“จิราพร” เผยผลประชุม พรุ่งนี้ 2 บริษัทมือถือ ให้คำตอบถอนแอปฯเงินกู้นอกระบบ ลั่นไม่นิ่งนอนใจ เรื่องนี้ต้องมีคนรับผิดชอบ

“จิราพร” เผยผลประชุม พรุ่งนี้ 2 บริษัทมือถือ ให้คำตอบถอนแอปฯเงินกู้นอกระบบ ลั่นไม่นิ่งนอนใจ เรื่องนี้ต้องมีคนรับผิดชอบ

“จิราพร” เผยผลประชุม พรุ่งนี้ 2 บริษัทมือถือ ให้คำตอบถอนแอปฯเงินกู้นอกระบบ ลั่นไม่นิ่งนอนใจ เรื่องนี้ต้องมีคนรับผิดชอบ

 

ข่าวที่น่าสนใจ

15 ม.ค.2568 ที่ทำเนียบรัฐบาล นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์หลังเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาชี้แจงกรณีแอปกู้เงินที่ทำเนียบรัฐบาลในวันนี้ว่า สรุปได้เป็น 3 ประเด็นหลัก ได้แก่ การแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า เพื่อระงับยับยั้งความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น กระทรวงดีอีได้ประสานกับทางบริษัทมือถือเพื่อให้ถอนแอปพลิเคชั่นดังกล่าวออก โดย 2 บริษัทแจ้งว่าจะแจ้งผลมาในวันพรุ่งนี้ 16 มกราคม ว่าจะสามารถดำเนินการได้หรือไม่อย่างไร เพราะเท่าที่ได้ประมวลผลกันเรายังไม่มีกฎหมายที่จะสามารถไปบังคับให้ถอนแอปพลิเคชั่นออกได้ทันที จึงเป็นการขอความร่วมมือจากทั้ง 2 บริษัท

 

 

ส่วนการป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตนั้น นางสาวจิราพร ชี้แจงว่า ทราบว่างแม้แต่ กสทช.เอง ก็ไม่ได้มีกฎหมายที่จะไปตรวจแอปพลิเคชันที่ติดกับมือถือได้ เพราะอำนาจหน้าที่ของกสทช.ดูเฉพาะฮาร์ดแวร์ ไม่มีอำนาจไปดูตัวซอฟต์แวร์ เช่นเดียวกับหน่วยงานอื่นๆ ก็ไม่มีกฎหมายเข้ามาตรวจสอบในเชิงรุกในประเด็นนี้ได้ ส่วนนี้จึงคุยกันว่าจะตั้งคณะกรรมการหรือคณะกรรม หรือคณะทำงานขึ้นมาจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อที่จะมาดูว่าใครจะสามารถเป็นเจ้าภาพ และทำกฎหมายอุดช่องโหว่ เพื่อเป็นการป้องกันในเชิงรุกได้

นางสาวจิราพร ชี้แจงอีกว่า เรื่องของแอปพลิเคชั่นในลักษณะนี้มี 2 ส่วน คือ แอปพลิเคชั่นที่ติดมากับมือถือ คิดว่าต้องตั้งคณะทำงานขึ้นมาเพื่อป้องกันไม่ให้ติดตั้งแอปที่ไม่ได้รับความยินยอมจากประชาชน เพราะอาจจะละเมิดสิทธิส่วนบุคคลได้ อีกส่วนคือแอปพลิเคชั่นที่อาจจะดาวน์โหลดได้ ในส่วนนี้ได้หารือกับธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. ในฐานะผู้ถือกฎหมายในการให้อนุญาตประกอบธุรกิจการให้สินเชื่อ โดย ธปท.จะเป็นเจ้าภาพในการคุยกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อตรวจสอบเชิงรุก จะมีกลไกหรือตั้งคณะกรรมการที่อาจมีตำรวจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้ เข้ามาช่วยกันตรวจแอปพลิเคชั่นในเชิงรุก

ส่วนอีกประเด็นคือเรื่องการรับเรื่องร้องเรียนนั้น นายสาวจิราพร ระบุว่า แบ่งเป็น 2 ส่วน คือในส่วนของ สคบ. ที่ได้เปิดรับเรื่องร้องเรียน และจะดูประเด็นทางแพ่งให้กับประชาชน อันไหนที่เป็นการละเมิด ก็จะช่วยประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการ อีกส่วนคือทางตำรวจ บก.ปคบ. ก็พร้อมที่จะรับเรื่องร้องเรียน ในส่วนของสภาผู้บริโภคเพื่อไปดูว่าหน่วยงานไหนจะดำเนินการต่อในการช่วยคุ้มครองประชาชน

สำหรับผู้ที่ใช้บริการเงินกู้ และใช้เงินต้นไปแล้ว จะเข้าไปช่วยไกล่เกลี่ยอย่างไร นางสาวจิราพร กล่าวว่า ถ้ามาร้องเรียนกับ สคบ. จะเชิญผู้เสียหายเข้ามาให้ข้อมูล หากไปใช้บริการแล้วแอปพลิเคชั่นนั้นปล่อยเงินกู้ในอัตราดอกเบี้ยเกิน 15% ซึ่งเข้าข่ายความผิดตามพ.ร.บ.ของธนาคารแห่งประเทศไทย ก็จะประสานกับ ธปท.เพื่อดำเนินการต่อไป แต่จากการตรวจสอบเบื้องต้นจากทั้งสองแอปพลิเคชั่น พบว่าทั้งสองแอปพลิเคชั่นไม่ได้ขออนุญาต โดย Fineasy เป็นแพลตฟอร์มออนไลน์สำหรับโฆษณาของค่ายมือถือนั้น แต่ไม่ใช่แอปพลิเคชั่นสำหรับปล่อยกู้โดยตรง แต่มีบริษัทปล่อยกู้เข้ามาโฆษณาในแอป ส่วนสินเชื่อความสุขเป็นแอปปล่อยกู้เลย และไม่ได้ขออนุญาต ซึ่งในประเด็นนี้จะให้ผู้เสียหายเข้ามาให้ข้อมูล ถ้าพบว่าปล่อยกู้เกินอัตราดอกเบี้ย 15% ก็จะมีความผิด

