” รองผบ.ทสส.” ถก “บอร์ดปชด.” นัดแรก เล็งพิจารณาคลายยาแรงตัดไฟ-น้ำมันเมียนมา หลังกระทบรพ.ช่วยเคสฉุกเฉิน

“รองผบ.ทสส.” ถก บอร์ด ปชด. นัดแรก ปูทางส่งกลับคนจีนอีกล็อต เล็งพิจารณาคลายยาแรงตัดไฟฟ้า-น้ำมัน หลังเมียนมาร้องกระทบ รพ.ช่วยเคสฉุกเฉิน ก่อนชง รบ.อนุมัติ โต้ใช้กองทัพออกโรงปราบส่วยชายแดน ปมทหารถูก ตร.ข่มขู่ เผย ผบ.ตร. ปรับจูนตำรวจห้ามมีอีก ย้ำทุกกระทรวง ทบวง กรม ให้หยุด

“รองผบ.ทสส.” ถก “บอร์ด ปชด.” นัดแรก เล็งพิจารณาคลายยาแรงตัดไฟ-น้ำมันเมียนมา หลังกระทบรพ.ช่วยเคสฉุกเฉิน – Top News รายงาน

 

ผบ.ทสส.

เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2568 เวลา 09.00 น. ที่กองบัญชาการกองทัพไทย พลเอกทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด หรือ ผบ.ทสส. ในฐานะประธานคณะกรรมการอำนวยการขับเคลื่อนการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยคุกคามที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงในพื้นที่ชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน หรือ ปชด. ได้มอบหมายให้เรียกประชุมนัดแรก โดยมีพลเอกธิติชัย เทียนทอง รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด ,นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย,พลเอกพนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก และพลตำรวจเอกกิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะรองประธานกรรมการ ปชด. พร้อมตัวแทนในคณะกรรมการเข้าร่วมอย่างพร้อมเพียง

จากนั้นพลเอกทรงวิทย์ ได้ให้สัมภาษณ์กล่าวถึงผลการประชุมว่า ภารกิจแรกของทางศูนย์ปชด. คือการสร้างองค์กรที่ทำงานร่วมกัน ผ่านการประสานสอดคล้องกัน โดยในวันที่ 6 -9 มีนาคมนี้ ทางการจีนจะส่งเครื่องบินมารับเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ผ่านชายแดนไทยที่จังหวัดตาก ดังนั้นศูนย์ ปชด.จะประสานงานตั้งแต่รับตัวจากฝั่งเมียนมา และเข้าสู่กระบวนการที่ถูกต้องตามกฏหมายไทย จนกระทั่งส่งตัวขึ้นเครื่องบิน ส่วนภารกิจที่สอง คือการประเมินมาตรการ 3 ตัด คือ ตัดไฟ ตัดน้ำมัน เมียนมาได้ผลมากน้อยเพียงใด ส่วนอินเตอร์เน็ต ได้มอบให้ กสทช.ดูว่าหลังตัดอินเตอร์เน็ตแล้วสัญญาณที่ส่งข้ามมายังประเทศไทย สามารถวัดได้หรือไม่ จะปฏิบัติการหรือใช้อินเตอร์เน็ตจากฝั่งไทยอีกหรือไม่ และการช่วยเหลือในด้านมนุษยธรรม ซึ่งทางเมียนมาได้ขอผ่านมาทางที่ประชุมไตรภาคี กรณีโรงพยาบาลในการช่วยเหลือผู้ป่วยฉุกเฉิน ซึ่งคณะกรรมการก็จะพิจารณา และส่งข้อมูลทั้งหมดไปยังรัฐบาลว่าจะอนุมัติหรือไม่

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ส่วนสถานการณ์ชายแดนล่าสุด ที่ห่วงการลักลอบข้ามแดน หลังจากที่ฝั่งเมียนมารับเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่มีจำนวนมากกว่า 7,000 คนไม่ไหวนั้น พลเอกทรงวิทย์ กล่าวว่า ขณะนี้ทหารและหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ได้ตรึงกำลังไว้อย่างดี แต่สิ่งที่เป็นห่วง หากเขาเดือดร้อนจากมาตรการฝั่งไทยจะแตกกระจายออกมา และการควบคุมก็จะยากขึ้น ดังนั้นตนเองจึงขอให้ ผบ.ทบ.สั่งการให้กองกำลังป้องกันแนวชายแดน เจรจากับทางกองกำลังที่ควบคุมเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้อยู่ในพื้นที่ ซึ่งในขณะนี้การสอบสวนทางฝั่งเมียนมาร่วมกับจีน ได้ดำเนินไปแล้วกว่า 3,000 คนและพร้อมที่จะส่งออกในห้วงวันที่ 6- 9 มีนาคมนี้ประมาณ 1,400 คน พร้อมกันนี้ตนก็ได้ขอให้ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง หรือ ตม. เป็นเสาหลักในการนำเนรเทศขบวนการออกนอกประเทศ ส่วนการสู้รบระหว่างชนกลุ่มน้อยและรัฐบาลเมียนมา ยังไม่มีผลกระทบในการส่งกลับบุคคลสัญชาติต่างๆเหล่านี้ โดยในวันพรุ่งนี้ศอป.ชด.ส่วนหน้า จะลงพื้นที่เป็นวันแรก เพื่อจะได้รวบรวมข้อมูลเพิ่มเติมให้มากขึ้น ซึ่งก็จะทำให้เห็นว่าสถานการณ์พื้นที่เป็นอย่างไร

