“อ๊อฟ ศุภณัฐ” พร้อมแม่ เข้าแจ้งความ “ดิ ไอคอน” ทำครอบครัวสูญนับ 1 ล้านบาท ยันเป็นผู้เสียหาย ไม่ใช่แม่ข่าย

“อ๊อฟ ศุภณัฐ” พร้อมแม่ ตัดสินใจแจ้งความ ผู้บริหารดิไอคอน ทำครอบครัวสูญนับ 1 ล้านบาท ยืนยันตนเองและครอบครัวเป็นผู้เสียหาย ไม่ใช่แม่ข่าย ยอมรับเคยเจอบอสพอล เพราะแม่ชวนถ่ายรูปคู่

“อ๊อฟ ศุภณัฐ” พร้อมแม่ เข้าแจ้งความ “ดิ ไอคอน” ทำครอบครัวสูญนับ 1 ล้านบาท ยันเป็นผู้เสียหาย ไม่ใช่แม่ข่าย – Top News รายงาน

เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2567 เวลา 10.30 น.  อ๊อฟ ศุภณัฐ เฉลิมชัยเจริญกิจ นักร้องนักแสดง พร้อมแม่ เดินทางมายังกองบังคับการปราบปราม หอบหลักฐานเข้าแจ้งความในฐานะผู้เสียหาย พร้อมเปิดเผยว่า

วันนี้ตนเองและแม่นำหลักฐานแล้วแจ้งความในฐานะผู้เสียหาย ซึ่งก่อนหน้านี้ก็ได้มาไปแล้วหนึ่งครั้ง แต่ยังไม่ได้เข้าพบพนักงานสอบสวนเนื่องจากมีผู้เสียหายที่เข้าแจ้งความเป็นจำนวนมาก คิวยาว จึงกลับไปก่อน

ซึ่งหลังจากที่ทราบข่าวว่ามีผู้ต้องหาจำนวน 18 รายนั้น ตนเองยอมรับว่าตกใจ และเสียใจ ในมุมของคนที่อาจจะตกเป็นผู้กระทำความผิดแต่อาจจะไม่รู้ ส่วนคนที่รู้ก็ต้องยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้น

ข่าวที่น่าสนใจ

ส่วนตัวไม่ได้กังวล เพราะมั่นใจว่าไม่ได้ทำผิด และตนเองกับแม่ก็เป็นผู้เสียหาย ซึ่งเริ่มจากแม่ของตนเองเห็นจากการยิงแอดโฆษณาผ่านโซเชียล จึงตัดสินใจเข้าไปร่วมลงทุน จากนั้นมีการชักชวนตนเองและคนในครอบครัว เข้ามาร่วมลงทุนต่อเฉพาะของตนเองประมาณ 3 แสนบาท และแม่อีก 7 แสนบาท รวมทั้งของคนในครอบครัว มูลค่าความเสียหายนับ 1 ล้านบาท ขณะนี้ตนเอง และแม่เลิกทำธุรกิจดังกล่าวมาได้ประมาณ 1 ปีแล้ว

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ระหว่างแม่ข่ายกับผู้เสียหายมีเส้นบางๆกั้นอยู่ รู้สึกกังวลใจหรือไม่ นายอ๊อฟ ตอบว่า ตนเองไม่ได้กังวลใจเนื่องจากไม่ได้ชวนคนอื่นร่วมลงทุนเพราะส่วนใหญ่จะเป็นคนในครอบครัว ซึ่งทุกคนเห็นใจ และสมัครใจเข้ามาร่วมลงทุนกัน ซึ่งตนเองยืนยันความบริสุทธิ์ใจ ไม่กังวล

 

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า หลังจากที่เข้าไปเป็นสมาชิกของบริษัทแล้วมีกลุ่มบอสดาราเข้ามาชักชวนในการทำธุรกิจหรือไม่ นายอ๊อฟตอบว่า คนในวงการไม่มีใครรู้ว่าตนเองเข้าไปร่วมลงทุนกับธุรกิจนี้  แล้วที่เห็นก็เป็นทางฝั่งของแม่ที่เห็นผ่านแอดโฆษณา และในช่วงนั้นงานในวงการบันเทิงของตนเองน้อย จึงตัดสินใจเข้าร่วมธุรกิจ

ส่วนก่อนหน้านี้ที่มีคนเข้าใจผิดเพราะในรายชื่อผู้ต้องหา มีชื่อ “บอสอ๊อฟ” และ “บอสจอย” ซึ่งหลังจากจับกุมตัวได้นั้นตนเองก็โล่งใจ ที่ประชาชนได้เห็นว่าเป็นคนละคนกัน

ทั้งนี้ ตนเองยอมรับว่าในขณะที่ร่วมธุรกิจกับบริษัทดิไอคอน เคยได้เจอกับบอสพอล ซึ่งในครั้งนั้นตนเองไปรับแม่ที่งานประชุมของบริษัท จากนั้นแม่เป็นคนขอให้ตนเองลงจากรถโดยบอกว่า “แม่อยากถ่ายรูปกับคนที่แม่รักทั้งสองคน” ซึ่งในตอนนั้นตนเองไม่ทราบว่าบุคคลอีกคนนั้น คือบอสพอล

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ขนลุก! มูลนิธิร่วมกตัญญู จัดโต๊ะจีนเชิญดวงวิญญาณตึกสตง.ถล่ม "หนุ่มกู้ภัย" ร้องลั่น "หิว ช่วยด้วย"
"เอกสิทธิ์" เผยมาตรฐาน-คุณภาพภาคอสังหาริมทรัพย์ ปัจจัยสำคัญสร้างเชื่อมั่นความปลอดภัย รองรับพิบัติภัยในอนาคต
"รมว.ท่องเที่ยว" ระดมภาครัฐ-เอกชน ถกปัญหาความปลอดภัย ฟื้นภาพลักษณ์เที่ยวไทย หลังเจอกระแสข่าวด้านลบ
นาทีชีวิต! ส่งเฮลิคอปเตอร์ EC-725 ช่วยผู้ป่วยวิกฤต ส่งถึงมือแพทย์ได้ทันเวลา
วธ. จัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์ถวายพระกุศล "เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ" วันคล้ายวันประสูติ
"สก.นภาพล" ซัดกระทู้ถาม "กทม." เมื่อไหร่จะจ่ายคืนหนี้ BTS ย้ำดอกเบี้ยเพิ่มวันละ 4.5 ล้าน แฉฟาดรายได้ค่าโดยสาร 3 เดือน กว่า 2 พันล้าน แต่ให้เอกชนแบกภาระวิ่งรถไฟฟ้า
จีนสั่งยกเว้นภาษีสินค้านำเข้าบางประเภทจากสหรัฐ
"รองผอ." คดีฮั้วประมูล เผย "3 วิศวกร" รับลงชื่อตรวจงานสร้างตึกสตง.จริง เร่งสอบลายมืออีก 7 ราย ยังปฏิเสธ
"นายกฯ" รับมอบเงิน 5 ล้าน มูลนิธิเรนวูด ช่วยผู้ได้รับผลกระทบแผ่นดินไหว
"อดีตผู้พิพากษา" ชี้ตรง ป.ป.ช.-อสส.ไม่ทำหน้าที่โจทก์ เหตุศาลฎีกาฯ ต้องออกโรงไต่สวนเอง "ทักษิณ"ไม่ติดคุกจริงตามคำพิพากษา

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น