ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติเอกฉันท์ ตีตกคำร้อง ปม “รมว.ยุติธรรม-อธิบดีกรมราชทัณฑ์” เอื้อ “ทักษิณ” พักชั้น 14 รพ.ตำรวจ

ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติเอกฉันท์ ตีตกคำร้อง ปม "รมว.ยุติธรรม-อธิบดีกรมราชทัณฑ์" เอื้อ "ทักษิณ" พักชั้น 14 รพ.ตำรวจ

ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติเอกฉันท์ ตีตกคำร้อง ปม “รมว.ยุติธรรม-อธิบดีกรมราชทัณฑ์” เอื้อ “ทักษิณ” พักชั้น 14 รพ.ตำรวจ

 

ข่าวที่น่าสนใจ

18 ธันวาคม 2567 ศาลรัฐธรรมนูญประชุมปรึกษาคดีที่สำคัญและเป็นที่สนใจ จำนวน 7 เรื่อง โดยมีผลการพิจารณาที่น่าสนใจดังนี้

คำร้องของนายคงเดชา ชัยรัตน์ ที่ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 ว่า รัฐมนตรีว่าการกระพรวงยุติธรรม ผู้ถูกร้องที่1 มีอำนาจหน้าที่กำกับดูแลกรมราชทัณฑ์และรับทราบการบังคับใช้กฎกระทรวงการส่งตัวผู้ต้องขังไปรักษาตัวนอกเรือนจำ พ.ศ. 2563 อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ผู้ถกร้องที่ 2 และผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ผู้ถูกร้องที่ 3 มีอำนาจให้ความเห็นชอบและอนุญาตบังคับใช้กฎกระทรวงดังกล่าว ส่งตัวนายทักษิณ ชินวัตร ไปรักษาตัวที่ห้องพิเศษ ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ

 

 

ทั้งที่ไม่มีหลักฐานชัดเจนว่ามีอาการป่วยรุนแรงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 246 อีกทั้งไม่ได้ดูแลให้มีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 53 กระทำการเอื้อประโยชน์ให้แก่นายทักษิณให้ได้รับสิทธิรักษาพยาบาลดีกว่าผู้ต้องขังรายอื่น ทำให้บุคคคลไม่เสมอกันในกฎหมาย ขัดหรือแย้งต่อรัฐธธธรรมนูญมาตรา 27 เป็นการกระทำที่เป็นการล้มล้างอำนาจอธิบไตยฝ่ายตุลาการ เป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49

โดยนายคงเดชา ได้ยื่นคำร้องต่ออัยการสูงสุดมาแล้ว เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2567 แต่อัยการสูงสุดมีคำสั่งไม่รับดำเนินการ จึงมายื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ

ทั้งนี้ ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาโดยการอภิปรายแล้วเห็นว่า ข้อเท็จจริงตามคำร้องและเอกสารประกอบคำร้องเป็นเพียงการกล่าวอ้าง ว่าผู้ถูกร้องทั้งสามปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ไม่ปรากฎข้อเท็จจริงหรือพยานหลักฐานอื่นที่ชัดเจนเพียงพอ

 

 

และยังห่างไกลเกินกว่าเหตุที่แสดงให้เห็นได้ว่าผู้ถูกร้องทั้งสามกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 วรรคหนึ่ง กรณีไม่ต้องด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการตามรัฐธธรรมนูญ มาตรา 49 ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเป็นเอกฉันท์มีคำสั่งไม่รับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

สหรัฐจ่อขึ้นบัญชีดำธุรกิจฟอกเงินกัมพูชาโยงญาติฮุนมาเน็ต
ฮุนเซนวิงวอนนานาชาติหนุนกัมพูชาในศาลโลก
ฮุนเซนบอกคนไทยให้โทษกองทัพตัวเองถ้ากัมพูชาปิดด่าน
"สันติสุข" สวนแรง 6 คำขู่ "ฮุนเซน" ปลุกเขมรตอบโต้ไทย สุดท้ายทำปท.เดือดร้อน หลักฐานชี้ "พ่อลูกฮุน" ไม่ได้รักประชาชนจริง
"อนุทิน" เผยคุย "นายกฯอิ๊งค์" ไม่มีปมปรับครม. มั่นใจนั่งเก้าอี้มหาดไทยต่อ
"ฮุน มาเนต" โพสต์ส่งตัวแทนกัมพูชา ยื่นจดหมายถึงศาลโลกแล้ว ลั่นจะไม่ถอยหนี หวังฮุบ 4 พื้นที่พิพาท
เตือนภัย "มิจฉาชีพ" อ้างเป็นทนาย-ตำรวจ หลอกช่วยเหลือคืนเงินผู้เสียหายคดีออนไลน์ พบสูญเงินกว่า 10 ล้าน
"ทัพเรือ" แจงคลิป ทหารเขมรสอดแนม ฐานชำราก ยันเขตแดนไทยอยู่ห่างพื้นที่อ้างสิทธิ์ทางบก 200 เมตร
"ทหาร ฉก.ลาดหญ้า กกล.สุรสีห์" จับต่างด้าวเถื่อนลอบเข้าไทย จ่าย 55,000 ใช้ไทยทางผ่านไปทำงานมาเลเซีย
‘สุชาติ’ ขึ้นศาลไต่สวนมูลฟ้องคดีถูก ‘รักชนก- สหัสวัติ’ หมิ่นประมาท จ่อมอบทนายความฟ้องอีก 1 คดี

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น