มติป.ป.ช. ชี้มูลผิด 3 อดีตส.ส. “พท.-ปชป.” คดีเสียบบัตรแทนกัน ปี 56

ป.ป.ช. ชี้มูลความผิด 3 อดีต สส. เพื่อไทย-ปชป. คดีเสียบบัตรแทนกัน ปี 56

มติป.ป.ช. ชี้มูลผิด 3 อดีตส.ส. “พท.-ปชป.” คดีเสียบบัตรแทนกัน ปี 56 – Top News รายงาน

ป.ป.ช.

เมื่อวันที่ 2 มกราคม 2568 นายสาโรจน์ พึงรำพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. เปิดเผยว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดคดีสำคัญกรณีเกี่ยวกับการกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ กรณีมีเหตุอันควรสงสัยว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จำนวน 3 ราย ประกอบด้วย นายชัยวุฒิ ผ่องแผ้ว และนายภิรพล ลาภาโรจน์กิจ สส.พรรคประชาธิปัตย์ และนายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ สส.พรรคเพื่อไทย ในขณะนั้น ฝากผู้อื่นหรือยินยอมให้ผู้อื่นใช้บัตรประจำตัวอิเล็กทรอนิกส์แสดงตนและลงคะแนนแทน ในการพิจารณาและลงมติร่างพระราชบัญญัติให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศ เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2556 โดยที่ตนเองไม่อยู่ในที่ประชุม

 

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ระบุว่า ข้อเท็จจริงจากการไต่สวนปรากฏว่า เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2556 ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศ ได้ปรากฏชื่อนายชัยวุฒิ ผ่องแผ้ว และนายภิรพล ลาภาโรจน์กิจ สส.พรรคประชาธิปัตย์ และนายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ สส.พรรคเพื่อไทย แสดงตนและลงคะแนนทั้งที่บุคคลทั้งสาม ไม่อยู่ในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรตลอดระยะเวลาที่มีการประชุม เนื่องจากมีการเดินทางไป – กลับ ต่างจังหวัดโดยเครื่องบิน

กรณีจึงรับฟังได้ว่า นายชัยวุฒิ ผ่องแผ้ว , นายภิรพล ลาภาโรจน์กิจ และนายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ ได้ฝากบัตรประจำตัวอิเล็กทรอนิกส์ของตนไว้กับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรรายอื่น หรือยินยอมให้บัตรประจำตัวอิเล็กทรอนิกส์ของตนไปอยู่ในความครอบครองของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรรายอื่น เพื่อให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรรายนั้นใช้บัตรประจำตัวอิเล็กทรอนิกส์กดปุ่มแสดงตน และลงคะแนนแทนในการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว

คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาแล้วมีมติ ว่า การกระทำของนายชัยวุฒิ ผ่องแผ้ว , นายภิรพล ลาภาโรจน์กิจ และนายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ มีมูลความผิดทางอาญา ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 123/1 (ปัจจุบันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 172) ให้ส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐาน สำเนาอิเล็กทรอนิกส์ และคำวินิจฉัยไปยังอัยการสูงสุด เพื่อดำเนินการฟ้องคดีต่อศาล ตามฐานความผิดดังกล่าว ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 76

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ปทุมธานี-สาวกระโดดสะพานไรเดอร์พลเมืองดีพยายามช่วยแต่ไม่สำเร็จ
ผู้ว่าฯฉะเชิงเทรา มอบนโยบายให้กับกำนันผู้ใหญ่บ้านและผู้นำท้องถิ่น ตามแนวทางของรัฐบาล พร้อมเดินทางไปมอบถุงยังชีพ
“วิโรจน์” ลั่นปชน.ไม่ใช่พรรคนั่งร้านใคร พร้อมตรวจสอบ “ครม.อนุทิน 1” แบบเข้มข้น
การยางฯเบตง จัดพิธีมอบโฉนดต้นยางพารา พร้อมเชิดชูเกษตรกร–สหกรณ์ดีเด่น
สุดระทึก! กระป๋องน้ำมันระเบิด ไฟหวิดเผารถและบ้าน เจ้าหน้าที่เร่งสกัดทันควัน
ผู้ว่าฯ นครสวรรค์ นำคณะลงพื้นที่ เยี่ยมนักเรียนทุนการศึกษามูลนิธิร่วมจิตต์น้อมเกล้าฯ

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​