ตำรวจยอมรับ ชันสูตรร่าง “ผู้กำกับโจ้” ยาก-ใช้เวลานาน เพราะไม่อยู่ในสภาพเดิม

ตำรวจยอมรับ ชันสูตรร่าง "ผู้กำกับโจ้" ยาก-ใช้เวลานาน เพราะไม่อยู่ในสภาพเดิม

วันนี้ ( 11 มี.ค.) เมื่อเวลา 16.30 น. ที่สน.ประชาชื่น หลังเสร็จสิ้นการประชุมติดตามความคืบหน้า คดีการเสียชีวิตของ “ผกก.โจ้” ร่วมกับ พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น., พล.ต.ต.เจษฎา สวยสม ผบก.น.2 ๕ระพนักงานสอบสวน แพทย์สถาบันนิติเวชฯ รพ.ตำรวจ และ เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท่วม ผู้ช่วย ผบ.ตร.

พล.ต.ท.สมประสงค์ เปิดเผยว่า วันนี้มีการประชุมเร่งรัดติดตามสำหรับคดีการตายของผู้กำกับโจ้ ซึ่งพนักงานสอบสวน ได้ทำคดีไปคืบหน้าเยอะแล้วในหลายๆ เรื่อง ทั้งพยานหลักฐานต่างๆ รวมถึงการตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิดในวันเกิดเหตุ โดยมีกล้องทั้งหมด 2 ตัวที่อยู่บริเวณหน้าห้อง ตำรวจ ได้ตรวจดูแล้วทั้งก่อนและหลังเกิดเหตุ ก็ไม่พบความผิดปกติ โดยในที่เกิดเหตุตัวผู้กำกับโจ้ก็ยังทักทายผู้คุมตามปกติ

 

 

 

ซึ่งนอกจากกล้องในวันที่เกิดเหตุแล้ว ตำรวจได้มีการร้องขอกล้องวงจรปิดก่อนเกิดเหตุตลอดทั้งสัปดาห์เพื่อนำมาพิจารณาด้วย ซึ่งต้องรอกรมราชทัณฑ์ส่งมาให้เพิ่มเติม โดยกล้องวงจรปิดพบว่า การจะเข้าห้องขังนั้นต้องมีเจ้าหน้าที่คอยไขกุญแจห้องขังของผู้กำกับโจ้ทุกครั้ง ยืนยันไม่พบว่ามีผู้ใดเข้าออกจากห้องขังนอกจากตัวผู้กำกับโจ้

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่เรือนจำให้การว่า ในวันเกิดเหตุ ได้พบผู้กำกับโจ้เสียชีวิตประมาณ 20.00 น. ขณะที่กำลังจะนำยาแก้เครียดไปให้ โดยเจ้าหน้าที่พยายามเรียกชื่อแต่ไม่มีการตอบรับ จึงก้มมองผ่านช่องประตูและพบว่าผู้กำกับโจ้นั่งอยู่ ก่อนจะทำการเขย่าแต่ก็ไร้การตอบรับ จึงนำมือสอดเข้าไปปรากฏว่า พบผ้าที่คอซึ่งถูกผูกไว้กับกรงประตู เจ้าหน้าที่จึงรีบนำกรรไกรมาตัดออกแต่ตัดไม่ขาด จึงรีบวิ่งกลับไปนำคัตเตอร์มาตัดผ้าออกเพื่อช่วยชีวิต ซึ่งตนได้ตรวจสอบดูกล้องวงจรปิดแล้วก็เป็นไปตามคำให้การ

ต่อมา เวลาประมาณ 23.00 น. (วันที่7มี.ค.) ตำรวจได้รับแจ้งเหตุการเสียชีวิต แต่กลับสามารถเข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุได้ในช่วง 10.00 น. ของวันรุ่งขึ้น (8 มี.ค.) พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยตำรวจไม่สามารถเข้าไปในที่เกิดเหตุได้ตั้งแต่ได้รับแจ้งนั้น เนื่องจาก จะต้องมีหลายฝ่ายเข้าไปร่วมตรวจสอบพร้อมกัน ซึ่งทางกรมราชทัณฑ์เป็นผู้นัดให้เข้าไปในเวลาดังกล่าว

