ป.ป.ช. แจงชัด “กทม.” ต้องยึดคำพิพากษาศาล อ้างรอผลคำร้อง ปมขยายสัมปทาน เป็นเหตุยืดจ่ายหนี้ BTS ไม่ได้

ป.ป.ช. แจงชัด "กทม." ต้องยึดคำพิพากษาศาล อ้างรอผลคำร้อง ปมขยายสัมปทาน เป็นเหตุยืดจ่ายหนี้ BTS ไม่ได้

Top news รายงาน จากกรณี กรุงเทพมหานคร หรือ กทม.ยื้อจ่ายหนี้ค่าจ้างเดินรถและซ่อมบำรุงโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนต่อขยายที่ 1 และส่วนต่อขยายที่ 2 ให้แก่บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด หรือ บีทีเอสซี ตามคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด ที่มีคำตัดสินให้ กทม.จ่ายหนี้จำนวน 1.2 หมื่นล้านบาท ภายใน 180 วัน หากรวมดอกเบี้ยอยู่ที่ 1.4 หมื่นล้านบาท

โดยใช้ข้ออ้างเรื่องยังไม่ได้รับข้อมูลจาก ป.ป.ช. ซึ่งได้สอบถามกรณี ป.ป.ช.ชี้มูลบีทีเอสกับอดีตผู้ว่าฯ กทม. กับพวกรวม 13 คน กรณีขยายอายุสัญญาสัมปทาน 13 ปี ทำให้นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯกทม.ขอถอนเรื่องของบ 67 โดยที่กทม.ต้องแบกค่าดอกเบี้ยวันละ 2.7 ล้านบาทต่อไป

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ล่าสุด ทีมข่าวท็อปนิวส์ได้ตรวจสอบประเด็นดังกล่าวกับ นายสาโรจน์ พึงรำพรรณ ว่าที่เลขาฯ ป.ป.ช. ซึ่งนายสาโรจน์ ชี้แจงว่า สำนวนคดีชี้มูลบีทีเอสกับอดีตผู้ว่ากทม.อยู่ที่อัยการ ส่วนเรื่องนี้จะเป็นเหตุให้กทม.อ้างไม่จ่ายเงินให้กับบีทีเอสตามคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดได้หรือไม่ ต้องไปดูกฎหมายและระเบียบของกทม. และคำพิพากษาของศาลว่ามีรายละเอียดหรือประเด็นที่คาบเกี่ยวกับคำวินิจฉัยของป.ป.ช.หรือไม่อย่างไร กทม.คงอยากจะให้สร้างความมั่นใจว่าจ่ายได้หรือไม่ได้ ทั้งนี้ตามระบบราชการ หาก กทม.ถามป.ป.ช.มาก็ต้องตอบ แต่จะตอบในลักษณะใดอยู่ที่เนื้อหาของกฏหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง อาจจะมีแนวทางเขาไปหารืออัยการสูงสุด อย่างไรก็ตามหนังสือต้องตรวจสอบอีกครั้ง เพราะถ้ามีหนังสือเข้ามาจะส่งไปที่สำนักกฎหมายที่มีรองเลขาฯป.ป.ช.กำกับ และปฏิบัติหน้าที่แทนเลขาฯอยู่แล้วในส่วนของกฏหมาย แต่โดยส่วนใหญ่หากจะตอบว่าอะไร เรื่องจะไปถึงกรรมการ ป.ป.ช.

 

 

ว่าที่เลขาฯป.ป.ช. กล่าวอีกว่า สุดท้ายต้องมีจุดจบที่ลงตัว ซึ่งตนเข้าใจว่าขณะนี้ยังอยู่ในกรอบคำพิพากษาของศาล กทม.คงจะดำเนินการอะไรที่คิดว่ามันครบถ้วนสมบูรณ์และเป็นประโยชน์ต่อราชการ เหมือนกับสร้างความมั่นใจให้เขาในการดำเนินการ เพราะโดยหลักหน่วยงานหรือบุคคลที่เกี่ยวข้อง มีหน้าที่ที่จะต้องปฏิบัติตามคำพิพากษาของศาลอยู่แล้ว เว้นแต่ว่าจะมีกฎหมายหรือระเบียบอื่นที่คุ้มครองระยะเวลา ให้สามารถใช้ดุลยพินิจในช่วงระยะเวลาหนึ่งได้เท่านั้น อย่างไรก็ตามป.ป.ช.ไม่สามารถวินิจฉัยได้ หากป.ป.ช.ตอบ ก็คงตอบไปในหลักการ เพราะเราไม่ได้เป็นคู่สัญญา จะไปตัดสินว่าคุณจะต้องจ่ายคุณต้องอะไรไม่ได้ อำนาจพิจารณาไม่จ่ายคือใคร และฐานในการจ่ายคือคำพิพากษา มันมีข้อยกเว้นหรือไม่ว่าเราจะไม่ปฏิบัติตามคำพิพากษาได้ อีกทั้งในส่วนคดีที่ป.ป.ช.พิจารณาชี้มูลไปนั้นเป็นคดีอาญา ส่วนเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องทางแพ่ง เราคงไปก้าวล่วงไม่ได้ และในทางอาญาคดีก็ยังอยู่ระหว่างพิจารณาฟ้องต่อศาล ยังไม่ได้ถึงที่สุดในชั้นการพิจารณาของศาลเลย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) 'สุสานหิน' ยุคราชวงศ์ฮั่น โบราณสถานล้ำค่าในซานตง
วธ. รับมอบพระพุทธรูปปางบำเพ็ญทุกรกิริยาจำลอง จากรัฐบาลสาธารณรัฐอิสลามปากีสถาน
วธ. เดินหน้าจัดตั้ง-รับรองวัดคาทอลิกแห่งใหม่ หนุนศาสนสถานเข้าระบบอย่างถูกต้อง โปร่งใส
วธ.ลุยอีสาน! "ศิลปินสร้างศิลปิน" ขยายผลภูมิปัญญาศิลปินสู่การพัฒนาอาชีพ ระดับภูมิภาค 70 พรรษา สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า พร้อมโชว์ “สานศิลป์ถิ่นอีสาน” ถ่ายทอดศิลป์สู่อาชีพ
ร้องสื่อฯ ที่ดิน รังวัดแนวเขตที่ดิน เนื้อที่ไม่ครบตามคำสั่งศาล จาก 9 ไร่ เหลือ 8 ไร่ 2 งาน
"กฟภ." ยันไม่ได้ขายไฟฟ้าให้กัมพูชาแล้ว 9 จุด ย้ำพร้อมดำเนินการตามสมช.ถ้าเขมรไม่จำเป็นซื้อไฟฟ้าไทย พร้อมยกเลิกสัญญา

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​