รถบัสบรรทุกผู้โดยสารประมาณ 70 คน ประสบเหตุเสียหลัก พุ่งตกเหวลงไปในธารน้ำข้างทาง ในกรุงกัวเตมาลา ซิตี้ เมื่อเช้าวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น (10 ก.พ.) ความพยายามดึงร่างผู้เคราะห์ร้ายออกจากซากรถเป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากสภาพของซากรถที่จมน้ำครึ่งคัน และน้ำปนเปื้อนสิ่งปฏิกูล ยอดผู้เสียชีวิตขณะนี้อยู่ที่ 55 ราย ศพที่เก็บกู้ขึ้นมาจากที่เกิดเหตุ ถูกลำเลียงไปเก็บในห้องประชุมชุมชนใกล้เคียงชั่วคราว ส่วนผู้โดยสารที่ได้รับบาดเจ็บและถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล หลายคนอาการสาหัส ประธานาธิบดี เบอร์นาร์โด อาเรบาโล แห่งกัวเตมาลา ประกาศไว้อาลัยทั่วประเทศ เป็นเวลา 3 วัน
สำนักงานดับเพลิงกัวเตมาลา แจ้งว่า คนขับรถบัสมรณะสูญเสียการควบคุมรถ ชนดะกับรถเล็กหลายคัน ก่อนชนราวกั้น และตกจากความสูงประมาณ 20 เมตร ลงไปธารน้ำด้านล่าง ภาพจากที่เกิดเหตุแสดงให้เห็นพนักงานดับเพลิง ลำเลียงศพขึ้นมาจากน้ำครำที่เต็มไปด้วยขยะ นำมาวางเรียงรายบนพื้นลาดชัน เจ้าหน้าที่เปิดเผยว่า มีศพชายคนหนึ่งติดอยู่ในซากโลหะบิดเบี้ยวของรถบัส กู้ภัยต้องอยู่ในน้ำครำร่วม 3 ชั่วโมงกว่าจะดึงออกมาได้
รถบัสมรณะ ประสบเหตุขณะกำลังเดินทางจากเมือง ซาน อากุสติน ไปยังกรุงกัวเตมาลา ซิตี้ เมืองหลวง ระยะทางประมาณ 90 กิโลเมตร ผลสอบสวนเบื้องต้นพบว่า รถบัสคันนี้อายุใช้งาน 30 ปี แต่ยังมีใบอนุญาตประกอบการ ประเด็นสอบสวนมุ่งไปที่ว่า รถคันนี้บรรทุกผู้โดยสารมากเกินไปหรือไม่
อุบัติเหตุบนท้องถนนที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก เกิดขึ้นบ่อยครั้งในประเทศอเมริกาใต้และอเมริกากลาง โดยที่บราซิล ในปี 2558 เกิดเหตุรถบัสนักท่องเที่ยวพลิกคว่ำในรัฐทางใต้ มีผู้เสียชีวิต 54 ราย และในปี 2561 มีเหตุรถบัสพลัดตกหน้าผาลงไปบนชายหาด ทางเหนือของกรุุงลิมา เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 52 ราย
