เมื่อถามว่าหากรัฐบาลไม่ทำ จะทำให้ตกหลุมทางเศรษฐกิจหรือไม่ รศ.สังศิต กล่าวว่า ตอนนี้รัฐบาลก็ตกหลุมไปแล้ว ดังนั้นจึงต้องขึ้นมาจากหลุม ส่วนกาสิโนคอมเพล็กซ์ จะทำให้ประเทศไทยขึ้นมาจากหลุมได้หรือไม่นั้น ตนคิดว่าหากกาสิโนนั้นไปเกิดขึ้นที่ประเทศสิงคโปร์ ที่มีธรรมาภิบาลในการบริหารประเทศ และระบบราชการที่มีธรรมาภิบาล จะก่อให้เกิดประโยชน์ทางด้านเศรษฐกิจโดยแท้ แต่หากเกิดในประเทศที่รัฐบาล และหน่วยราชการที่บังคับใช้กฎหมาย ที่ไม่มีธรรมาภิบาลนั้น จะยิ่งทำให้สถานการณ์ในประเทศนั้น เสียหายลงได้มากกว่าเดิม

เมื่อถามว่ากาสิโนคอมเพล็กซ์ จะเดินหน้าได้อย่างไรนั้น รศ.สังศิต กล่าวว่า หากจะทำจริงๆ รัฐบาลต้องแสดงให้เห็นว่า หน่วยงานที่บังคับใช้กฎหมายควรจะปฏิรูปก่อน โดยเฉพาะตำรวจ เพื่อให้ประชาชนมั่นใจได้ว่าสามารถควบคุมสิ่งที่ผิดกฎหมายได้ เช่น บ่อนการพนันที่มีอยู่จำนวนมากในปัจจุบันนั้น สามารถจัดการได้เรียบร้อยเสียก่อน และเป็นกฎหมายจริงๆ อีกทั้งสามารถบังคับใช้กฎหมายได้จริง และคนที่ทำผิดกฎหมายนั้นไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ประชาชนจึงจะไว้วางใจ

เมื่อถามว่าหากมองด้วยสายตาเปล่านั้น มองว่า “กาสิโน” เป็นช่วงขาขึ้นหรือขาลง รศ.สังศิต กล่าวว่า ตนมองว่าหากต้องการแข่งกันหานักพนันก็จะลำบาก แต่หากมองว่าไปแย่งชิงกลุ่มของนักท่องเที่ยว ที่เขาจะเข้ามาจัดแสดงสินค้านานาชาติ หรือมาประชุมนานาชาติที่บ้านเรา ซึ่งในประเด็นดังกล่าวนั้นถือว่าเป็น “ขาขึ้น” ได้

เมื่อถามว่าระยะเวลาในการเปิด กาสิโนคอมเพล็กซ์ จะต้องใช้เวลาอีกยาวนานแค่ไหนในบ้านเรา รศ.สังศิต ย้ำว่า ยาวหรือไม่ยาวนั้นขึ้นอยู่กับคน ถ้าทำก็สั้นไม่ทำก็ยาว

เมื่อว่าเรื่องนี้จำเป็นต้องทำประชามติหรือไม่ รศ.สังศิต กล่าวว่า ไม่จำเป็นต้องทำประชามติ โดยเฉพาะฝ่ายรัฐบาลที่หากจะทำก็แพ้อยู่วันยังค่ำ อย่าไปทำให้เสียงบประมาณเลย จริงๆแล้วการสำรวจความคิดเห็นเรื่องนี้ ควรให้สถาบันทางวิชาการที่รัฐบาลเชื่อถือ 2-3 แห่งทำก็ได้ข้อมูลแล้ว