นายอภิชาติ ศิริสุนทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สภาผู้แทนราษฎร แถลงถึงความคืบหน้าการตรวจสอบการถือครองที่ดินศรีพันวา ที่ จ.ภูเก็ตว่า กมธ.ได้เชิญตัวแทนจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กรมป่าไม้ และกรมที่ดินมาให้ข้อเท็จจริง โดยกมธ.มีข้อมูลเกี่ยวกับข้อเท็จจริงซึ่งตรงกับดีเอสไอ คือเรื่องของพื้นที่ซึ่งไม่มีร่องรอยการทำประโยชน์ โดยมีการตรวจสอบแผนที่แอล 708 ซึ่งเป็นแผนที่ทหาร พบว่าในช่วงที่มีการออกเอกสารสิทธิ์พื้นที่ดังกล่าวยังเป็นพื้นที่ป่าทั้งแปลง ไม่มีร่องรอยการทำประโยชน์ ซึ่งข้อมูลระหว่างกมธ.และดีเอสไอถือว่าตรงกัน โดยทางกมธ.เห็นว่าควรตรวจสอบเพิ่มเติม นอกจากนี้กมธ.จะส่งข้อมูลให้ดีเอสไอเพื่อสอบหาข้อมูลเพิ่มเติมคือวิธีการครอบครองที่ดิน (ส.ค.1) ที่นำมาออกเป็นเอกสารสิทธิ์มีความคาดเคลื่อนไม่ตรงกับเอกสารสิทธิ์ที่ออกใหม่ ซึ่งหมายความว่า ส.ค.1 ที่นำมาออกเป็นเอกสารสิทธิ์อาจจะเป็นส.ค.1 ที่ไม่ตรงจุด นอกจากนั้นยังมีในเรื่องของตัวส.ค.กับเอกสารสิทธิ์ที่ออกมาใหม่นั้น รูปแปลงไม่ตรงกันและมีลักษณะที่เปลี่ยนแปลงไม่ตรงกับส.ค.เดิม รวมถึงมีเนื้อที่ที่เพิ่มไปมากกว่าครึ่งของส.ค.เดิมที่มีอยู่ จึงต้องการที่จะให้ทางดีเอสไอสอบเพิ่มเติม
นายอภิชาติ กล่าวว่า ส่วนตัวแทนกรมป่าไม้ชี้แจงว่า จะเข้าไปตรวจสอบพื้นที่ซึ่งไม่มีเอกสารสิทธิ์จำนวน 1 แปลง ตามที่ดีเอสไอได้ทำหนังสือไปถึงกรมป่าไม้ที่มีสภาพเป็นสระน้ำ หากไม่มีเอกสารสิทธิ์มาแสดงก็จะดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งประเด็นการครอบครองพื้นที่ป่าทั้งหมดว่าเป็นพื้นที่ป่าตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ป่าไม้ พ.ศ. 2484 หรือไม่ รวมถึงชี้แจงว่ายังไม่ได้เข้าไปตรวจสอบ โดยอ้างว่าอยู่ระหว่างการแพร่ระบาดของโควิด-19 เจ้าหน้าที่ยังฉีดวัคซีนไม่ครบ ฉะนั้นทางกมธ.จะส่งเรื่องนี้ให้ทางกรมป่าไม้ตรวจสอบว่าเป็นพื้นที่ตามพ.ร.บ.ป่าไม้ 2484 หรือไม่ ซึ่งทางกมธ.เห็นว่าควรจะต้องมีการตั้งกรรมการในระดับส่วนกลาง ลงไปตรวจสอบข้อเท็จจริงในพื้นที่ทุกแปลง ว่าเป็นไปตามที่ดีเอสไอและกมธ.เสนอหรือไม่ว่าเป็นป่าตามพ.ร.บ.ป่าไม้ 2484 ส่วนกรมที่ดินยืนยันว่าได้สั่งการให้สำนักงานในระดับพื้นที่ในจ.ภูเก็ตไปตรวจสอบแล้ว แต่ทางกมธ.ไม่เชื่อว่าจะได้ข้อมูลที่เป็นข้อเท็จจริงถูกต้องสมบูรณ์ ดังนั้นกมธ.จึงเห็นควรว่าจะต้องตั้งกรรมการจากส่วนกลางไปตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าถูกต้องหรือไม่