“ผู้เสียหาย” ยื่นคัดค้านประกันตัว “18 บอส” ผู้ต้องหาดิไอคอน กรุ๊ป หวั่นไปยุ่งพยานหลักฐาน-ทรัพย์สิน

"ผู้เสียหาย" ยื่นคัดค้านประกันตัว "18 บอส" ผู้ต้องหาดิไอคอน กรุ๊ป หวั่นไปยุ่งพยานหลักฐาน-ทรัพย์สิน

ภายหลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค(บก.ปคบ.) ได้ควบคุมตัว 17 ผู้ต้องหาคดี ดิไอคอนกรุ๊ป จาก กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) ส่งตัวมายื่นฝากขังที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ล่าสุด วันนี้ (17 ต.ค.67) เวลา 15.49 น. รถตู้ที่ผู้ต้องหาทั้ง 17 คนนั่งมา ทั้ง 4 คัน ได้เดินทางมาถึงศาลอาญา โดยมีรถเจ้าหน้าที่ตำรวจ นำหน้าและปิดท้ายขบวน

 

 

ขณะที่ บอสพอล เจ้าหน้าที่ยังไม่ได้ควบคุมตัวมายื่นฝากขังต่อศาล เนื่องจากทางพนักงานสอบสวน ยังดำเนินการสอบปากคำไม่แล้วเสร็จ เพราะเป็นเจ้าของกิจการมีประเด็นที่เจ้าหน้าที่ต้องสอบสวนมาก ซึ่งเจ้าหน้าที่จะยื่นฝากขังบอสพอลในวันพรุ่งนี้ (18 ตุลาคม)

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ด้านนายรภัสสิทธิ์ ภัทรสิริชัยสิน รองประธานมูลนิธิทวงคืนความยุติธรรมในสังคม และนายชาญชัย ฉายบุ ที่ปรึกษามูลนิธิทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พร้อมด้วยตัวแทนผู้เสียหายเดินทางมายื่นคำร้องขอคัดค้านการประกันตัวที่ศาลอาญา รัชดาภิเษกด้วย โดยนายรภัสสิทธิ์ กล่าวถึงการมายื่นคำร้องขอคัดค้านการประกันตัวเนื่องจากมองว่า คดีนี้สร้างความเสียหายให้กับสังคมเป็นจำนวนมาก และมีมูลค่าความเสียหายเป็นจำนวนมากเช่นกัน รวมไปถึงยังสร้างความเดือดร้อนส่งผลกระทบภาพรวมไปทั้งประเทศ ตอนนี้ผู้เสียหายของกลุ่มตนมีจำนวนร้อยกว่าคน บางคนอยู่ต่างจังหวัด เกรงว่าหากผู้ต้องหาถูกปล่อยตัวมาแล้วจะไปประสานกับเทวดาตามที่มีกระแสข่าว

 

 

 

นายรภัสสิทธิ์ ยังกล่าวด้วยว่า ประเด็นดังกล่าวนี้ถูกทำเรื่องตรวจสอบไปตั้งแต่ปี 2561 แต่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกลับเงียบไม่มีการตรวจสอบ ถึงตั้งข้อสังเกตว่าเหตุผลอะไรที่ภาครัฐจึงไม่นำประเด็นนี้ขึ้นมาพิจารณา และเชื่อว่าหากมีการดำเนินการในเรื่องนี้ ก็คงไม่เกิดเหตุการณ์คนคิดสั้นฆ่าตัวตายหรือคนที่หมดเนื้อหมดตัว ตนก็อยากให้มีการสาวไปถึงตัวเทวดาที่แท้จริง อยากรู้ว่าเทวดาตามที่มีการกล่าวอ้างนั้นคือใคร และยังประทานพรได้อยู่หรือไม่ ส่วนตัวเชื่อมั่นในการทำงานของ ผบ.ตร. เพราะทางมูลนิธิได้มีการประสานงานกันอย่างต่อเนื่อง

 

 

 

