ตร.พระโขนง สั่งไม่ฟ้อง “ภรรยาบิ๊กโจ๊ก” หลังถูก “เจ๊หนิง” แจ้งจับฐานลักทรัพย์

ตำรวจพระโขนง สั่งไม่ฟ้อง "เมียบิ๊กโจ๊ก" หลังถูกเจ้หนิง แจ้งจับฐานลักทรัพย์ ขณะที่เมียบิ๊กโจ๊ก ลั่นขอบคุณที่ยังให้ความยุติธรรม เผยจากนี้ไปให้เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย

ตร.พระโขนง สั่งไม่ฟ้อง “ภรรยาบิ๊กโจ๊ก” หลังถูก “เจ๊หนิง” แจ้งจับฐานลักทรัพย์ – Top News รายงาน

จากกรณีที่ น.ส.ธณัฏฐา ยอดเยี่ยม หรือ เจ้หนิง เข้าแจ้งความที่สถานีตำรวจนครบาลพระโขนง ขอให้ดำเนินคดีกับ นางศิรินัดดา หักพาล ภรรยาพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล และพวก ร่วมกันบุกรุกในเคหสถาน และร่วมกันลักทรัพย์ในเคหสถานเป็นทองคำและเงินสด รวมมูลค่ากว่า 5 ล้านบาท เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2567 โดยกล่าวอ้างว่า นางศิรินัดดาได้นำกระเป๋าสายรุ้งจำนวนหนึ่ง ไปฝากไว้ที่คอนโดแห่งหนึ่ง (กรีนคอนโด) ซอยสุขุมวิท 101 แขวงบางจาก เขตพระโขนง กรุงเทพมหานคร ซึ่งคอนโดดังกล่าวเป็นของสามีเจ้หนิง ที่เป็นอาจารย์สอนโรงเรียนนายร้อยตำรวจสามพราน และหลังจากนั้นนางศิรินัดดาได้ให้ลูกน้อง ไปขนของกลับ โดยอ้างว่าระหว่างที่มีการขนของกลับ ทรัพย์สินจำนวนหนึ่ง ซึ่งเป็นเงินสดและพระเครื่อง รวมถึงสร้อยคอทองคำ ที่เก็บไว้ในห้องเดียวกัน มูลค่ารวม 5 ล้านบาท ได้หายไป

กระทั่งวันที่ 23 และ 24 ตุลาคม 2567 พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลพระโขนง ได้สอบสวนปากคำผู้เกี่ยวข้อง และออกหมายจับนางศิรินัดดา โดยเจ้าตัว ได้เข้ามอบตัวกับตำรวจ สน.พระโขนง ทันที หลังถูกออกหมายจับ

ภรรยาบิ๊กโจ๊ก

ข่าวที่น่าสนใจ

ต่อมาพนักงานสอบสวน สน.พระโขนง ได้รวบรวมพยานหลักฐานทั้งพยานบุคคลและพยานทางนิติวิทยาศาสตร์ ยืนยันได้ว่า ตามวันเวลาที่ เจ้หนิง กล่าวหา นางศิรินัดดา เรื่องการลักทรัพย์นั้น นางศิรินัดดา ไม่ได้ไปปรากฏตัวตามวันและเวลา รวมถึงสถานที่เกิดเหตุตามที่เจ้หนิง กล่าวอ้าง แต่อย่างใด และพนักงานสอบสวน ยังมีพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ยืนยันได้ว่า หลานเจ้หนิง ซึ่งเป็นพยานที่อ้างว่าเห็นเหตุการณ์นั้น แท้จริงแล้วไม่ได้อยู่ที่เกิดเหตุตามที่กล่าวอ้างแต่อย่างใด ดังนั้น วันที่ 16 มกราคม 2568 พนักงานสอบสวน สน.พระโขนง จึงได้สั่งไม่ฟ้อง นางศิรินัดดา

ขณะที่นางศิรินัดดา หักพาล ได้กล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจนครบาลพระโขนง ที่คืนความยุติธรรมหลังจากมีคำสั่งไม่ฟ้อง พร้อมบอกด้วยว่าขั้นตอนหลังจากนี้ขอให้เป็นไปตามกฏหมาย

