“สส.กล้าธรรม” เตือนรัฐบาล อย่าเปิดช่องนำเข้าเนื้อ – เครื่องในสุกร ใช้เจรจาสหรัฐลดภาษี ห่วงกระทบหนักอุตฯหมู ห่วงโซ่เกษตรกรรม

“ถ้านำเข้าสุกรจากสหรัฐอเมริกาเข้ามา จะกระทบผู้บริโภค เกษตรกรผู้เลี้ยงสุกร ผู้ค้า และโรงแปรรูปชำแหละเนื้อสัตว์ และที่สำคัญจะทำให้ราคาสุกรในประเทศตกต่ำ เนื่องจากเนื้อสุกรที่นำเข้ามีราคาที่ต่ำกว่าของไทย ท้ายที่สุด จะส่งผลให้เกษตรกรทยอยเลิกเลี้ยงสุกรไป นำไปสู่การขาดแคลนเนื้อสุกร ในระยะยาวจะทำให้ประเทศไทยไม่มีสถานภาพด้านอาหารหลัก ต้องพึ่งพาการผลิตอาหารจากต่างชาติ”นางบุญยิ่ง กล่าว

นางบุญยิ่ง กล่าวต่อว่า มาตรฐานการผลิตเนื้อหมูของไทยมีความปลอดภัยสูงกว่าเนื้อหมูสหรัฐ เนื่องจากกฎหมายไทยไม่อนุญาตให้ใช้สารเร่งเนื้อแดงในการเลี้ยง แต่สหรัฐอเมริกามีการอนุญาตให้ใช้สารเร่งเนื้อแดง ซึ่งส่งผลต่อผู้บริโภคโดยตรง สารเร่งเนื้อแดงกลุ่มเบต้าอะโกนิสต์ (B-agonist) จัดอยู่ในกลุ่มของ Adrenergic drug มีฤทธิ์กระตุ้นการทำงานของหัวใจ ขยายหลอดลม สลายไขมัน เพิ่มระดับกลูโคสในเส้นเลือด จึงมีการนำมาใช้ในการเลี้ยงสัตว์ เพื่อลดการสะสมไขมัน และเพิ่มการเจริญเติบโตของกล้ามเนื้อ สังเกตได้จากสัตว์ที่ได้รับสารนี้อย่างหมูจะมีลักษณะมัดกล้ามนูนเด่นกว่าปกติ โดยเฉพาะบริเวณสะโพก สันหลัง หรือบริเวณหัวไหล่ ถ้าได้รับปริมาณสูงมาก อาจมีอาการสั่นตลอดเวลา และหากกินเนื้อสัตว์ที่มีสารเร่งเนื้อแดงตกค้างอยู่ มีผลต่อการทำงานของระบบประสาทที่ควบคุมการทำงานของกล้ามเนื้อหัวใจ กล้ามเนื้อเรียบของหลอดเลือด หลอดลม กระเพาะปัสสาวะ เป็นต้น อาจมีอาการมือสั่น กล้ามเนื้อกระตุก ปวดศีรษะ หัวใจเต้นเร็วผิดปกติ กระวนกระวาย วิงเวียนศีรษะ