“มนพร” เดินหน้าแผนพัฒนาท่าเรือคลองเตย นำร่องปรับที่ดิน 520 ไร่ ใช้ประโยชน์สูงสุด ไม่กระทบชุมชน
ข่าวที่น่าสนใจ
เมื่อวานนี้ (6 พ.ค.68) ที่ห้องประชุมกระทรวงคมนาคม นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการพิจารณาแนวทางการใช้ประโยชน์พื้นที่บริเวณท่าเรือกรุงเทพ (คลองเตย) ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ครั้งที่ 1/2568 โดยมีการติดตามความคืบหน้าการดำเนินงานของคณะอนุกรรมการทั้ง 4 คณะ และพิจารณาแผนการพัฒนาพื้นที่สำคัญ ซึ่งมีประเด็นสำคัญ ดังนี้
1.คณะอนุกรรมการพิจารณาแนวทางการใช้ประโยชน์พื้นที่ โดยได้พิจารณารูปแบบการใช้ประโยชน์พื้นที่ท่าเรือร่วมกับแผนแม่บทการพัฒนาพื้นที่ของการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) ปี 2562 และกำหนดกรอบการจ้างที่ปรึกษาเพื่อศึกษาแนวทางการใช้ประโยชน์พื้นที่ใน 4 ด้าน ได้แก่ การทบทวนนโยบาย, การทบทวนแผนแม่บทฯ ปี 2562, การศึกษาด้านกฎหมาย และการศึกษาความเหมาะสมด้านการเงินและการลงทุน
2.คณะอนุกรรมการพิจารณาพัฒนาศักยภาพพื้นที่ชุมชนคลองเตย ได้แต่งตั้งคณะทำงานสำรวจตรวจสอบข้อเท็จจริงและจัดทำบัญชีผู้อยู่อาศัยและโรงเรือนในพื้นที่ของการท่าเรือฯ เพื่อรวบรวมข้อมูลประชากรและสิ่งปลูกสร้าง คณะทำงานฯ ได้จัดทำแบบสำรวจข้อมูลชุมชนและเตรียมเสนอคณะอนุกรรมการฯ พิจารณาให้ความเห็นชอบ นอกจากนี้ ยังมีการหารือถึงการจัดสรรงบประมาณเพื่อจ้างสำรวจข้อมูลชุมชน
3.คณะอนุกรรมการจัดระเบียบด้านการจราจรและสิ่งแวดล้อมฯ ได้หารือถึงการเร่งรัดการดำเนินการทางเชื่อมต่อท่าเรือกรุงเทพและทางพิเศษสายบางนา-อาจณรงค์ (ทางพิเศษสาย S1), การศึกษาการเชื่อมต่อระบบรางเพื่อขนส่งตู้สินค้า, และการศึกษาด้านการบริหารการจราจรในพื้นที่ท่าเรือทั้งหมด รวมถึงการเชื่อมต่อระบบขนส่งสาธารณะด้วยรถราง
4.คณะอนุกรรมการด้านการมีส่วนร่วมของประชาชนฯ ได้สรุปแนวคิดและหลักการการดำเนินงานด้านการมีส่วนร่วมของประชาชนและการประชาสัมพันธ์ โดยเน้นการสื่อสารแบบ 3 ขั้น, แนวทางประชาสัมพันธ์ 6 มิติ, การดำเนินงานด้านการมีส่วนร่วมของประชาชน, การสื่อสารกับพนักงาน และแนวทางประชาสัมพันธ์ผ่านโซเชียลมีเดีย
นางมนพร กล่าวว่า ที่ประชุมมีมติให้เริ่มพิจารณาแนวทางการพัฒนาท่าเรือกรุงเทพ โดยนำร่องแผนพัฒนา 520 ไร่ ที่อยู่บริเวณหน้าท่าเรือ จากเดิมนั้นพื้นที่ดังกล่าว ใช้งานได้ไม่เกิดประสิทธิภาพสูงสุด เบื้องต้นจะนำมาพัฒนาพื้นที่ในการจัดเรียงตู้ตู้คอนเทนเนอร์ให้มีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม และพัฒนาเป็นสมาร์ทพอร์ต รวมถึงเพิ่มโครงการมิกซ์ยูสต่าง ๆ เช่น การสร้างห้างสรรพสินค้า ร้านค้า และ ที่อยู่อาศัย และ สำนักงาน โดย การท่าเรือแห่งประเทศไทย จะต้องทำโมเดลคำนึงถึงประโยชน์มากสุดต่อประเทศและประชาชนในภาพรวมอย่างแน่นอน
นางมนพร กล่าวว่า ส่วนเรื่องของการวางเป็นพื้นที่เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ทางกระทรวงคมนาคมรอดูความชัดเจนของพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือ พ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ที่จะเตรียมจะนำเข้าสู่ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรก่อน
หากถามว่าทางกระทรวง และหน่วยงานต้องการให้เกิดขึ้นจริงหรือไม่นั้น ตนมองว่าอะไรที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนต่อประเทศชาติเราก็อยากจะทำ แต่เนื่องจากที่แห่งนี้เป็นทำเลทอง เวลาจะวางแผนทำอะไรในพื้นที่ต้องรอกฎหมาย และขอความร่วมมือทุกภาคส่วน
นางมนพร กล่าวว่า โจทย์การศึกษาพัฒนาพื้นที่ท่าเรือนั้น ควรมีการพัฒนาพื้นเชิงพาณิชย์ เป็นองค์ประกอบ โดยจะเน้นการพัฒนาพื้นที่ เป็นในส่วนของโครงการมิกซ์ยูส การสร้างสนามกีฬา การสร้างโรงละคร จุดจัดงานขายสินค้า หรือ โรงแรม สวนสนุก ซึ่งถ้าพูดถึง เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ เท่าที่ทราบจากข้อมูลการนำเสนอของสื่อมวลชนสำหรับ กาสิโน จะมีเพียง 10% เท่านั้น
นางมนพร กล่าวว่า ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในที่ประชุมได้มีมติอีกว่า การพัฒนาท่าเรือกรุงเทพ ในพื้นที่ 520 ไร่นั้น ต้องมีการจัดจ้างที่ปรึกษาเพื่อดำเนินการศึกษาพื้นที่โดยละเอียด เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด และต้องไม่มีผลกระทบต่อชุมชน โดยกระบวนการศึกษารายละเอียดต่างๆ เพื่อนำมาประกอบการพิจารณานั้น คาดได้ข้อสรุปช่วงเดือน พฤษภาคม 2569 ส่วนภายหลังจากนั้นจะเริ่มแนวทางการพัฒนาต่อไป แต่ในส่วนพื้นที่ที่เหลืออีกประมาณ 1,833 ไร่ จาก 2,353 ไร่นั้น ยังคงอยู่ในแผนการพัฒนาเช่นกัน แต่จะเริ่มไปทีละระยะ หากมีความคืบหน้าจะแจ้งให้ประชาชนได้ทราบโดยทันที
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ข่าวล่าสุด
เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น