ส่วนกรณีที่นางศิรินัดดาแจ้งความดำเนินคดีกับเจ้หนิง สามีและหลานชาย ตำรวจได้มีการออกหมายจับและเข้าจับกุม หลานชายเจ้หนิง สามี แล้วเช่นกัน ส่วนเจ้หนิง ได้เข้ามอบตัวกับตำรวจในเวลาต่อมา

ก่อนหน้านี้ น.ส.ธนัฏฐา ยอดเยี่ยม หรือ หนิง อดีตอาจารย์พิเศษสาวโรงเรียนนายร้อยตำรวจสามพรานแจ้งความให้ดำเนินคดี นางศิรินัดดา หักพาล ภรรยา พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล อดีต รองผบ.ตร. ก่อเหตุลักเงินสดและทองคำมูลค่าเกือบ 6 ล้านที่จะใช้ไว้เป็นสินสอดในงานแต่งงานข้อหาลักทรัพย์ในเคหสถานและบุกรุกเคหสถาน ขณะเดียวกันนางศิรินัดดา แจ้งความกลับคู่กรณีแจ้งความเท็จกลั่นแกล้งผู้อื่นให้รับโทษทางอาญา

ต่อมา ศาลอาญากรุงเทพใต้ ออกหมายจับ น.ส.ธนัฏฐา ยอดเยี่ยม หรือ เจ๊หนิง, พ.ต.อ.ภีมพจน์ น้อมชอบพิทักษ์ อดีตอาจารย์ (สบ4) กลุ่มงานคณาจารย์ คณะตำรวจศาสตร์โรงเรียนนายร้อยตำรวจ ปฏิบัติราชการที่ ศปก. บช.รร.นรต และ นายพงษ์พัฒน์ วรเกต หลานเจ๊หนิง ที่จ.1118,1119,1120/2567 ลงวันที่ 22 พ.ย. 67 ตามลำดับ ข้อหา ร่วมกันแจ้งข้อความอันเป็นเท็จเกี่ยวกับความผิดอาญาแก่พนักงานสอบสวนเป็นการเพื่อจะแกล้งให้บุคคลใดต้องรับโทษหรือรับโทษหนักขึ้น

จนเมื่อวันที่ 27 พ.ย.67 น.ส.ธนัฏฐา ยอดเยี่ยม หรือ หนิง พร้อมนายกัณตเมศ ที่ปรึกษาทางกฎหมาย เดินทางเข้ามอบตัวกับ พ.ต.อ.ชัยวัฒน์ ประดับไทย ผกก.สน.พระโขนง และพนักงานสอบสวน สน.พระโขนง เพื่อรับทราบข้อหาตามหมายจับ ร่วมกันแจ้งข้อความอันเป็นเท็จเกี่ยวกับความผิดอาญาแก่พนักงานสอบสวนเป็นการเพื่อจะแกล้งให้บุคคลใดต้องรับโทษหรือรับโทษหนักขึ้น

น.ส.ธนัฏฐา กล่าวก่อนเข้ามอบตัวว่า ได้รับหมายจับส่งไปยังภูมิลำเนาพร้อมกับพ.ต.อ.ภีมพจน์ น้อมชอบพิทักษ์ สามี เพียง 2 คน ส่วนหลานชายที่มีกระแสข่าวว่าถูกออกหมายจับด้วยนั้น ยืนยันว่าขณะนี้หลานชายยังไม่ได้รับหมายจับตามที่ปรากฏเป็นข่าว การออกหมายจับครั้งนี้ตนถูกกลั่นแกล้ง

ที่ผ่านมายังไม่ทราบเหตุผลว่า ทำไมจึงถูกออกหมายจับ ทั้งที่คดีนี้แรกเริ่มตนเป็นผู้เสียหาย ถูกคู่กรณีลักทรัพย์เงินสดจำนวน 600,000 บาท ทองรูปพรรณและทองแท่งรวม 120 บาท ไปจากคอนโดมิเนียมย่านสุขุมวิท 101 พร้อมกับยืนยันว่ามีหลานชายอยู่ในที่เกิดเหตุ และเห็นเหตุการณ์ทุกอย่างที่เกิดขึ้น

