่าวล่าสุด
เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น