“ตร.ไซเบอร์” ทลายรังโลกีย์-อบายมุขออนไลน์ กลางกรุง ยึดเซิร์ฟเวอร์สตรีมมิ่งสื่อลามก จับร้านเกมดังคนติดตามนับแสน

ตำรวจไซเบอร์ เปิดปฏิบัติการ “ทลายรังโลกีย์ อบายมุขออนไลน์ มอมเมาชาวกรุง” ตรวจยึดเซิร์ฟเวอร์สตรีมมิ่งสื่อลามก พร้อมจับกุมร้านเกมชื่อดังผู้ติดตามนับแสน

“ตร.ไซเบอร์” ทลายรังโลกีย์-อบายมุขออนไลน์ กลางกรุง ยึดเซิร์ฟเวอร์สตรีมมิ่งสื่อลามก จับร้านเกมดังคนติดตามนับแสน – Top News รายงาน

ตร.ไซเบอร์

เมื่อเวลา 17.30 น.วันนี้ (27 ก.พ.) พลตำรวจโท ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบช.สอท.) หรือตำรวจไซเบอร์ พร้อมด้วย พลตำรวจตรี ศิริวัฒน์ ดีพอ ผู้บังคับการตำรวจไซบอร์ 1 ร่วมกันแถลงข่าวเปิดปฏิบัติการ “ทลายรังโลกีย์ อบายมุขออนไลน์ มอมเมา ชาวกรุง” จับกุมผู้ต้องหาได้ 9 คน เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับ 5 ราย และความผิดซึ่งหน้า 4 ราย ในความผิดประเภทต่างๆ พร้อมของกลางอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ 40 ชุด , เครื่องสำอางเลี่ยงภาษีกว่า 112,000 ชิ้น , ตู้คีบตุ๊กตา 15 ตู้ , ตุ๊กตาของกลาง 255 ชิ้น , บุหรี่ไฟฟ้าพร้อมน้ำยา จำนวน 20 ชุด  และปืน 4 กระบอก

สำหรับปฏิบัติการครั้งนี้ ได้ระดมตำรวจไซเบอร์1 จำนวนกว่า 100 นาย กวาดล้างอาชญากรรม ในห้วงวันที่ 26-27 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา โดยเน้นการปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมายที่พบการกระทำความผิดในลักษณะที่เกี่ยวข้องกับอบายมุขในโลกออนไลน์ที่มอมเมาประชาชน จากปฏิบัติการดังกล่าวมีผลการปฏิบัติที่สำคัญ ดังนี้

1.จับกุมร้านเกมชื่อดัง ผู้ติดตามนับแสนราย รับจ้างแฮกเครื่องเกม เพื่อติดตั้งเกมเถื่อน พร้อมพ่วงโปรแกรมรับชมสื่อลามกออนไลน์ผ่านระบบสตรีมมิ่ง ตำรวจชุดจับกุมได้สืบทราบว่าเพจเฟซบุ๊กบัญชีหนึ่ง มีการจัดจำหน่าย และเผยแพร่สื่อลามกอนาจารในรูปแบบต่างๆ เช่น แพลตฟอร์มสตรีมมิ่งสื่อลามกอนาจาร , เกมลามกอนาจาร  และดัดแปลงเครื่องเล่นเกมเพื่อรับชมสื่อลามกอนาจาร อีกทั้งยังมีการรับจ้างแฮกเครื่องเกม เพื่อติดตั้งเกมเถื่อนอีกด้วย กระทั่งตำรวจพบเส้นเงินที่เชื่อมโยงไปยังผู้รับผลประโยชน์ที่แท้จริง จนนำมาสู่การออกหมายจับ