 

ส่วนกรณีที่มีการอ้างว่ารอมและโดเมนถูกติดตั้งมาจากเครื่องนั้น นางสาวจิราพร กล่าวว่า ประเด็นนี้ตำรวจ สอท. ได้เชิญบริษัทเข้ามาให้ข้อมูล และขีดเส้นให้ส่งข้อมูลภายในวันพรุ่งนี้ เพื่อตรวจสอบว่าการติดตั้ง มีที่มาอย่างไร โดยหากมีความผิดที่พบว่าเป็นการติดตั้งโดยผิดกฎหมาย ทั้งแอปพลิเคชั่น และบริษัทมือถือก็ต้องมีส่วนร่วมรับผิดชอบ ซึ่งในส่วนของแอปพลิเคชั่นต้องไปตรวจสอบว่าเจ้าของเป็นคนไทย หรือต่างชาติ แต่บริษัทมือถือมีตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทย ถึงอย่างไรก็ต้องมีคนรับผิดชอบในเรื่องนี้ ซึ่งมีโทษทั้งจำทั้งปรับ ตามกฎหมายของ ธปท. มีโทษปรับถึงหลักล้าน

 

ส่วนจำนวนผู้เสียหายและเครื่องที่จำหน่ายออกไปนั้น รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว่า ได้ประสาน กสทช. แล้ว ทราบว่าพรุ่งนี้ทางบริษัทจะส่งข้อมูลมาให้ว่าเครื่องที่จำหน่ายไปแล้วติดตั้งแอปพลิเคชั่นมีกี่เครื่อง ซึ่งที่มาร้องเรียนกับ สคบ. ขณะนี้มีประมาณ 20 ราย ยังไม่เยอะมาก ส่วนที่มาร้องเรียนกับสภาผู้บริโภคก็มีส่วน ทั้งนี้ประชาสัมพันธ์ถึงประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ว่าสามารถมาร้องเรียนกับทาง สคบ. ได้ทุกช่องทาง ยินดีรับเรื่อง เรื่องไหนที่สามารถใช้กฎหมายของ สคบ. ดำเนินการได้ ก็จะทำทันที ส่วนเรื่องไหนที่เกินขอบเขตอำนาจก็จะประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดูแลประชาชน สำหรับคนที่ลบแอปไปแล้ว แต่ยังมีไลน์มาทวงหนี้ ก็จะตั้งคณะกรรมการเข้ามาดูในเรื่องนี้ ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องบูรณาการหลายหน่วยงานให้ครอบคลุม

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ระยอง แห่หลวงพ่อองค์ดำอัญเชิญจากอินเดีย ประดิษฐานไว้วัดเขาโบสถ์ ให้ประชาชนกราบไหว้ขอพร เพื่อความเป็นสิริมงคล
สวธ. จัดประกวด Cosplay World Thailand 2025 หนุนคนรุ่นใหม่ แสดงพลัง Soft Power ผ่านศิลปะไทยประยุกต์ ต่อยอดสู่อาชีพในอนาคต
หลายหน่วยงาน เข้าช่วยเหลือ เด็กออทิสติก หลังแม่ผูกคอหนีปัญหาหนี้สิน ก่อนฟื้นคืนชีพต่อหน้าเจ้าหน้าที่
ด่านผ่านแดนถาวรบ้านเขาดิน อ.คลองหาด จ.สระแก้ว เงียบเหงา คนกัมพูชาทำงานในไทยรอดูสถานการณ์หลังไทยผ่อนปรน
"กรมบังคับคดี" ร่วมงานมหกรรมการเงินหาดใหญ่ MONEY EXPO 2025 เดินหน้าจัดงานไกล่เกลี่ยหนี้ ช่วยประชาชนเข้าถึงความยุติธรรมอย่างเป็นธรรม
"นิพนธ์" สวนเดือดผู้บริหารปชป. ลั่นเลือดแท้รับได้มติพรรค แต่รับไม่ได้พวกใช้อำนาจสั่ง ขู่ไล่คน เพื่อบังคับยัดเยียด ยอมรับมติโจร
RBSO ร่วมกับ สวธ. จัดการแสดงคอนเสิร์ต Royal Concert “A Celebration of Thai Masters” เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี
"วิโรจน์" หยันสุด "พิชัย" บินเจรจาภาษีการค้าสหรัฐไร้ข้อสรุป หยันเหมือนมวยโดนจระเข้ฟาดหาง จะฟื้นตัวทันเดดไลน์หรือไม่
ปิดประตูตีมาร! หยุดอนุญาตธุรกิจรักษ์โลกจอมปลอม ปูพรม ฟาดรีไซเคิล EEC เถื่อน
ลือ ! เปิดชายแดนหาดเล็ก 7 หรือ 10 กรกฎาคมนี้

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น