นายชาญชัย ฉายบุ ที่ปรึกษามูลนิธิทวงคืนความยุติธรรมในสังคม กล่าวเสริมในเรื่องของกฎหมายว่า ตาม ป.วิอาญาตามมาตรา 87 วรรค 3 พนักงานสอบสวนก็จะมีอำนาจควบคุมไว้ 48 ชั่วโมง และได้ขออำนาจฝากขังนำทั้ง 18 ราย โดยคดีนี้มีโทษอัตราสูงกว่า 6 เดือน แต่ไม่เกิน 10 ปี เพราะผู้ต้องหาที่โดนหมายจับทั้ง 18 รายตามข้อหาฉ้อโกงประชาชน ซึ่งมีโทษจำคุกอย่างน้อย 5 ปี และตามข้อหานำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จ ตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ในมาตรา 64 (1) ซึ่งมีอัตราโทษสูงสุดไม่เกิน 5 ปี ดังนั้นต้องมาขออำนาจศาล ซึ่งทางมูลนิธิฯ เกรงว่าทนายของผู้ต้องหาทั้ง 18 ราย จะมายื่นขอปล่อยตรวจชั่วคราว ทางเราจึงต้องนำตัวแทนของผู้เสียหายมาทำการยื่นคันคัดค้านคำร้องในวันนี้

 

 

ด้านผู้เสียหาย กล่าวว่าตนในฐานะเป็นตัวแทนของกลุ่มผู้เสียหายมีความต้องการที่จะเดินทางมายื่นคำร้องคัดค้านการประกันตัวเนื่องจากมีความกังวลใจว่ากลุ่มผู้ต้องหาจะได้รับการประกันตัวและ เข้าไปวุ่นวายกับพยานหลักฐานและทรัพย์สินทั้งหมด เพราะผู้เสียหายมีทรัพย์สินเยอะ อยากให้เอาทรัพย์สินมาเฉลี่ยคืนให้กับผู้เสียหายทั้งหมด ส่วนตัวนั้นเสียหายไปกว่า 250,000 บาทได้เปิดบิลดีลเลอร์ในการกระจายสินค้า สู้ได้รับความเดือดร้อนมากไม่สามารถที่จะนำสินค้าไปขายได้ ที่ผ่านมาตนไม่สามารถที่จะไปปรึกษาหรือพูดคุยกับใครได้ แต่เคยพูดกับแม่ทีมไปแล้วเขาก็ยังดื้อดึงที่จะทำกันต่อ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"ภูมิธรรม" ลั่นยึดกม.ดำเนินคดี "ดร.พอล" ตอบสื่ออย่าคาดเดา ไทยจะยกผิดให้แลกเจรจาภาษีสหรัฐ
"ผู้ว่าฯ สมุทรสาคร" นำกำลังจนท.บุกทลาย "เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์" เมืองมหาชัย ให้บริการเฉพาะแรงงานพม่า เปิดเสรีอัพยาเสพติด
พระราม 2 อีกแล้ว! ก้อนปูนทางด่วนร่วงใส่รถ กระจกแตกยับ คนขับเจ็บหนัก
"อัษฎางค์" ชี้ชัด พฤติกรรม "กมธ.การทหาร" ใช้อำนาจ ป้องคดี 112 เข้าข่ายละเมิดกม.จริยธรรมอย่างร้ายแรง
(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) แพนด้ายักษ์ 'เม่ยจู' เอนกายพักใจสบายอุราที่สวนสัตว์จีน
(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) BYD เปิดตัว 'เรือขนส่งยานยนต์' ใหญ่สุดในโลก
(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) ไทยติดโผเที่ยว 'เซี่ยงไฮ้' มากสุดในไตรมาสแรกปี 2568
นาทีระทึก ไฟไหม้ร้านเหล้าดัง กลางเมืองภูเก็ต จนท.ช่วยดับเพลิงอลหม่าน เร่งตรวจสอบความเสียหาย
ตร.รวบจีนเทาเช่าโกดังเก็บไส้หมูหมัก สภาพสุดโทรม ส่งกลิ่นเหม็น เตรียมส่งขายทั่วไทย ยึดของกลางรวมกว่า 10 ล้านบาท
"อุตุฯ" เตือน 46 จังหวัด รับมือพายุฝนฟ้าคะนอง กทม.ก็ไม่รอด

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น