“แพทยสภาฯ” สอบจริยธรรมหมอ-พยาบาล ปมเอื้อนักโทษชั้น 14 สั่ง “รพ.ตำรวจ” ส่งหลักฐานรักษา “ทักษิณ”

"แพทยสภาฯ" สอบจริยธรรมหมอ-พยาบาล ปมเอื้อนักโทษชั้น 14 สั่ง "รพ.ตำรวจ" ส่งหลักฐานรักษา "ทักษิณ"

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม ที่ผ่านมา คณะอนุกรรมการสอบสวน ชุดเฉพาะกิจ ของสำนักงานเลขาธิการแพทยสภา ได้ทำหนังสือแจ้งถึงนายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อขอให้ชี้แจงข้อเท็จจริง พร้อมทั้งเอกสารหลักฐานวัตถุพยาน เพื่อใช้ประกอบการพิจารณาจริยธรรม แพทย์พยาบาล ที่เกี่ยวข้องกรณี นายทักษิณ ชินวัตร เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งถูกตั้งข้อสังเกตว่ามีการเอื้อประโยชน์ให้นายทักษิณ ทั้งที่ไม่มีอาการเจ็บป่วยจริงหรือไม่ แพทย์ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ออกใบวินิจฉัยโรค และรับรองให้ผู้ป่วยไปพักรักษาที่โรงพยาบาลตำรวจเป็นความเท็จหรือไม่

 

ข่าวที่น่าสนใจ

สำหรับข้อเท็จจริง เอกสารหลักฐานวัตถุพยาน ที่คณะอนุกรรมการสอบสวนชุดเฉพาะกิจ ขอให้นายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ ชี้แจงส่งมอบให้มีจำนวน 8 ข้อ ดังนี้

1. คำชี้แจงเกี่ยวกับรายละเอียดการเข้ารับการรักษาพยาบาล นายทักษิณ ทั้งหมดโดยละเอียด

2. ขอทราบชื่อ สกุลแพทย์ ทั้งหมดที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการให้การดูแลรักษา นายทักษิณ โดยให้แจ้งชื่อ นามสกุล และเลขใบประกอบวิชาชีพ

3. คำชี้แจงจาก บุคคลในข้อ 2 เกี่ยวกับกระบวนการตรวจ การวินิจฉัย การดูแลรักษา นายทักษิณ โดยละเอียด

4. กรณีนี้เนื่องจาก นายทักษิณ เป็นผู้ต้องขังที่ส่งตัวไปรักษาตัวนอกเรือนจำนานเกินกว่าสามสิบวัน ตามที่กำหนดในข้อ 7 ของกฎกระทรวง การส่งตัวผู้ต้องขังไปรักษาตัวนอกเรือนจำ พ.ศ.2563 ซึ่งมีการกำหนดให้ผู้บัญชาการเรือนจำดำเนินการ มีทำหนังสือขอความเห็นชอบจากอธิบดี พร้อมกับความเห็นของแพทย์ผู้ทำการรักษาและหลักฐานอื่นที่เกี่ยวข้อง และรายงานให้ปลัดกระทรวงทราบ ดังนั้นจึงขอความเห็นของแพทย์ผู้ทำการรักษาและหลักฐานอื่นที่เกี่ยวข้องดังกล่าว

5. กรณีนี้เนื่องจาก นายทักษิณ เป็นผู้ต้องขังที่ส่งตัวไปรักษาตัวนอกเรือนจำ นานเกินกว่าหกสิบวัน ตามที่กำหนดในข้อ 7 ของกฎกระทรวงการส่งตัวผู้ต้องขังไปรักษาตัวนอกเรือนจำ พ.ศ. 563 ซึ่งมีการกำหนดให้ผู้บัญชาการเรือนจำดำเนินการ มีทำหน้าหนังสือขอความเห็นชอบจากอธิบดีพร้อมกับความเห็นของแพทย์ผู้ทำการรักษาและหลักฐานอื่นที่เกี่ยวข้อง และรายงานให้ปลัดกระทรวงทราบ ดังนั้นจึงขอความเห็นของแพทย์ผู้ทำการรักษาและหลักฐานอื่นที่เกี่ยวข้องดังกล่าว

 

 

6. กรณีนี้เนื่องจาก นายทักษิณ เป็นผู้ต้องขังที่ส่งตัวไปรักษาตัวนอกเรือนจำ นานเกินกว่าหนึ่งร้อยยี่สิบวัน ตามที่กำหนดในข้อ 7 ของกฎกระทรวง การส่งตัวผู้ต้องขังไปรักษาตัวนอกเรือนจำ พ.ศ.2563 ซึ่งมีการกำหนดให้ผู้บัญชาการเรือนจำดำเนินการ มีทำหนังสือขอความเห็นชอบจากอธิบดีพร้อมกับความเห็นของแพทย์ผู้ทำการรักษาและหลักฐานอื่นที่เกี่ยวข้อง และรายงานให้รัฐมนตรีทราบ ดังนั้นจึงขอความเห็นของแพทย์ผู้ทำการรักษาและหลักฐานอื่นที่เกี่ยวข้องดังกล่าว