ส่วนที่ตำรวจมีพยานหลักฐาน ว่าหลานชายไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุ เกิดจากการตรวจสอบสัญญาณโทรศัพท์ มองว่าเป็นการละเมิดสิทธิ์หรือไม่ โดยการมารับทราบข้อกล่าวหาจะมาสอบถามว่าใช้เหตุผลนี้ในการขออนุมัติศาลออกหมายจับหรือไม่

สำหรับกรณีที่ตนแจ้งว่าทองคำหาย แต่กลับไม่ได้มอบใบเซอร์ทองให้กับพนักงานสอบสวน เพื่อยืนยันจำนวนของกลางที่หายไป เนื่องจากต้องการยื่นเป็นหลักฐานในการต่อสู้คดีในชั้นศาลเท่านั้น

 

ทั้งนี้หลังจากมีคดีความกับคู่กรณีตนถูกคุกคามมาโดยตลอด ลักษณะการถูกติดตามตัว ทำให้รู้สึกไม่ปลอดภัยในชีวิตประจำวัน วันนี้จึงต้องแอบมารับทราบข้อกล่าวหา โดยที่ผ่านมา ตนไม่เคยมีความขัดแย้งกับผู้กำกับการ สน.พระโขนง เพราะไม่เคยพูดคุยกัน ซึ่งก็ให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่ายมาโดยตลอด แต่ที่มีปัญหาคือร้อยเวรเจ้าของคดี เนื่องจากรู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมในคดีนี้

ส่วนพ.ต.อ.ภีมพจน์ น้อมชอบพิทักษ์ สามีเข้ามอบตัวพบพนักงานสอบสวน สน.พระโขนง ข้อหาเดียวกันไปก่อนหน้านี้ ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา ทั้งนี้สามีถูกตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง และถูกพักงานไม่ให้สอนที่โรงเรียนนายร้อยตำรวจ

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"ปานเทพ" เผย "ท็อปนิวส์" ยอดบริจาค ผ่าน "คณะรวมพลังแผ่นดินฯ" พุ่ง 30 ล้าน ประสานทหารแล้ว นำจัดซื้อโดรน อุปกรณ์ป้องชายแดน พรุ่งนี้นัดรวมตัวฟังศาลรธน.ชี้คำร้องเอาผิดนายกฯ
"รองผู้ว่าฯราชบุรี" ลงพื้นที่ทำความเข้าใจ ผู้ประกอบการเดินเรือตลาดน้ำดำเนินสะดวก ร่วมส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีสู่สายตานักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติ
"บิ๊กกุ้ง" ลั่นหลังเกษียณ ไม่สนใจเล่นการเมือง หากเป็นไปได้เงิน"คณะรวมพลังแผ่นดินฯ" ถ้านำมอบให้ ขอจัดซื้อเป็นสิ่งของบริจาคช่วยทหารชายแเดนดีกว่า
อิสราเอลเสนอยกระดับความสัมพันธ์ซีเรีย-เลบานอน
จนท.รวบ "หนุ่มเขมร" ลอบขนซิมการ์ด 200 หมายเลข พร้อมยึดเงิน 1 แสนบาท ดำเนินคดีก่อนผลักดันกลับประเทศ
อาหารแปรรูปไม่ใช่ผู้ร้ายเสมอไป สามารถรับประทานได้ปลอดภัย
เกษตรกรยัน ปรับตัวอยู่กับ "ปลาหมอคางดำ" มีข้อดีและไม่อันตรายอย่างที่เป็นข่าว
นายกฯ คุยแก้ส่งออกชายแดนไทย-กัมพูชา ยันไร้สินค้าตกค้าง เร่งกำหนดโควต้าปรับราคาในประเทศ
นายทะเบียนสหกรณ์ ยืนยัน ไม่ได้ออกคำสั่งฯ ให้สหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่นเรียกคืนเงินปันผล-เฉลี่ยคืน จากสมาชิก หลังตรวจพบสหกรณ์คำนวนเงินปันผลสมาชิกคลาดเคลื่อน เผยสั่งตั้งคณะตรวจสอบข้อเท็จจริง เอาผิดผู้ปล่อยปละละเลยสร้างความเสียหายแก่สหกรณ์
เจ้าหน้าที่ผลักดันชายกัมพูชาลักลอบเข้าเมืองพร้อมขนซิม 200 เบอร์พร้อมเงินแสน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น