แฉยับ “แนวร่วม 3 นิ้ว” โวย “ชาญวิทย์” เบี้ยวเงินค่าจ้าง “แม่เพนกวิน” แต่โชว์เที่ยวอังกฤษฉ่ำ

ฉาว! เด็ก 3 นิ้ว แฉ “ดร.ชาญวิทย์” เบี้ยวค่าจ้างแม่เพนกวิ้นทำบัญชี 6 พัน มูลนิธิโครงการตำราโร่แจง ยันเจ้าตัวไม่เกี่ยว “เพนกวิ้น” กางหลักฐานแชทแม่เจอเจ้าหน้าที่มูลนิธิบีบจ่าย 3 พัน ถ้ารับก็จบ ถ้าไม่รับก็จบ แถมลงชื่อชาญวิทย์กำกับ ไล่สังคายนาองค์กร

แฉยับ “แนวร่วม 3 นิ้ว” โวย “ชาญวิทย์” เบี้ยวเงินค่าจ้าง “แม่เพนกวิน” แต่โชว์เที่ยวอังกฤษฉ่ำ – Top News รายงาน

 

เครือข่าย 3 นิ้วมีเรื่องฉาวโฉ่อีกแล้ว เมื่อนางสาวศุกรียา วรรณายุวัฒน์ หรือมายมิ้น แนวร่วมม็อบ 3 นิ้ว ที่ตอนหลังเปลี่ยนใจจากส้มมาเป็นแดง เนื่องจากพบว่าการเมืองใหม่ไม่ตรงปก ได้ออกมาโพสต์แฉข้อมูลตั้งแต่ช่วงวันที่ 17 เมษายนว่า มึงๆ จริงรึเปล่าที่เขาว่า ศาสตราจารย์พิเศษชื่อดังท่านหนึ่ง โกงเงินค่าทำบัญชีแม่นักกิจกรรมหลักพัน ไม่มีไม่หนีไม่จ่าย ไม่อยากเชื่ออะ มีลูกศิษย์นับหน้าถือตา ชนิดที่ว่าโดนคำผกาด่าทีเดียว คนโพสต์สรรเสริญปกป้องกันจนเปิดเฟสมานึกว่าตายแล้ว อันนี้เหรอที่เค้าเรียกว่าแก่จะลงโลงยังโกงอยู่เลย

 

จากนั้นนางสาวศุกรียา ได้แชร์โพสต์ของศาสตราจารย์พิเศษ ดร.ชาญวิทย์ เกษตรศิริ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งสนับสนุนการเคลื่อนไหวของม็อบ 3 นิ้ว ที่เจ้าตัวได้เดินทางไปท่องเที่ยวและเข้าชมการแข่งขันฟุตบอลที่อังกฤษอย่างมีความสุข โดยนางสาวศุกรียาได้เขียนแคปชั่นว่า ไปอังกฤษจนเงินบาทหมดแล้วเหรอคะ และเงินปอนด์กลับมาจ่ายค่าทำบัญชีแม่เพื่อนหนูหน่อย อย่าโกงกันเลย ไม่กี่บาทเอง ค่าตั๋วบอลแพงจ่ายได้ ค่าทำบัญชีหลักพันหนีหาย ใจร้ายจัง อีกโพสต์เขียนแคปชั่นสุดแรงถึงศาสตราจารย์พิเศษ ดร.ชาญวิทย์ ว่า เงินก็มี ไม่หนีไม่จ่าย

 

 

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ต่อมมูลนิธิโครงการตำราสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ ได้ออกแถลงการณ์ชี้แจงว่า ตามที่ปรากฏข้อกล่าวหาในสื่อสาธารณะว่า ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.ชาญวิทย์ มิได้ดำเนินการชำระค่าจ้างจำนวนหนึ่งให้แก่คุณสุรีรัตน์ ชิวารักษ์ มารดาของนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิ้น แกนนำม็อบ 3 นิ้ว และผู้ต้องหาคดี 112 หลบหนีต่างประเทศ ผู้รับจ้างจัดทำบัญชีให้แก่มูลนิธิโครงการตำราสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์นั้น

มูลนิธิฯ ขอเรียนชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อความเข้าใจที่ถูกต้องของสาธารณชน ดังต่อไปนี้

1.มูลนิธิฯ ได้ดำเนินการชำระค่าตอบแทนและค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการจัดทำบัญชี รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 50,000 บาท
2.ค่าตอบแทนผู้สอบบัญชี มูลนิธิฯ ได้จัดเตรียมงบประมาณสำหรับค่าตอบแทนผู้สอบบัญชีงบการเงินประจำปี เป็นจำนวนเงิน 10,000 บาท ตามระเบียบราชการอย่างครบถ้วน
3.ค่าตอบแทนเพิ่มเติมจำนวน 6,000 บาทที่เป็นประเด็น มูลนิธิฯ ขอยืนยันว่าจะดำเนินการจ่ายตามที่ตกลงกันไว้ โดยเป็นไปตามระเบียบของมูลนิธิฯ ซึ่งกำหนดชำระเงินในวันที่ 25 ของแต่ละเดือน พร้อมยืนยันว่า การดำเนินงานด้านการเงินและการบริหารทั้งหมดดำเนินไปด้วยความโปร่งใส ตรวจสอบได้ และอยู่ภายใต้ความรับผิดชอบของเจ้าหน้าที่และคณะกรรมการที่เกี่ยวข้องโดยตรง ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.ชาญวิทย์ มิได้มีบทบาทในการบริหารหรืออนุมัติค่าใช้จ่ายรายวันแต่อย่างใด

