“3 บริษัทประกันภัย” ยันสถานะการเงินไม่กระทบ พร้อมรับผิดชอบเหตุตึกสตง.ถล่มตามสัญญา

3 จาก 4 บริษัทรับประกันส่งหนังสือแจ้ง ตลท. ตึก สตง.ถล่ม ไม่กระทบฐานะการเงินของบริษัท แจงได้ทำประกันภัยต่อไว้แล้ว ทิพยชี้จ่ายค่าสินไหม ต้องพิจารณาถึงมูลค่าของอาคาร ณ เวลาที่เกิดเหตุ

“3 บริษัทประกันภัย” ยันสถานะการเงินไม่กระทบ พร้อมรับผิดชอบเหตุตึกสตง.ถล่มตามสัญญา – Top News รายงาน

 

จากกรณีประเทศไทยได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวซึ่งมีศูนย์กลางอยู่ในประเทศพม่า ในเหตุการณ์ครั้งนี้ อาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน หรือ สตง.มูลค่ากว่า 2,000 ล้านบาท ซึ่งอยู่ระหว่างการก่อสร้าง พังถล่มจากเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ เมื่อวันที่ 28 มี.ค.ที่ผ่านมาได้สร้างความเสียหายต่อทรัพย์สินและชีวิตแรงงานจำนวนมากนั้น

 

เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2568 บริษัท บีเคไอ โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) ในฐานะบริษัทโฮลดิ้งส์ ที่ถือหุ้นในบริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) ในสัดส่วนร้อยละ 97.72 แจ้งผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กรณีการรับประกันภัย “อาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินแห่งใหม่” โดยระบุว่า จากสถานการณ์แผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 28 มีนาคม2568 ที่ผ่านมา ส่งผลให้อาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินแห่งใหม่ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างได้ฟังถล่มลงมา ซึ่งบริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) ได้รับประกันภัยโครงการก่อสร้างดังกล่าวในสัดส่วนเพียงร้อยละ 25 นอกจากนี้บริษัท กรุงเทพประกันภัยยังได้จัดทำสัญญาประกันภัยต่อเพื่อความเสียหายส่วนเกิน สำหรับความเสียหายจากภัยพิบัติหรือมหันตภัยไว้อีกด้วย ดังนั้นบริษัทขอยืนยันว่าแม้จะมีการจ่ายค่าสินไหมทดแทนในกรณีนี้ บริษัท กรุงเทพประกันภัยยังคงมีความมั่นคงทางการเงิน และไม่ได้รับผลกระทบต่อฐานะทางการเงินและการดำเนินงานของบริษัทแต่อย่างใด

ขณะที่บริษัท อินทรประกันภัย จำกัด (มหาชน) แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเช่นกันว่า บริษัทรับประกันภัยการก่อสร้างอาคารดังกล่าว ร่วมกับบริษัทประกันภัยอื่น ๆ โดยบริษัทมีสัดส่วนการรับประกันภัยอยู่ที่ร้อยละ 25 ของมูลค่าความคุ้มครองตามสัญญาประกันภัย บริษัทขอเรียนว่า เหตุการณ์ดังกล่าวไม่มีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อสถานะทางการเงินหรือการดำเนินธรกินรกิจของบริษัท บริษัทมีการดำรงเงินกองทุนที่เพียงพอและแข็งแกร่ง เนื่องจากบริษัทบริหารจัดการความเสี่ยงโดยจัดทำประกันกันกัยต่อกับผู้รับประกันภัยต่อที่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ ตามนโยบายการประกันภัยต่อของบริษัท พร้อมทั้งเร่งให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นี้ เพื่อบรรเทาความเสียหายและสนับสนุนให้ได้รับความคุ้มครองตามกรมธรรรม์

3 บริษัทประกันภัย

 

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

เช่นเดียวกับบริษัท ทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) ในฐานะบริษัทโฮลดิ้งส์ ที่ถือหุ้นในบริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ในสัดส่วนร้อยละ 99.05 และทิพยประกันภัยเป็นบริษัทแกนของกลุ่มบริษัทฯ ขอชี้แจงว่า จากสถานการณ์แผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา เหตุการณ์ครั้งนี้มีอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินแห่งใหม่ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างได้ถล่มลงมาทั้งหลัง ซึ่งโครงการก่อสร้างนี้ได้มีการทำประกันภัยไว้กับบริษัทผู้รับประกันภัยร่วมจำนวน 4 บริษัท ได้แก่ ทิพยประกันภัย ในสัดส่วนร้อยละ 40 ,บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) ในสัดส่วนร้อยละ 25 ,บริษัท อินทรประกันภัย จำกัด (มหาชน) ในสัดส่วนร้อยละ 25 และบริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) ในลัดส่วนร้อยละ 10 ซึ่งการร่วมรับประกันภัยในโครงการก่อสร้างอาคาร สตง. ดังกล่าว มีทุนประกันภัยแบ่งเป็น 3 หมวด ประกอบด้วย 1) มูลค่างานก่อสร้างตามสัญญา 2,136 ล้านบาท 2) ทรัพย์สินเดิมของผู้ว่าจ้าง 5 ล้านบาท และ 3) ความรับผิดต่อบุคคลภายนอก 30 ล้านบาทต่อครั้ง และ 100 ล้านบาท ตลอดระยะเวลาเอาประกันภัย โดยมีเงื่อนไขความรับผิดส่วนแรกที่ผู้เอาประกันภัยต้องรับผิดชอบเองร้อยละ 20 ของความเสียหายสำหรับแต่ละเหตุการณ์

