เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีนายช. ช้าง ที่เป็นนายหน้านำเข้าและรับขึ้นทะเบียนแรงงานด้าว พร้อมทั้งแอบอ้างกระทรวงแรงงานเพื่อดำเนินการขึ้นทะเบียนแรงงานต่างด้าว โดยมีการจักหาใบตรวจสุขภาพให้แรงงานต่างด้าวโดยไม่มีการตรวจจริง นายพิพัฒน์ ระบุว่า กระทรวงแรงงานจะต้องดำเนินคดีในทุกกรณีและจะไม่มีข้อยกเว้นใดๆ ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม แต่ทั้งนี้จะต้องดำเนินการหาข้อเท็จจริงให้ได้ ส่วนกรณีที่มีเสียงเล่าลือกระทรวงแรงงานก็จะต้องรับฟังข้อมูลให้รอบด้าน พร้อมมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไปสืบหาข้อเท็จจริง ส่วนทางด้านของกรมการหางานก็ได้มีการ ลงบันทึกประจำวันเรียบร้อยแล้ว และขณะนี้ยังไม่แน่ใจว่าจะมีกรณีใดเกิดขึ้นเพิ่มเติมหรือไม่

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีการขายใบตรวจสุขภาพปลอม โดยไม่มีการตรวจสุขภาพ เกิดจากทางด้าน ของนายช.ช้าง ได้มีการรู้เห็น หรือ ฮั้วกับโรงพยาบาลในกสรขายใบตรวจสุขภาพ กระทรวงแรงงานจะดำเนินการเช่นไร นายพิพัฒน์ กล่าวว่า กรณีที่นายหน้าจะฮั้วกับโรงพยาบาบในการออกใบตรวจสุขภาพโดยไม่มีการตรวจสุขภาพจริงหรือไม่ ยังคงไม่สามารถกล่าวหาได้ในตอนนี้ โดยจะต้องเร่งหาข้อเท็จจริงให้ได้ก่อน และต้องตรวจสอบว่า ทางโรงพยาบาลได้มีการมอบอำนาจให้ใครหรือไม่ และหากทางโรงพยาบาลมีการมอบอำนาจให้ใครแล้วไม่มีการตรวจสุขภาพจริง กระทรวงแรงงานโดยกรมจัดหางานจะต้องยกเลิกสัญญา ที่ทำร่วมกันระหว่างกรมการจัดหางานและโรงพยาบาลดังกล่าว

นายพิพัฒน์ ยืนยันว่า หากพบว่ามีการกระทำผิดโดยการขายใบตรวจสุขภาพโดยไม่มีการตรวจสุขภาพจริง ก็พร้อมดำเนินคดีในทุกกรณี ดังนั้นขอให้ประชาชนสบายใจได้ว่าหากแรงงานต่างด้าว ที่กรมการจัดหางานได้ลงทะเบียนรับรองเป็นที่เรียบร้อยแรงงานดังกล่าวได้มีการตรวจสุขภาพแล้ว แต่หากแรงงานที่ยังไม่สามารถการขึ้นทะเบียนเสร็จได้ และไม่สามารถที่จะคีย์ข้อมูลเข้าระบบและรับรองการขึ้นทะเบียนแรงงานเหล่านั้นได้

พร้อมฝากไปยังทุกหน่วยงานว่าหากพบว่า ใบรับรองการตรวจสุขภาพแรงงานต่างด้าว มีราคาถูกเกินไปให้สันนิษฐานว่าใบตรวจสุขภาพดังกล่าวไม่ได้มีการตรวจสุขภาพจริง โดยเชื่อว่าทางโรงพยาบาลมีเกณฑ์ราคาของค่าตรวจสุขภาพว่ามีราคาเท่าใดในการตรวจแต่ละครั้ง

สำหรับข้อมูลนาย ช.ช้างนั้น ทีมข่าวท็อปนิวส์ ตรวจสอบพบว่า เป็นผู้บริหาร บริษัทนำคนต่างด้าวมาทำงานในประเทศไทยแห่งหนึ่งตั้งอยู่ที่ อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ที่ได้รับใบอนุญาตจากกรมการจัดหางาน ในการนำเข้าและดำเนินการจัดทำเอกสาร ขึ้นทะเบียนแรงงานต่างด้าวครบวงจรด้วย และพบว่า นาย ช. ช้าง ยังได้รับทำประกันสุขภาพ พ่วงขายใบตรวจโรคแรงงานต่างด้าวโดยไม่ตรวจจริง ซึ่งมีโรงพยาบาล ในพื้นที่ รับทำให้แบบครบวงจร

ซึ่งพฤติกรรมของนาย ช.ช้าง นี้พบเชื่อมโยงกับผังส่วย ศูนย์พิสูจน์บุคคลเมียนมา CI (ซีไอ) สมุทรสาคร วงเงินหลายร้อยล้านบาท ที่คณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฏร เคยเปิดโปงขบวนการจ่ายส่วนนี้มาแล้ว พบว่า แรงงานเมียนมาต้องเสียเงินจ่ายให้กับขบวนการนี้ ค่าหัวรายละเกือบ 20,000 บาท โดยแบ่งเป็นจ่ายให้นายหน้ารายละ 5-7,000 บาท ,จ่ายให้บริษัทยจัดหางานหัวละ 3,500 บาท ,จ่ายให้นายช.ช้างและแครือข่ายเพื่อจ่ายสู่ ข้าราชการผู้ใหญ่ ,จ่ายผ่านจนท.ตม. , จนท.กรมการจัดหางาน และหน่วยงานของรัฐบาลเมียนมา อีกด้วยซึ่งจากผังข้อมูล ทางกมธ.ป.ป.ช. จะส่งเรื่องนี้ต่อยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ ป.ป.ช. ,คดีค้ามนุษย์ เสนอไปยัง DSI ,ปปง.คดีฟอกเงิน ด้วย