ต่อมานายพริษฐ์ ได้โพสต์ภาพหลักฐานแชทข้อความที่เจ้าหน้าที่มูลนิธิคุยกับมารดาของตัวเองว่า “ผมขอคำปรึกษาจากอาจารย์ชาญวิทย์แล้วนะครับ ได้รับคำแนะนำตามนี้ ผมเสนอว่าตกลงจ่าย 3 พัน ถ้ารับก็จบ ถ้าไม่รับก็จบเช่นกัน ขอบคุณครับ ชาญวิทย์”

ซึ่งนายพริษฐ์ ตอบโต้ว่า ทางมูลนิธิยืนยันว่าจะจ่ายเงินที่ค้างอยู่ให้แม่ผมสิ้นเดือนนี้ ผมต้องชี้แจงเพิ่มเติมในส่วนของผมบ้าง เมื่อทางกรรมการซึ่งก็เป็นคนที่ผมเคารพพูดเช่นนี้ ผมจะยอมเชื่อในเบื้องต้น และเมื่อเห็นแถลงการณ์ของมูลนิธิแล้ว ก็จะเชื่อตามนั้น หากเป็นเรื่องความไม่ตรงไปตรงมาของผู้ช่วยคนสนิทของอาจารย์จริง ผมก็ขอยืนยันว่าเมื่อเรื่องเกิด แม่ผมได้แจ้งเรื่องนี้โดยตรงถึงอาจารย์แล้ว และได้แคปแชทที่แนบในโพสต์นี้ส่งให้อาจารย์โดยตรงด้วย แต่ไม่ได้รับคำตอบกลับมา ก็ขอให้ว่ากล่าวและสะสางกันให้เรียบร้อย จะได้ไม่เป็นเรื่องอีก เข้าใจว่าเรื่องปัญหาทำนองนี้มีมาหลายรอบแล้ว

 

 

สำหรับผมมีประเด็นที่ผมเดือดร้อนประเด็นเดียว คือแม่ผมเมื่อทำงานก็ควรได้ค่าตอบแทน และไม่ควรได้รับคำพูดที่ส่อเจตนาจะไม่จ่ายเงินจากเจ้าหน้าที่คนสำคัญของมูลนิธิเหมือนที่เกิดขึ้น ถ้าจะจ่ายอยู่แล้วไปปล่อยให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิบอกแม่ผมได้ไง ว่าจะจ่ายได้สามพัน รับก็จบ ไม่รับก็จบ ซึ่งข้อความนี้ลงชื่ออาจารย์ท่านไว้ด้วย จากหลักฐานที่ผมแสดง จะเห็นว่าไม่ใช่เรื่องจ่ายช้าแล้วแม่ผมไม่พอใจ แต่เป็นเรื่องส่อเจตนาจ่ายไม่ตรงตามตกลง

นายพริษฐ์ ทิ้งท้ายว่า แม่ผมไม่ได้ติดใจเงินเท่านี้ แต่ติดใจการปฏิบัติต่อแม่ผม หวังว่าจะสังคายนาภายในมูลนิธิ และขอชี้แจงว่าแม่ผมไม่ได้เรียกร้อง“ค่าตอบแทนเพิ่มเติม“ ตามคำที่ใช้ในแถลงการณ์มูลนิธิฯ เป็นค่าตอบแทนในส่วนที่แม่ผมได้ทำงานในเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์ให้แล้ว แต่ในเรื่องนี้คิดว่าเป็นเรื่องการใช้คำ และขอยืนยันว่าแม้ในปีก่อนแม่ผมจะเริ่มทำงานระหว่างปี แต่ได้ทำบัญชีย้อนหลังให้ครบทั้งปี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ขนลุก! มูลนิธิร่วมกตัญญู จัดโต๊ะจีนเชิญดวงวิญญาณตึกสตง.ถล่ม "หนุ่มกู้ภัย" ร้องลั่น "หิว ช่วยด้วย"
"เอกสิทธิ์" เผยมาตรฐาน-คุณภาพภาคอสังหาริมทรัพย์ ปัจจัยสำคัญสร้างเชื่อมั่นความปลอดภัย รองรับพิบัติภัยในอนาคต
"รมว.ท่องเที่ยว" ระดมภาครัฐ-เอกชน ถกปัญหาความปลอดภัย ฟื้นภาพลักษณ์เที่ยวไทย หลังเจอกระแสข่าวด้านลบ
นาทีชีวิต! ส่งเฮลิคอปเตอร์ EC-725 ช่วยผู้ป่วยวิกฤต ส่งถึงมือแพทย์ได้ทันเวลา
วธ. จัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์ถวายพระกุศล "เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ" วันคล้ายวันประสูติ
"สก.นภาพล" ซัดกระทู้ถาม "กทม." เมื่อไหร่จะจ่ายคืนหนี้ BTS ย้ำดอกเบี้ยเพิ่มวันละ 4.5 ล้าน แฉฟาดรายได้ค่าโดยสาร 3 เดือน กว่า 2 พันล้าน แต่ให้เอกชนแบกภาระวิ่งรถไฟฟ้า
จีนสั่งยกเว้นภาษีสินค้านำเข้าบางประเภทจากสหรัฐ
"รองผอ." คดีฮั้วประมูล เผย "3 วิศวกร" รับลงชื่อตรวจงานสร้างตึกสตง.จริง เร่งสอบลายมืออีก 7 ราย ยังปฏิเสธ
"นายกฯ" รับมอบเงิน 5 ล้าน มูลนิธิเรนวูด ช่วยผู้ได้รับผลกระทบแผ่นดินไหว
"อดีตผู้พิพากษา" ชี้ตรง ป.ป.ช.-อสส.ไม่ทำหน้าที่โจทก์ เหตุศาลฎีกาฯ ต้องออกโรงไต่สวนเอง "ทักษิณ"ไม่ติดคุกจริงตามคำพิพากษา

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น