ข่าวที่น่าสนใจ

ต่อมา วันนี้ (27 ก.พ.68) เวลา 08.30 น.  ตำรวจได้นำกำลังเข้าตรวจค้นเป้าหมายจำนวน 4 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ และจังหวัดนนทบุรี แบ่งเป็นบ้านพัก 3 จุด และบริษัทรับฝากเซิร์ฟเวอร์ 1 จุด จับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับได้ 2 ราย คือ นางสาวสุพิชฌาย์ และนายปรีติ ในความผิดฐาน “ผลิตสื่อลามกเพื่อความประสงค์แห่งการค้า  และร่วมกันนำข้อมูลลามกเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์” พร้อมทั้งตรวจยึดของกลาง คอมพิวเตอร์ 13 เครื่อง , โน้ตบุ๊ก 1 เครื่อง , เครื่องเกม 1 เครื่อง , โทรศัพท์มือถือ และแท็บเลต 4 เครื่อง , อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ 11 รายการ  และสมุดบัญชี 1 เล่ม นำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี

 

2.จับกุมหนุ่มระยองโชว์เก๋าลั่นปืนขึ้นฟ้าหน้าบ้าน โพสต์อวดปืนลงโซเชียลแถมลอบขายอาวุธปืนออนไลน์ พบประวัติ เคยถูกจับกุมมาแล้ว 8 ครั้ง คดีนี้ พันตำรวจเอก กฤติน ตปสีโล ผู้กำกับการวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สอท.1 และตำรวจในสังกัด ได้ร่วมกันสืบสวนทราบว่า นายวัชระ มีพฤติกรรมลักลอบทำอาวุธปืน ดัดแปลงสภาพอาวุธปืน แล้วนำมาจำหน่ายให้แก่กลุ่มวัยรุ่น และยังมีอาวุธปืนซึ่งเป็นของบุคคลอื่นนำมาฝากขายอยู่ด้วย และทราบอีกว่า นายวัชระ มีพฤติการณ์ชอบยิงปืนที่หน้าบ้านตนเองอยู่เป็นประจำ จนสร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนในชุมชนเป็นจำนวนมาก จากการตรวจสอบประวัติของ นายวัชระ พบว่า มีประวัติเคยถูกดำเนินคดี เกี่ยวกับอาวุธปืน และยาเสพติด 8 ครั้ง จึงได้รวบรวมพยานหลักฐาน จนศาลจังหวัดระยองออกหมายค้น

ต่อมาเวลา 07.30 น. วันที่ 25 กุมภาพันธ์ ตำรวจได้เข้าตรวจค้นบ้านพักแห่งหนึ่ง ซอยทางเข้าเรือนจำ ถนนจันทอุดม อำเภอเมือง จังหวัดระยอง พบ นายวัชระ แสดงตัวเป็นผู้ครอบครองบ้านหลังดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเข้าตรวจค้น พบอาวุธปืนสั้นชนิดลูกโม่ ขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก , ปืนสั้น ขนาด 9 มม. จำนวน 1 กระบอก , ซองบรรจุกระสุนปืนขนาด 9 มม. จำนวน 1 อัน , ปืนลูกซองยาว 1 กระบอก และเครื่องกระสุนปืนขนาดต่างๆ รวม 18 นัด จึงตรวจยึดไว้เป็นของกลางเพื่อตรวจสอบ พร้อมทั้งแจ้งข้อหา “มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต” แก่นายวัชระ ก่อนนำตัว พร้อมของกลางส่ง สภ.เมืองระยอง ดำเนินคดี

 

3.ตรวจค้นโกดังสินค้าประเภทผลิตภัณฑ์สุขภาพเลี่ยงภาษี ของกลาง 22 รายการ จำนวนกว่า 112,000 ชิ้น รวมมูลค่ากว่า 2 ล้าน 6 แสนบาท โดยตำรวจไซเบอร์1 ได้ร่วมกันสืบพบการลักลอบนำเข้าสินค้าประเภทผลิตภัณฑ์สุขภาพ โดยมิได้ชำระภาษีอากร โดยถูกซุกซ่อนไว้บริเวณโกดังแห่งหนึ่ง ภายในซอยนวมินทร์ 70 แยก 6 แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม กรุงเทพฯ และโกดังสินค้าอีกแห่งหนึ่ง ภายในซอยสินสมบูรณ์ แขวงบางบอนเหนือ เขตบางบอน กรุงเทพฯ จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขอหมายค้น

