บช.ก.ส่งสำนวน “ดิไอคอน” ล็อตแรกถึงมือดีเอสไอ ขยายเวลาทำสำนวน รวมเป็น 84 วัน

ตำรวจสอบสวนกลาง ส่งสำนวน "ดิไอคอน" ล็อตแรกให้ดีเอสไอ ผู้เสียหายกว่า 1000 คน ขยายเวลาทำสำนวนจาก 48 วัน เป็น 84 วัน หลังพบเป็นความผิดตาม พ.ร.ก.กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ซึ่งเป็นมูลฐานฟอกเงิน

บช.ก.ส่งสำนวน “ดิไอคอน” ล็อตแรกถึงมือดีเอสไอ ขยายเวลาทำสำนวน รวมเป็น 84 วัน – Top News รายงาน

บช.ก.

เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2567 พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ บก.ปคบ. ทยอยขนสำนวนคดี “ดิ ไอคอน กรุ๊ป จำกัด” จำนวน 18 ลัง หรือ 156 แฟ้ม ซึ่งเป็นผู้เสียหายกว่า 1,000 คนแรกจากกว่า 3,400 คนที่เข้าแจ้งความกับตำรวจสอบสวนกลาง นำไปส่งมอบให้กับกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ เป็นล็อตแรก

เบื้องต้นพลตำรวจตรีสุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยว่า สำนวนที่ส่งมอบให้ดีเอสไอวันนี้ เป็นล็อตแรก และพนักงานสอบสวนก็กำลังเร่งรวบรวมเอกสารจัดใส่แฟ้ม เพื่อส่งมอบให้กับดีเอสไอเพิ่มเติมให้แล้วเสร็จโดยเร็วที่สุด โดยยืนยันว่าระหว่างนี้ผู้เสียหายยังสามารถเข้าแจ้งความกับตำรวจได้ทั่วประเทศ รวมถึงที่ศูนย์รับแจ้งความของกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง จนกว่าดีเอสไอจะรับเป็นคดีพิเศษอย่างเป็นทางการ และหากหลังจากนี้ดีเอสไอต้องการประสานให้ตำรวจช่วยรับแจ้งความจากประชาชน ทางตำรวจก็ยินดี

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

สำหรับสำนวนที่ส่งไปนั้น ยืนยันว่าไม่มีช่องโหว่ของกฎหมาย และคดีจะไม่เป็นสุญญากาศระหว่างการส่งมอบให้กับดีเอสไอ โดยเบื้องต้นคดีนี้เป็นความผิดหลายกรรม ผิดกฎหมายหลายบท จากเดิมที่ออกหมายจับคดีฉ้อโกงประชาชน แต่เมื่อสอบสวนขยายผลพบว่าเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.ก.กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ก็ทำให้ระยะการสอบสวนขยายจากเดิม 48 วัน(4ฝาก) เป็น 84 วัน(7ฝาก) ตามระยะเวลาฝากขังผู้ต้องหา และส่งเมื่อส่งไปให้ดีเอสไอ ก็จะไปรวมกับสำนวนฟอกเงินที่ดีเอสไอดำเนินการ ทำให้ดีเอสไอมีเวลารวบรวพยานหลักฐานมากขึ้น และหากดีเอสไอขยายผลตรวจสอบแล้วพบว่าเข้าข่ายความผิดอื่นๆ อีก ก็สามารถแจ้งข้อหาเพิ่มเติมได้

 

ส่วนของกลางในคดีที่ตรวจยึดได้ก็จะส่งมอบให้กับดีเอสไอดำเนินการเช่นกัน แต่ก็จะมีบางส่วนที่เป็นทรัพย์ที่ทาง ปปง. ตรวจสอบแล้วเกี่ยวข้องกับการฟอกเงิน ก็จะต้องส่งให้ ปปง. แยกกันดำเนินการ

ส่วนกรณีที่ทนายของกลุ่มผู้ต้องหาจะไปแจ้งความกับดีเอสไอ ว่า มีแม่ข่ายมีพฤติกรรมที่เข้าข่ายเป็นผู้ต้องหา แต่แฝงตัวไปแจ้งความเป็นผู้เสียหายนั้น ทางตำรวจจะรอดูก่อนว่าดีเอสไอจะรับเป็นคดีพิเศษหรือไม่ หากไม่รับ และเป็นอำนาจของตำรวจ ก็พร้อมรับดำเนินการ

 

       

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

“นิพนธ์” ปัดร่วมก่อตั้งพรรคใหม่ ยันคงเป็นสมาชิกปชป. ทำงานร่วมเครือข่ายพัฒนาภาคใต้ เว้นถ้าอนาคตอุดมการณ์พรรคเปลี่ยนไป
มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัดมอบทุนการศึกษา
"แพทองธาร" โต้ข่าวส่งวัตถุโบราณคืนเขมร ยันไม่จริง จ่อเอาผิดคนปล่อยเฟกนิวส์
"หมอวรงค์-หมอตุลย์" คาใจขั้นตอนส่งตัว "ทักษิณ" ไม่ปกติ แพทย์เวรเลือกไปรพ.ตร. ใช้เวลา 2 ชม. ทั้งๆอ้างเหตุฉุกเฉิน
"ภูมิธรรม" มั่นใจนายกฯหยุดปฏิบัติหน้าที่ ไม่ทำขรก.เกียร์ว่าง รัฐมนตรีพร้อมทำงานเต็มที่
"ส.ป.ก.นครสวรรค์" ชูต้นแบบเกษตรกรรมยั่งยืน รณรงค์หยุดการเผาในที่โล่ง แก้ปัญหา PM 2.5 อย่างยั่งยืน
"ทนายทักษิณ" ขอศาลออกข้อกำหนด งดเผยแพร่คำเบิกความ คดีชั้น 14 อ้างกลัวถูกนำสร้างความสับสน
ผู้ว่าฯหนองบัวลำภู ชวนปชช.-นักท่องเที่ยว ร่วมชม ชิม ช้อป สัมผัสมนต์เสน่ห์อีสานขนานแท้ ในงาน “เปิดบ้าน เปิดเมือง เกษตรแฟร์ ของดีเมืองลุ่มภู” 16-20 ก.ค.นี้
รวบหนุ่มจีนอ้างเป็นเหยื่อแก๊งคอลฯ
"ปภ.เชียงราย" แจ้ง ระดับ "แม่น้ำสาย" เพิ่มสูง เตือนปชช. เฝ้าระวังน้ำท่วม แนะเก็บของขึ้นที่สูง

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น