หนุ่มหัวร้อน ขับเก๋งพุ่งชนไรเดอร์ดับ กราบขอขมาศพ ร้องไห้สะอื้น ขอโทษครอบครัวเสียชีวิต

หนุ่มหัวร้อน ขับเก๋งพุ่งชนไรเดอร์ดับ กราบขอขมาศพ ร้องไห้สะอื้น ขอโทษครอบครัวเสียชีวิต

กรณีนายเสรี อายุ 30 ปี ลูกเจ้าของร้านขายผ้า ซิ่งเก๋งชนรถจักรยานยนต์ของนายฤทธิศักดิ์ ประคุปตานนท์ อายุ 48 ปี อาชีพไรเดอร์ อัดกับเสากล้องวงจรปิดเสียชีวิต หลังมีปากเสียงเรื่องขับรถเฉี่ยวไม่ยอมลงมาเจรจา เหตุุเกิดบริเวณหน้าโครงการก่อสร้างเท็นท์ อเวนิว ถนนสุขุมวิท แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กทม.เมื่อวันที่ 21 ม.ค.ที่ผ่านมา

ล่าสุดเมื่อวาน (24 ม.ค.68) ที่วัดคลองเตยใน มีพิธีสวดพระอภิธรรมนายฤทธิศักดิ์ เป็นคืนที่ 2 บรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า

ระหว่างที่กำลังจัดเตรียมงาน นายเสรี คนก่อเหตุ พร้อมพ่อแม่ และญาติ ได้เดินทางมาร่วมงานศพ ทันทีที่นายเสรี เห็นนางสายใจ ได้เข้าไปร้องไห้ ขอโทษกับสิ่งที่เกิดขึ้น คุกเข่าขอขมา ขอโทษภรรยาผู้ตาย บอกว่าเขาไม่ได้ตั้งใจ

จากนั้นนายเสรี เดินเข้าไปบริเวณหน้าโลงศพ นำพานดอกไม้ ธูปเทียน ก้มขอขมาศพ พร้อมก้มจูบไหว้โลงศพ ร้องไห้ ขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

 

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

จากนั้นนายเสรี ได้เดินมานั่งพักที่เก้าอี้ เจ้าตัวใช้มือปิดหน้าตัวเองพร้อมกับร้องไห้ตลอดเวลา ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่าเสียใจมากไม่ได้ตั้งใจเป็นอุบัติเหตุ ยืนยันจะช่วยเหลือเยียวยาครอบครัวผู้ตาย เมื่อถามว่ารู้ใช่ไหม ครอบครัวผู้ตายเขาจะโกรธแค้นเรา นายเสรี ไม่ทันได้ตอบ ทนายความได้พูดขึ้นมาว่า นายเสรี พูดภาษาไทย และฟังภาษาไทย ไม่ค่อยออก อาจจะตอบคำถามได้ไม่มาก

 

 

จากนั้นลูกสาวคนโต จึงให้ขอโทษ น้อง ๆ ของตน ที่ต้องเสียพ่อไป และยังทำใจไม่ได้ นายเสรี ก็เข้าไปจับมือ กอดลูกสาวของผู้ตาย โดยไม่ได้อยู่รอพิธีสวดพระอภิธรรมและขอตัวเดินทางกลับไป

ภายหลังนายเสรี และครอบครัว เดินทางกลับ ผู้สื่อข่าวได้สอบถามนางสายใจ ภรรยาของนายฤทธิ์ศักดิ์ ว่าให้อภัยนายเสรีหรือไม่ เธอบอกว่า รับคำขอโทษแต่ไม่ให้อภัย ส่วนดวงวิญญาณของสามีจะอโหสิกรรมให้เขาหรือไม่นั้น ก็แล้วแต่เขา แต่ตนก็อยากให้สามีปล่อยวาง จะได้ไม่ต้องมีห่วง ส่วนตนและครอบครัว ยืนยันจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด ซึ่งถึงแม้ว่าครอบครัวของเขาจะรับปากว่า จะดูแลครอบครัวของตนและจะจ่ายเงินชดเชยให้ ตนมองว่าไม่ว่าจะให้เงินกี่บาท ก็ไม่สามารถเทียบกับชีวิตสามีได้

 

สำหรับนายเสรี ถูกดำเนินคดีข้อหา “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา” และ “ขับรถโดยไม่คำนึ่งถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่น” พนักงานสอบสวน สน.ลุมพินี คุมตัวไปฝากขังผัดแรก ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ เมื่อวันที่ 22 ม.ค.ที่ผ่านมา ก่อนได้รับการปล่อยตัวชั่วคราววงเงิน 6 แสนบาท พร้อมให้ติดกำไล EM โดยศาลได้กำหนดเงื่อนไขการปล่อยชั่วคราวห้ามผู้ต้องหาเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากศาลด้วย

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"ปานเทพ" เผย "ท็อปนิวส์" ยอดบริจาค ผ่าน "คณะรวมพลังแผ่นดินฯ" พุ่ง 30 ล้าน ประสานทหารแล้ว นำจัดซื้อโดรน อุปกรณ์ป้องชายแดน พรุ่งนี้นัดรวมตัวฟังศาลรธน.ชี้คำร้องเอาผิดนายกฯ
"รองผู้ว่าฯราชบุรี" ลงพื้นที่ทำความเข้าใจ ผู้ประกอบการเดินเรือตลาดน้ำดำเนินสะดวก ร่วมส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีสู่สายตานักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติ
"บิ๊กกุ้ง" ลั่นหลังเกษียณ ไม่สนใจเล่นการเมือง หากเป็นไปได้เงิน"คณะรวมพลังแผ่นดินฯ" ถ้านำมอบให้ ขอจัดซื้อเป็นสิ่งของบริจาคช่วยทหารชายแเดนดีกว่า
อิสราเอลเสนอยกระดับความสัมพันธ์ซีเรีย-เลบานอน
จนท.รวบ "หนุ่มเขมร" ลอบขนซิมการ์ด 200 หมายเลข พร้อมยึดเงิน 1 แสนบาท ดำเนินคดีก่อนผลักดันกลับประเทศ
อาหารแปรรูปไม่ใช่ผู้ร้ายเสมอไป สามารถรับประทานได้ปลอดภัย
เกษตรกรยัน ปรับตัวอยู่กับ "ปลาหมอคางดำ" มีข้อดีและไม่อันตรายอย่างที่เป็นข่าว
นายกฯ คุยแก้ส่งออกชายแดนไทย-กัมพูชา ยันไร้สินค้าตกค้าง เร่งกำหนดโควต้าปรับราคาในประเทศ
นายทะเบียนสหกรณ์ ยืนยัน ไม่ได้ออกคำสั่งฯ ให้สหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่นเรียกคืนเงินปันผล-เฉลี่ยคืน จากสมาชิก หลังตรวจพบสหกรณ์คำนวนเงินปันผลสมาชิกคลาดเคลื่อน เผยสั่งตั้งคณะตรวจสอบข้อเท็จจริง เอาผิดผู้ปล่อยปละละเลยสร้างความเสียหายแก่สหกรณ์
เจ้าหน้าที่ผลักดันชายกัมพูชาลักลอบเข้าเมืองพร้อมขนซิม 200 เบอร์พร้อมเงินแสน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น