ต่อมา เมื่อวันนี้ (27 ก.พ.68) ตำรวจได้นำกำลังเข้าตรวจค้นโกดังทั้ง 2 แห่ง พบสินค้าประเภทผลิตภัณฑ์สุขภาพที่มีการแสดงฉลากที่ไม่ถูกต้อง จึงได้สอบถามถึงเอกสารหลักฐานการได้มาซึ่งสินค้า และเอกสาร เกี่ยวกับการชำระภาษีอากรของสินค้า ปรากฏว่าเจ้าของสินค้าไม่สามารถนำมาแสดงได้ ตำรวจจึงตรวจยึด และอายัดสินค้าทั้งหมด 22 รายการ จำนวนกว่า 112,000 ชิ้น รวมมูลค่ากว่า 2 ล้าน 6 แสนบาท

ทั้งนี้ เจ้าของสินค้าดังกล่าว ต้องนำเอกสารเกี่ยวกับการชำระภาษีอากรของสินค้า มาแสดงภายใน 7 วัน นับแต่ วันที่ตรวจค้น โดยตำรวจไซเบอร์ได้นำสินค้าที่ตรวจยึดเอามาเก็บรักษาไว้ที่กองกำกับการ 1 กองบังคับการตำรวจไซเบอร์ 1 เพื่อตรวจสอบรายละเอียด และดำเนินการต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

‘ชัยวัฒน์’ โพสต์เดือดถึงปลัดทส. ลั่นเจอกันที่ศาล เหตุหนังสือไล่ออกแชร์ว่อน
เหิมไม่หยุด โซเชียลเขมรเปิดภาพเตรียมพร้อมรบ "ทหารกัมพูชา" แต่งยูนิฟอร์มจัดเต็ม
คนไทยแห่ต่อคิวข้าม "ด่านคลองลึก" ไปทำงานฝั่ง "ปอยเปต" แถวยาวถึงตลาดโรงเกลือ ด้านเขมร ข้ามฝั่งมาบางตา
สมช. เตรียมถกด่วน ประเมินสถานการณ์ รับมือรัฐบาลกัมพูชาหยุดซื้อไฟ-เน็ตไทย
"ชาวบ้านมะมัง" สุดทน ลุกฮือต้าน "พระนักเทศน์ชื่อดัง" กลับวัด หลังไลฟ์สดยุ "ทหารกัมพูชา" ยิงคนสุรินทร์ ให้ตุยทั้งหมด
กต.สรุปผลประชุม JBC ไทย-กัมพูชา ลุล่วงด้วยดี ยกก้าวสำคัญจัดทำเขตแดน ช่วยลดตึงเครียด เตรียมถกอีกรอบกันยายนนี้
"กัมพูชา" ยอมเปิดด่านให้ผลไม้เข้า ตั้งเงื่อนไขตอบโต้ไทย สั่งห้ามนำเข้าผลไม้จาก "จันทบุรี"
“อนุทิน” มั่นใจ "นายกฯอิ๊งค์" ไม่ชิงยุบสภา แจงยังคุยกันปกติ ย้ำยึดประโยชน์ปชช.เป็นแนวทำงาน
สหรัฐจัดพิธีสวนสนามกองทัพยิ่งใหญ่ท่ามกลางเหตุประท้วง
โฆษกทบ. ยืนยันไม่พบทหารกัมพูชาติดอาวุธ ปิดถนนขึ้นสามเหลี่ยมมรกต ขอประชาชนฟังข้อมูลหน่วยงานราชการ

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น