“กรมศิลปากร” จัดกิจกรรมรณรงค์ดูแลรักษามรดกศิลปวัฒนธรรมของชาติ ณ วัดอัปสรสวรรค์วรวิหาร เนื่องในวันอนุรักษ์มรดกไทย

"กรมศิลปากร" จัดกิจกรรมรณรงค์ดูแลรักษามรดกศิลปวัฒนธรรมของชาติ ณ วัดอัปสรสวรรค์วรวิหาร เนื่องในวันอนุรักษ์มรดกไทย พุทธศักราช 2568

เมื่อวันที่ 2 เมษายน 2568 นายพนมบุตร จันทรโชติ อธิบดีกรมศิลปากร เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการวันอนุรักษ์มรดกไทย พุทธศักราช 2568 กิจกรรมรณรงค์ดูแลรักษามรดกศิลปวัฒนธรรมของชาติ ณ วัดอัปสรสวรรค์วรวิหาร กรุงเทพมหานคร โดยมีผู้บริหาร ข้าราชการ เจ้าหน้าที่กรมศิลปากร สำนักงานเขตภาษีเจริญ โรงเรียนสตรีวัดอัปสรสวรรค์ และเครือข่ายการอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรม เข้าร่วมกิจกรรมกว่า 150 คน

 

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า กิจกรรมรณรงค์ดูแลรักษามรดกศิลปวัฒนธรรมของชาติ ณ วัดอัปสรสวรรค์วรวิหาร เขตภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร ในวันนี้ เป็นกิจกรรมทำความสะอาดโบราณสถาน อาคาร สิ่งสำคัญภายในวัดที่มีความสำคัญตั้งแต่สมัยอยุธยาถึงสมัยรัตนโกสินทร์ โดยเป็นการทำความสะอาดในเชิงการอนุรักษ์เป็นสำคัญ และยึดถือตามวัตถุประสงค์เนื่องในวันอนุรักษ์มรดกไทย อีกทั้งยังเป็นการเทิดพระเกียรติและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณอย่างใหญ่หลวงต่องานด้านศิลปวัฒนธรรม ทรงเป็นแบบอย่างในการอนุรักษ์และสืบสานมรดกทางศิลปวัฒนธรรมของชาติ ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาพระองค์ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจต่างๆ ที่ล้วนแล้วแต่เป็นประโยชน์ต่อการอนุรักษ์ สืบสาน และส่งเสริมงานทางด้านศิลปวัฒนธรรมให้เห็นเป็นตัวอย่างตลอดมา นอกจากที่วัดอัปสรสวรรค์วรวิหาร กรมศิลปากรยังได้จัดกิจกรรมรณรงค์ดูแลรักษามรดกศิลปวัฒนธรรมของชาติขึ้นทั่วประเทศ เช่น วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จังหวัดสุพรรณบุรี วัดผาลาด จังหวัดเชียงใหม่ วัดโพธาราม จังหวัดมหาสารคาม วัดโรง จังหวัดสงขลา เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมในการดูแลรักษาโบราณสถาน โบราณวัตถุ รวมถึงเพื่อสร้างจิตสำนึกความเป็นเจ้าของวัฒนธรรม และร่วมกันปกป้อง พัฒนาโบราณสถานหรือแหล่งมรดกทางศิลปวัฒนธรรมที่มีคุณค่าให้คงอยู่ต่อไป

 

 

สำหรับวัดอัปสรสวรรค์วรวิหาร เดิมชื่อวัดหมู ตั้งอยู่แขวงปากคลอง เขตภาษีเจริญ เป็นวัดโบราณมีประวัติศาสตร์ความเป็นมาตั้งแต่สมัยอยุธยาจนถึงสมัยรัตนโกสินทร์ มีการบูรณะปฏิสังขรณ์ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 3) พระอุโบสถ เป็นอาคารสร้างโดยก่ออิฐถือปูน มีรูปแบบทางสถาปัตยกรรมศิลปะแบบพระราชนิยมของรัชกาลที่ 3 หรือ ศิลปะแบบนอกอย่าง ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปประธานจำนวน 28 พระองค์ ตั้งอยู่บนฐานชุกชีเดียวกัน กรมศิลปากรได้ร่วมกับทางวัดจัดทำโครงการบูรณะศาลาการเปรียญ ซึ่งถือเป็นศาลาเครื่องไม้ที่เก่าแก่หลังหนึ่งในกรุงเทพมหานคร สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 3 โดยยึดถือตามรูปแบบสถาปัตยกรรมดั้งเดิม และเสริมความมั่นคงให้เหมาะสมกับการใช้งาน ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จสมบูรณ์ทั้งหมดในปี พ.ศ.2569 สำหรับหอไตรกลางน้ำจะมีการบูรณะส่วนเสาในปีต่อไป

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"ทนายวิญญัติ" ปล่อยดราม่า ห่วงสุขภาพ "ทักษิณ" ป่วยสารพัดโรค ฝากเรือนจำตามอาการใกล้ชิด พร้อมส่งรักษาตัวทันที
นาทีระทึก !น้ำเชี่ยวกราก พัดห่วงเรือโป๊ะเบา หวิดพุ่งชนโบราณสถานป้อมเพชร โชคดีดึงเรือไว้ได้ทัน
สหกรณ์การเกษตรแกดำ เปิดโครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตสมาชิกผู้สูงอายุ ครบรอบการจดทะเบียนสหกรณ์ 48 ปี
เปิดคลิป "เขมร" สันดานโจร ฉวยโอกาสทีเผลอ ฉกรั้วลวดหนามฝ่ายไทย ซัดจนท.กัมพูชา "คุมคนของตัวเองให้ได้"
ตำรวจเร่งล่าตัวคนร้ายบุกเดี่ยวเข้าร้านทอง ใช้มีดจี้ลูกค้าเป็นตัวประกัน ขู่เอาทองรูปพรรณจากเจ้าของร้าน ไปได้ราว 2.2 แสนบาท ก่อนซิ่งจักรยานยนต์หลบหนี
"นายกฯ อนุทิน" นำทีมเศรษฐกิจ ร่วมหารือสภาหอการค้าฯ ย้ำทูลเกล้ารายชื่อครม.แล้ว พร้อมผนึกเอกชนลุยฟื้นศก.ไทย

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​