 

 

 

 

ซึ่งศพของผู้กำกับโจ้ อยู่ตรงที่เกิดเหตุตั้งแต่เสียชีวิต จนถึงเวลาที่พนักงานสอบสวนเข้าไปตรวจที่เกิดเหตุเป็นเวลา 14 ชม. และจากการตรวจสอบพบว่า ศพถูกนำมานอนหงายกับพื้น และคลุมด้วยผ้าสีขาว และพบผ้าขนหนูที่ถูกตัดมีชิ้นหนึ่งผูกอยู่ที่กรง ส่วนอีกชิ้นอยู่ที่พื้น ซึ่งขนาดผ้าอยู่ที่ประมาณ 1.6 เมตร โดยขณะนี้กองพิสูจน์หลักฐานได้นำผ้าขนหนูไปตรวจหาดีเอ็นเอเพื่อพิสูจน์ว่าเป็นผ้าผืนที่ผูกจนเสียชีวิตจริงหรือไม่ คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์โดยตอนที่ตำรวจไปพบศพนั้น ทิ้งระยะเวลาไว้นาน และมีการเปลี่ยนแปลงท่าการตายของศพก่อนที่ตำรวจจะไปพบเป็นศพ (จากนั่งเป็นนอน) จึงจะทำให้การชันสูตรศพยากขึ้น

 

นอกจากนี้ ยังพบรอยเลือดเล็กน้อย ใกล้ศพจำนวน 2 หยด ซึ่งกองพิสูจน์หลักฐานยืนยันว่า เป็นเลือดมนุษย์ และได้เก็บเลือดดังกล่าวไปตรวจดีเอ็นเอแล้ว และยังพบว่ามีรอยกัดจากสัตว์ขนาดเล็กอยู่ที่บริเวณแขนซ้ายของศพอีกด้วย

วันนี้ พนักงานสอบสวน ได้เข้าไปสอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย ผู้คุมที่อยู่เวร ผู้ต้องขังที่อยู่ห้องบริเวณรอบข้าง ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างการสอบสวน โดยคดีการตายและคดีการถูกทำร้ายร่างกายจะทำไปควบคู่กัน ซึ่งการตายนั้นตำรวจตั้งไว้ 2 ประเด็น คือตายเองหรือถูกทำให้ตาย เบื้องต้นตำรวจได้ตั้งกรอบระยะเวลาในการทำคดีนี้ไว้ 30 วัน เพื่อทำทุกอย่างให้กระจ่างแก่ประชาชน

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานว่าผ้าขนหนูที่ใช้ก่อเหตุถูกผูกปมไว้ทบเดียว โดยใช้วิธีการสอดปลายผ้าขนหนูเข้าไปในซี่ประตู.

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"หมอมิ้ง" ยัน "นายกฯอิ๊งค์" ไม่ลาออก ย้ำเจตนารมย์คุย "ฮุน เซน" ทำเพื่อชาติ มั่นใจปท.ผ่านพ้น 2 วิกฤต
ไม่รอด ! ฉวยโอกาส ขณะกำลังฝ่ายความมั่นคงเฝ้าชายแดน 2 ผู้ต้องหาลอบขนบุหรี่เถื่อนจากกัมพูชา
จันทบุรี จับสายลับกัมพูชาพร้อมโดรนและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ชี้เป้า กองบิน 5 จ.ประจวบคีรีขันธ์
"โฆษกกต." เผยไทยเชิญองค์การระหว่างประเทศ เข้าพบ “18 เชลยกัมพูชา” พรุ่งนี้ รับทราบข้อเท็จจริง ไล่บี้เขมรชดใช้ปมยิงถล่มรพ.-บ้านพลเรือน
ฉะเชิงเทรา ผบ.พล.ร.11 รับมอบสิ่งของธารน้ำใจ ปชช. ส่งถึงทหารแนวหน้า
สื่อกัมพูชา แท็กทีมปั่นเฟกนิวส์ไม่หยุด หลัง “มาลี” แถลงอ้างไทยส่งทหาร วางลวดหนามช่องอานม้า รุกล้ำเขมร

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​