 

เมื่อถามว่า ศูนย์ปชด.นี้ดำเนินการตัดวงจรส่วยชายแดนด้วยหรือไม่ พลเอกทรงวิทย์ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นข้อประเมินประสิทธิภาพของข้าราชการ วันนี้ ผบ.ตร.ได้พูดชัดว่า ได้เข้าไปปรับกระบวนทัศน์ของตำรวจที่ทำงานในเรื่องนี้ทั้งหมด ว่าสิ่งต่างๆเหล่านี้กรมตำรวจจะไม่ยอมรับอีกต่อไป เพราะทำให้เกิดภัยคุกคามต่อประเทศ และได้แสดงตัวอย่างของการลงโทษของเจ้าหน้าที่และมีอีกจำนวนมาก นอกจากนี้ตนขอให้แต่ละกระทรวง ทบวง กรมได้ตรวจสอบเจ้าหน้าที่ของตนเองด้วย ว่าสิ่งไหนที่เคยกระทำผิดวันนี้ต้องหยุด มิเช่นนั้นปัญหาเหล่านี้ก็จะกลับมาอีกในระยะยาว โดยเฉพาะตามแนวชายแดนทั้งหมด ไม่ใช่เฉพาะจังหวัดตาก ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าตำรวจข่มขู่ทหารในพื้นที่ จึงต้องตั้งคณะกรรมการ ปชด. โดยให้กองทัพคุม เพื่อดำเนินการเรื่องนี้โดยเฉพาะนั้น ตนยังไม่ทราบรายละเอียด

 

ส่วนปัญหาที่ฝั่งกัมพูชานั้น ผู้บัญชาการทหารสูงสุด กล่าวว่า ยังอยู่ในความรับผิดชอบแต่วันนี้ไม่ได้มีวาระที่พูดถึง อย่างไรก็ตามผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยอมรับว่าคนไทยที่พัวพันกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในฝั่งกัมพูชามีมากกว่านี้ เมื่อคลี่คลายปัญหาในฝั่งเมียวดีแล้ว คณะกรรมการนี้ก็ต้องไปดูที่จุดอื่นๆ ตามแนวชายแดน เช่น การแก้ไขปัญหาในฝั่งกัมพูชา หากจำเป็นต้องตั้งศูนย์ก็สามารถดำเนินการได้

 

สำหรับคณะกรรมการอำนวยการขับเคลื่อนการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยคุกคามที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงในพื้นที่ชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้านนั้น นายกรัฐมนตรีได้มีคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 83/2568 เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568 แต่งตั้งขึ้น เพื่อสนับสนุนรัฐบาลในการขับเคลื่อนมาตรการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ ยาเสพติด และภัยคุกคามอื่น ๆ ที่กระทบต่อความมั่นคงชายแดน

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) บุกโรงงาน 'หุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์' ฝีมือจีน
(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) จีนเปิดเที่ยวบิน 'เสิ่นหยาง-กรุงเทพฯ'หนุนท่องเที่ยวข้ามภูมิภาค
"ซาบีดา" เปิดโครงการส่งเสริม สืบสานศิลปวัฒนธรรม ประเพณี ภูมิปัญญาท้องถิ่นจ.นครสวรรค์ "ต้นไม้วัฒนธรรมหลากสีแห่งเมืองสวรรค์" ปลูกพลังวัฒนธรรม สู่เมืองสวรรค์อย่างยั่งยืน
ตม.ประจวบฯ สานสัมพันธ์ จัดหางานจังหวัดฯ สวัสดีปีใหม่
ส่องลุคแฟชั่นผ้าไทยสไตล์ "ซาบีดา" สวมเสื้อแซว ทรงไทยจิตรลดา นุ่งมัดหมี่โฮล ราชินีแห่งผ้า อัตลักษณ์ประจำจังหวัดสุรินทร์
อบจ.ปทุมธานี เตรียมจัดงานใหญ่ รำลึกสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ประจำปี 2568

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​