ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ลงนามคำสั่งที่ห้องทำงานรูปไข่ ทำเนียบขาว และประกาศว่า สหรัฐฯจะเก็บภาษีรถยนต์ทุกประเภทที่ไม่ได้ผลิตในสหรัฐอเมริกา ในอัตรา 25% มีผลเวลา 24 นาฬิกา 1 นาทีของวันที่ 3 เมษายนตามเวลาตะวันออกสหรัฐฯ (5 ทุ่ม 1 นาทีตามเวลาไทย ) อะไหล่รถยนต์ที่สำคัญ ก็จะเก็บในอัตราเดียวกัน แต่จะมีผลในเวลา 1 เดือนหรือไม่เกิน 3 พฤษภาคม แต่รถยนต์ที่นำเข้าภายใต้กรอบความตกลงการค้าสหรัฐฯ เม็กซิโก แคนาดา หรือ USMCA อาจถูกเก็บภาษีในอัตราที่ต่ำกว่า ส่วนชิ้นส่วนยานยนต์ภายใต้ USMCA จะยังคงปลอดภาษี จนกว่าสำนักงานป้องกันชายแดนและศุลากร จะมีระบบพร้อมบังคับใช้ภาษีศุลกากรกับอะไหล่ที่ไม่ได้ผลิตในสหรัฐฯ
ทรัมป์ กล่าวว่า เขาได้แจ้งไปยัง ฟอร์ด ,เจเนอรัล มอเตอร์ส หรือ GM และ สเตแลนทิส 3 ผู้ผลิตรถรายใหญ่สหรัฐฯแล้วว่า หากยังไม่มีโรงงานในสหรัฐฯ ก็ให้ไปตั้งและผลิตสินค้าที่นี่
ในเวลาต่อมา ปีเตอร์ นาวาร์โร ที่ปรึกษาอาวุโสด้านการค้าและการผลิตของรัฐบาลทรัมป์ กล่าวโจมตีว่า พวกที่โกงการค้าต่างประเทศ ( foreign trade cheaters) เปลี่ยนภาคการผลิตของอเมริกาที่ครั้งหนึ่งเคยคึกคัก กลายเป็น “โรงงานประกอบชิ้นส่วนจากต่างประเทศที่ให้ค่าแรงต่ำ” ถือเป็นภัยคุกคามความมั่นคงของชาติ เพราะบั่นทอนการป้องกันประเทศและฐานอุตสาหกรรมการผลิต นาวาร์โร พุ่งเป้าไปที่ญี่ปุ่นและเยอรมนี ที่สงวนการผลิตอะไหล่มูลค่าสูงไว้ในประเทศของตัวเอง
ปัจจุบัน รถที่ขายในสหรัฐฯ เป็นรถผลิตในประเทศราว 50% ส่วนที่นำเข้า ครึ่งหนึ่งมาจากแคนาดากับเม็กซิโก ที่เหลือมาจาก ญี่ปุ่น เกาหลีใต้และเยอรมนี แต่รถยนต์ที่ผลิตในสหรัฐฯกว่าครึ่ง ใช้ชิ้นส่วนจากต่างประเทศประมาณครึ่งหนึ่ง มาร์ค คาร์นีย์ นายกรัฐมนตรีแคนาดา กล่าวว่า การเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์ คือการโจมตีคนงานอเมริกันเองโดยตรง
ศูนย์วิจัยยานยนต์ในสหรัฐ ประเมินก่อนหน้านี้ว่า ภาษีศุลกากร ที่รวมภาษีโลหะและรถยนต์นำเข้า อาจทำให้ราคารถ 1 คัน แพงขึ้นหลายพันเหรียญ และกระทบตลาดงาน
การประกาศของทรัมป์ ฉุดราคาหุ้นของ GM ร่วงกว่า 7% ฟอร์ด และ สเตแลนทิส ที่ผลิตรแบรนด์ จี๊ป ไครสเลอร์ และ ดอดจ์ หุ้นตกกว่า 4%
ที่ญี่ปุ่น ราคาหุ้นบริษัทยานยนต์รายใหญ่ ร่วงรับภาษีใหม่ของทรัมป์เช่นกัน หลังตลาดหุ้นโตเกียวเปิดทำการ ราคาหุ้นโตโยตา ผู้ผลิตรถยอดขายสูงที่สุดในโลก ตกลง 3.7% นิสสัน ร่วง 3.2% และฮอนดา 3.1% มิตซูบิชิ มอเตอร์ ลดลง 3.7% ทั้งนี้ อุตสาหกรรมรถยนต์ เป็นเสาหลักขนาดมหึมาของเศรษฐกิจญี่ปุ่น การส่งออกรถไปสหรัฐฯ มีสัดส่วน 1 ใน 3 ของมูลค่าส่งออกทั้งหมด 21.3 ล้านล้านเยน และตำแหน่งงานราว 10% ในญี่ปุ่นก็ผูกโยงกับภาคอุตสาหกรรมนี้ มาซาโนริ คาตายามะ ประธานสมาคมอุตสาหกรรมยานยนต์ญี่ปุ่น กล่าวก่อนหน้านี้ ว่าภาษีศุลกากร 25% จะส่งผลกระทบทางลบต่อเศรษฐกิจสหรัฐและญี่ปุ่นในภาพรวม
รัฐมนตรีญี่ปุ่นพยายามลอบบี้สหรัฐฯอย่างหนัก เพื่อขอละเว้นภาษีนำเข้าเหล็กและรถยนต์ แต่ไม่เป็นผล
รัฐบาลทรัมป์ ตั้งเป้าใช้ภาษีศุลกากร สร้างรายได้ 1 แสนล้านดอลลาร์ต่อปี และฟื้นอุตสาหกรรมการผลิตในประเทศ แม้ว่าการพุ่งเป้ารถยนต์นำเข้า อาจสะเทือนสัมพันธ์กับคู่ค้าก็ตาม
การประกาศภาษีนำเข้ารถยนต์ เมื่อวันพุธที่ 26 มีนาคมตามเวลาท้องถิ่น มีขึ้นก่อน 2 เมษายน วันที่ทรัมป์ ประกาศว่าจะเป็นวันปลดแอกสหรัฐฯ ในวันนั้น รัฐบาลสหรัฐฯสัญญาว่าจะเก็บภาษีตอบโต้ในอัตราแตกต่างกันไป ตามแต่จะเห็นว่าคู่ค้าใช้ภาษีและมาตรการที่ไม่ใช่ภาษีอย่างไม่เป็นธรรมกับสหรัฐฯ