“สนธิญา” ร้องป.ป.ช.สอบ “พีระพันธุ์” ขัดรธน.อ้างถึงองคมนตรี – ถือหุ้นบริษัทเอกชน

ภายหลังการยื่นหนังสือ นายสนธิญา เผยว่า ตนไม่สบายใจเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว แต่ตนได้รับเอกสารจากประชาชนขอให้ตรวจสอบหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ในฐานะรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ซึ่งมีเอกสารทั้งหมด 2 ชุด ตนจึงขออนุญาตมายื่นให้กับ ป.ป.ช. โปรดพิจารณาวินิจฉัย ไต่สวน ตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้ง 2 ประเด็น

1.กรณีที่ นายพีระพันธุ์ หัวหน้าพรรค รทสช. กล่าวถึง DNA ของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา องคมนตรี ในหลายโอกาส รวมทั้งเพจของพรรค รทสช. หรือบุคคลอื่นบุคคลใดก็ตาม ที่กล่าวถึงองคมนตรี และขณะนี้สถานะขององคมนตรี เป็นไปตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ (รธน.) มาตรา 12  ฉะนั้น องคมนตรีไม่สามารถเข้ามายุ่งเกี่ยวกับการเมือง หรือพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง แม้จะรัก เคารพ หรือนับถือกันมากเท่าใด แต่เราไม่สามารถดึงองคมนตรีเข้ามายุ่งเกี่ยวกับการเมืองได้

“หากยังกระทำต่อไป ตนถือว่าการกระทำเหล่านั้นขัดต่อ รธน. แม้จะเป็นพรรคการเมือง หรือคณะผู้บริหาร ก็จะได้รับการพิจารณาการกระทำที่ขัดต่อ รธน.”

ส่วนประเด็นที่ 2 ที่ตนยื่นเอกสารขอให้ตรวจสอบ กรณีที่ นายพีระพันธุ์ ถูกกล่าวหาว่า เป็นกรรมการบริหาร และยังคงถือหุ้น และมีส่วนการพิจารณาหรือตัดสินใจ หรือมีหุ้นส่วน ตั้งแต่ 70 กว่าเปอร์เซ็นต์ 77 เปอร์เซ็นต์ และ 10 เปอร์เซ็นต์ ของ 3 บริษัท ที่นายพีระพันธุ์ ยังคงถือหุ้นอยู่ หากเป็นไปตามเช่นนี้ กระบวนการจะขัดต่อ รธน. มาตรา 170(4) มาตรา 160(5) และมาตรา 179(9) เพราะกรณีการเป็นกรรมการบริหารในบริษัทเอกชนหรือถือหุ้น ผู้ที่ดำรงตำแหน่งฝ่ายบริหารต้องลาออก ก่อนดำรงตำแหน่งนั้นๆ หลังจากที่ตนตรวจสอบ ขณะนี้ บางบริษัท ยังมีชื่อนายพีระพันธุ์ ดำรงตำแหน่งอยู่

ทั้งนี้ หาก ป.ป.ช. ตรวจสอบและวินิจฉัยอย่างชัดเจน ว่านายพีระพันธุ์ ยังไม่ได้ลาออกจากตำแหน่งกรรมการบริหารบริษัทเอกชนต่างเหล่านั้น ก็จะเข้าสู่กระบวนการการกระทำที่ขัดต่อ รธน. รวมทั้งเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนจริยธรรมร้ายแรง ที่เป็นไปตามบทบัญญัติ รธน. มาตรา 219