7. สำเนาใบส่งตัวเพื่อเข้ารับการรักษาต่อ สำเนาเวชระเบียน สำเนาบันทึกการผ่าตัด สำเนาบันทึกการให้ยาระงับความรู้สึก สำเนาบันทึกการพยาบาล สำเนารายงานทางการแพทย์ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง เช่น ภาพถ่ายทางรังสีวินิฉัย ผลการตรวจทางรังสี และผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ หรือเอกสารอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับการรักษา นายทักษิณ โดยให้ระบุหมายเลขหน้าเอกสารดังกล่าว และให้เจ้าหน้าที่ลงนามรับรองสำเนาเอกสารทุกหน้าด้วย ทั้งนี้ขอตั้งแต่วันที่ 23 สิงหาคม 2566 ที่ผู้ป่วยถูกส่งต่อการรักษาไปรักษาในโรงพยาบาลตำรวจ จนกระทั่งผู้ป่วยถูกจำหน่ายออกจากโรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งถือว่าเกี่ยวข้องกับการพิจารณาจริยธรรมในครั้งนี้

8. ข้อเท็จจริงอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องและเป็นประโยชน์ในการพิจารณา

ทั้งนี้ ในหนังสือขอข้อมูลของคณะอนุกรรมการสอบสวนชุดเฉพาะกิจ ระบุให้นายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจทำคำชี้แจงพร้อมพยานหลักฐานที่สนับสนุนคำชี้แจง เป็นลายลักษณ์อักษร ตามประเด็นดังกล่าวข้างต้น และเพื่อประโยชน์ในการพิจารณา ให้จัดทำคำชี้แจงเป็นตัวพิมพ์ภาษาไทย เว้นแต่เป็นคำศัพท์เทคนิคเฉพาะ โดยส่งคำชี้แจงพร้อมพยานหลักฐานดังกล่าวไปยังคณะอนุกรรมการสอบสวนชุดเฉพาะกิจ สำนักงานเลขาธิการแพทยสภา ภายในวันที่ 15 มกราคม 2568

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า การพิจารณาจริยธรรมของคณะอนุกรรมการสอบสวนชุดเฉพาะกิจดังกล่าว เป็นผลมาจากสำนักงานเลขาธิการแพทยสภา ได้รับคำร้องให้ตรวจจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรมของผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม กรณีนายทักษิณ เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ

เบื้องต้น คณะกรรมการแพทยสภา ในการประชุม ครั้งที่ 10 /2567 วันที่ 10 ตุลาคม 2567 พิจารณาแล้วมีมติคำร้องมีมูล จึงส่งเรื่องให้คณะอนุกรรมการสอบสวน ชุดเฉพาะกิจพิจารณาจริยธรรมดำเนินการดังกล่าว

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ขนลุก! มูลนิธิร่วมกตัญญู จัดโต๊ะจีนเชิญดวงวิญญาณตึกสตง.ถล่ม "หนุ่มกู้ภัย" ร้องลั่น "หิว ช่วยด้วย"
"เอกสิทธิ์" เผยมาตรฐาน-คุณภาพภาคอสังหาริมทรัพย์ ปัจจัยสำคัญสร้างเชื่อมั่นความปลอดภัย รองรับพิบัติภัยในอนาคต
"รมว.ท่องเที่ยว" ระดมภาครัฐ-เอกชน ถกปัญหาความปลอดภัย ฟื้นภาพลักษณ์เที่ยวไทย หลังเจอกระแสข่าวด้านลบ
นาทีชีวิต! ส่งเฮลิคอปเตอร์ EC-725 ช่วยผู้ป่วยวิกฤต ส่งถึงมือแพทย์ได้ทันเวลา
วธ. จัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์ถวายพระกุศล "เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ" วันคล้ายวันประสูติ
"สก.นภาพล" ซัดกระทู้ถาม "กทม." เมื่อไหร่จะจ่ายคืนหนี้ BTS ย้ำดอกเบี้ยเพิ่มวันละ 4.5 ล้าน แฉฟาดรายได้ค่าโดยสาร 3 เดือน กว่า 2 พันล้าน แต่ให้เอกชนแบกภาระวิ่งรถไฟฟ้า
จีนสั่งยกเว้นภาษีสินค้านำเข้าบางประเภทจากสหรัฐ
"รองผอ." คดีฮั้วประมูล เผย "3 วิศวกร" รับลงชื่อตรวจงานสร้างตึกสตง.จริง เร่งสอบลายมืออีก 7 ราย ยังปฏิเสธ
"นายกฯ" รับมอบเงิน 5 ล้าน มูลนิธิเรนวูด ช่วยผู้ได้รับผลกระทบแผ่นดินไหว
"อดีตผู้พิพากษา" ชี้ตรง ป.ป.ช.-อสส.ไม่ทำหน้าที่โจทก์ เหตุศาลฎีกาฯ ต้องออกโรงไต่สวนเอง "ทักษิณ"ไม่ติดคุกจริงตามคำพิพากษา

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น