มติสภากทม.ไฟเขียว งบรายจ่ายเพิ่มปี 68 กว่า 1.4 หมื่นล้าน นำใช้คืนหนี้ BTS

มติสภากทม.ไฟเขียว งบรายจ่ายเพิ่มปี 68 กว่า 1.4 หมื่นล้าน นำใช้คืนหนี้ BTS

วันนี้ เวลา 10.00 น. ที่ห้องประชุมสภากรุงเทพมหานคร อาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร 2 ดินแดง ได้มีการประชุมสภากรุงเทพมหานคร โดยมีวาระสำคัญคือ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯกรุงเทพมหานคร ได้เสนอญัตติร่างข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 วงเงินไม่เกิน 14,549,503,800 บาท

 

 

 

 

ซึ่งเป็นรายจ่ายพิเศษจ่ายจากเงินสะสมจ่ายขาดของกรุงเทพมหานคร เพื่อชำระหนี้ค่าจ้างเดินรถและซ่อมบำรุงโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายที่ 1 และโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนต่อขยายที่ 2 ให้กับ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BTSC ตามคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด หลังก่อนหน้านี้นายชัชชาติได้เสนอของบเพิ่มเติมปี 2567 มาแล้ว แต่ต้องถอนออกไป เพราะคณะกรรมการวิสามัญได้ขอให้ทบทวน เนื่องจากมีกรณี ป.ป.ช.มูลความผิดอดีตผู้บริหารกทม.และเอกชน ในคดีจ้าง BTSC เดินรถไฟฟ้าสายสีเขียว ในปี 2555

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

โดยนายชัชชาติ ชี้แจงต่อสภากรุงเทพมหานครว่า เนื่องจากกรุงเทพมหานครมีความประสงค์จะชำระหนี้ตามคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดเป็นค่าจ้างเดินรถและซ่อมบำรุงโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว จำนวน 14,549,503,800 บาท ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ถอนร่างของบเพิ่มเติมปี 2567 จากนั้นได้ทำหนังสือหารือกับ ป.ป.ช. ศาลปกครอง และอัยการสูงสุดว่าจะสามารถชำระหนี้ดังกล่าวตามคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดได้หรือไม่ โดยสำนักการจราจรและขนส่ง กรุงเทพมหานคร ได้มีหนังสือขอความอนุเคราะห์หารือแนวทางดำเนินการไปยัง 3 หน่วยงานดังกล่าว อีกทั้งกรุงเทพมหานคร และบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด ได้ยื่นคำขอให้ศาลปกครองพิจารณาพิพากษาหรือมีคำสั่งชี้ขาดคดีใหม่ เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2567 แต่ศาลปกครองกลางได้มีคำสั่งไม่รับ เนื่องจากไม่ต้องด้วยหลักเกณฑ์ ต่อมาสำนักงานคดีปกครอง สำนักงานอัยการสูงสุดพิจารณาแล้วเห็นว่า คำสั่งศาลปกครองกลางชอบด้วยเหตุผล จึงควรไม่อุทธรณ์ และสำนักงานกฎหมายและคดีเห็นควรไม่อุทธรณ์ตามความเห็นของสำนักงานคดีปกครอง สำนักงานอัยการสูงสุด ซึ่งขณะนี้เวลาได้ล่วงผ่านมาแล้ว มีผลให้กรุงเทพมหานครต้องรับภาระดอกเบี้ยอันเกิดจากความล่าช้าในการชำระหนี้ตามคำพิพากษาศาล อีกทั้งเพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายกับกรุงเทพมหานคร จึงเห็นควรเสนอร่างข้อบัญญัติดังกล่าว

 

 

ขณะที่นายนภาพล จีระกุล ส.ก.เขตบางกอกน้อย กล่าวว่า นอกจากหนี้ส่วนดังกล่าวแล้ว ยังมีส่วนอื่นอีกรวมประมาณ 4 หมื่นล้านบาท ที่ กทม.ต้องชำระ รวมดอกเบี้ยกว่าวันละ 7 ล้านบาท จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่สภา กทม.ควรเห็นชอบในการอนุมัติวงเงินเพื่อให้ กทม.นำไปชำระหนี้ เพราะผู้ว่าฯกทม.ไม่มีอำนาจนำเงินไปใช้ และหากเรื่องนี้ยังดำเนินการช้า กทม.จะยิ่งเสียดอกเบี้ยมากขึ้น แต่หากเร่งชำระหนี้จำนวนดังกล่าวในวันนี้ จะช่วยประหยัดเงินกว่า 100 ล้านบาท ซึ่งสามารถนำไปใช้อย่างอื่นได้

ทั้งนี้ ที่ประชุมสภากรุงเทพมหานคร มีมติเห็นชอบร่างญัตติดังกล่าว จำนวน 37 เสียง ไม่เห็นชอบไม่มี งดออกเสียง 1 เสียง พร้อมตั้งคณะกรรมการวิสามัญร่างข้อบัญญัติ กรุงเทพมหานคร เรื่องงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม ประจำปี พ.ศ.2568 จำนวน 24 คน โดยใช้เวลาพิจารณา 45 วัน และกำหนดแปรญัตติ 10 วัน

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"กัมพูชา" ยันประชุม JBC ราบรื่น เดินหน้าปักปันเขตแดน แต่ไม่ยอมรับแผนที่ไทย 1 ต่อ 5 หมื่น
สระแก้ว หน้าด่านคลองลึก อ.อรัญประเทศ คนไทยรอข้ามแดนแถวยาวเหยียด
‘ชัยวัฒน์’ โพสต์เดือดถึงปลัดทส. ลั่นเจอกันที่ศาล เหตุหนังสือไล่ออกแชร์ว่อน
เหิมไม่หยุด โซเชียลเขมรเปิดภาพเตรียมพร้อมรบ "ทหารกัมพูชา" แต่งยูนิฟอร์มจัดเต็ม
คนไทยแห่ต่อคิวข้าม "ด่านคลองลึก" ไปทำงานฝั่ง "ปอยเปต" แถวยาวถึงตลาดโรงเกลือ ด้านเขมร ข้ามฝั่งมาบางตา
สมช. เตรียมถกด่วน ประเมินสถานการณ์ รับมือรัฐบาลกัมพูชาหยุดซื้อไฟ-เน็ตไทย
"ชาวบ้านมะมัง" สุดทน ลุกฮือต้าน "พระนักเทศน์ชื่อดัง" กลับวัด หลังไลฟ์สดยุ "ทหารกัมพูชา" ยิงคนสุรินทร์ ให้ตุยทั้งหมด
กต.สรุปผลประชุม JBC ไทย-กัมพูชา ลุล่วงด้วยดี ยกก้าวสำคัญจัดทำเขตแดน ช่วยลดตึงเครียด เตรียมถกอีกรอบกันยายนนี้
"กัมพูชา" ยอมเปิดด่านให้ผลไม้เข้า ตั้งเงื่อนไขตอบโต้ไทย สั่งห้ามนำเข้าผลไม้จาก "จันทบุรี"
“อนุทิน” มั่นใจ "นายกฯอิ๊งค์" ไม่ชิงยุบสภา แจงยังคุยกันปกติ ย้ำยึดประโยชน์ปชช.เป็นแนวทำงาน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น