ข่าวที่น่าสนใจ
ล่าสุดวันนี้ นายณฐพร เปิดเผยกับทีมข่าวท็อปนิวส์ว่า วันนี้ศาลอาญาได้นัดฟังคำพิพากษา ซึ่งผลปรากฏว่าศาลได้พิพากษายกฟ้อง เพราะสิ่งที่ตนร้องต่อ กกต.เป็นข้อเท็จจริง ศาลรัฐธรรมนูญก็มีคำตัดสินว่าพรรคก้าวไกลมีความผิด ฉะนั้นการกระทำของตนในฐานะจำเลยจึงไม่เป็นความผิด ถือว่าเอาข้อเท็จจริงมาเพื่อให้พิจารณา และพรรคก้าวไกลไม่สามารถอุทธรณ์ได้แล้ว เพราะพรรคได้ถูกยุบไปแล้ว ทั้งนี้คนที่จะซวยคือ กกต.ที่ไม่รับพิจารณาคำร้องของตน เนื่องจากหลังจากนี้ตนจะดำเนินคดีกับ กกต.
สำหรับที่มาที่ไปของคดีนี้มาจากการที่ ศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำวินิจฉัย ให้กรณีการชุมนุม “ธรรมศาสตร์จะไม่ทน” เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม2563 เป็นการกระทำที่เป็นการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ต่อมานายณฐพร จึงได้ยื่นคำร้องต่อประธาน กกต.ขอให้พิจารณากรณีพรรคก้าวไกล กระทำผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วย พรรคการเมือง พ.ศ. 2560 มาตรา 45 และมาตรา 92 (2) (3) เพราะเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองฯใน 10 ประเด็น อาทิ
-กรณีนายพิธา ลิ้มเจริญ์รัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลในขณะนั้นและ สส.ของพรรค รวม 17 คน เข้าร่วมชุมนุมบริเวณมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ และท้องสนามหลวง
-นายพิธา และ นางสาวเบญจา แสงจันทร์ ยื่นขอประกันตัวนายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ “ไผ่ ดาวดิน” แกนนำ “คณะราษฎรปลดแอกอีสาน” ซึ่งถูกจับกุมในเหตุการณ์ชุมนุมบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย
– วันที่ 2 มกราคม 2564 นางอมรรัตน์ใช้ตำแหน่งหน้าที่ประกันตัวผู้ต้องหาคดีอาญามาตรา 112 ที่ศาลตลิ่งชัน
-วันที่ 26 มกราคม 2564 นายพิธาให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่าพรรคก้าวไกล มีมติให้แก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112
แต่ต่อมา กกต.ได้มีมติยุติพิจารณาสั่งยุบพรรคก้าวไกลตามคำร้องของนายณฐพร เพราะเห็นว่าการกระทำยังไม่เข้าข่ายเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