การร่วมรับประกันภัยในสัดส่วนร้อยละ 40 ของทิพยประกันภัยตามที่กล่าวถึงข้างต้นนั้น ทิพยประกันภัยได้จัดทำประกันภัยต่อในสัดส่วนร้อยละ 95 ของทุนเอาประกันภัย กับบริษัทประกันภัยต่อชั้นนำของโลกที่ มีระดับความแข็งแกร่งทางการเงิน ไม่ต่ำกว่า A นอกจากนี้ทิพยประกันภัยยังได้จัดทำสัญญาประกันภัยต่อเพื่อความเสียหายส่วนเกินสำหรับความเสียหายจากภัยพิบัติหรือมหันตภัยไว้ด้วย ดังนั้นบริษัทยืนยันว่า แม้จะมีการจ่ายค่าสินไหมทดแทนในกรณีนี้ ทิพยประกันภัยยังคงมีความมั่นคงทางการเงิน และไม่มีผลกระทบต่อฐานะทางการเงินของทิพยประกันภัยอย่างมีนัยสำคัญ

ในการพิจารณาชดใช้ค่าสินไหมทดแทนในกรณีอาคาร สตง. นั้น จะต้องพิจารณาถึงมูลค่าของอาคาร ณ เวลาที่เกิดเหตุ ซึ่งโดยทั่วไปจะพิจารณาว่าอาคารดังกล่าว ได้ดำเนินการก่อสร้างไปแล้วเป็นร้อยละเท่าไรของมูลค่าโครงการทั้งหมด เช่น หากการก่อสร้างแล้วเสร็จร้อยละ 50 ความเสียหายที่จะได้รับ ความคุ้มครองตามสัญญาประกันภัยก็จะเป็นเพียงร้อยละ 50 ของทุนเอาประกันภัยเท่านั้น ทั้งนี้มูลค่าของโครงการนี้ ณ วันเวลาที่เกิดเหตุจะถูกประเมินโดยผู้เชี่ยวชาญต่อไป

นอกจากนี้ ทิพยประกันภัยได้จัดเตรียมทีมงานและความพร้อมในการรับแจ้งเคลมตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้งเพื่อตอบข้อชักถาม และอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า โดยพร้อมที่จะพิจารณาจ่ายค่าสินไหม ทดแทนอย่างรวดเร็ว ผู้เอาประกันภัยที่ได้รับผลกระทบสามารถติดต่อแจ้งเคลมและขอรับความช่วยเหลือได้ที่ ศูนย์บริการลูกค้าของทิพยประกันภัย โทร.1736 กด 5199 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือ Line : dhipayainsurance หรือ อีเมล : [email protected]

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ตรวจหวย ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดประจำวันที่ 16 มิถุนายน 2568
เปิดตัวเลข "แรงงานไทย-กัมพูชา" เทียบค่าจ้างขั้นต่ำ 2 ประเทศ
ทีม JBC แถลงผลประชุมกัมพูชา ชี้ไทยผิดหวัง "ผู้นำฮุน" จ้องแต่ฟ้องศาลโลก เอา 4 พื้นที่พิพาท ยื่นคำขาดปิดด่าน
"สรรเพชญ" เตือนรัฐบาลเผชิญศึกนอกใน ระวังไทยเสี่ยงเสียบทบาทภูมิรัฐศาสตร์ ปัญหาขัดแย้งกัมพูชาโดนชาติอื่นแทรกแซง
4ส.15 สถาบันพระปกเกล้า ลุยอีสาน ศึกษาพื้นที่อุบลฯ จุดประกายแนวคิด “สันติสุข-พัฒนาชุมชน”
ไฟฟ้าตราด เผย จ.เกาะกง ยังใช้ไฟฟ้าจากประเทศไทย พร้อมตัดไฟทันทีหากรัฐบาลมีคำสั่ง
จันทบุรี บรรยากาศด่านชายแดน หลังประชุม JBC แรงงาน มีการผ่อนคลายเล็กน้อย
ระทึก ทั้งร้านล้อรถพุ่งเข้าร้านก๋วยเตี๋ยวโชคดีไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ
"ปานเทพ" เสนอ 7 ข้อเรียกร้อง รัฐบาลสร้างความชัดเจน ผลเจรจา JBC ยกเลิกได้แล้ว MOU43-44
"นายกฯ" ย้ำไทยไม่รับอำนาจศาลโลก จวกผู้นำกัมพูชาสื่อสารไม่ตรงพูดคุย เจตนาปล่อยข่าว ข่มขู่ไม่เป็นผลดี 2 ปท.

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น