ตร.จ่อออกหมายจับบอสและดารา ‘ดิ ไอคอน’ พัวพันธุรกิจขายตรง ส่งบัญชีธนาคารให้ปปง.ตรวจสอบแล้ว

ตร.ปคบ. เร่งรวบรวมพยานหลักฐาน ออกหมายจับกลุ่มผู้บริหาร-ดารา “ดิไอคอนกรุ๊ป”พัวพัน ธุรกิจขายตรง พร้อมส่งบัญชีธนาคาร กว่า 120 บัญชี ของ กลุ่มบอส, กลุ่มดาราและดาวน์ไลน์ ให้ ปปง.ตรวจสอบ เล็งยึดอายัดทรัพย์สิน เฉลี่ยคืนให้ผู้เสียหาย

ตร.จ่อออกหมายจับบอสและดารา ‘ดิ ไอคอน’ พัวพันธุรกิจขายตรง ส่งบัญชีธนาคารให้ปปง.ตรวจสอบแล้ว

 

ข่าวที่น่าสนใจ

11 ต.ค.2567 พ.ต.อ. อุเทน นุ้ยพิน รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ออกมาให้สัมภาษณ์ หลังกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค และ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ร่วมกันเข้าตรวจค้น โกดังของ the icon group เพื่อตรวจสอบผลิตภัณฑ์ของบริษัท ที่มีเพียง 15 รายการ แต่กลับพบว่า ทำรายได้ให้บริษัทไม่ต่ำกว่า 5 พันล้านบาท รวมถึงหาข้อมูลทางธุรกิจว่า ได้รับอนุญาตจาก สคบ. เป็นไปตามมาตรฐานหรือไม่ และค้นหาข้อมูลการทำธุรกิจทั้งหมด ว่า มีสต๊อกสินค้าให้ประชาชนนำไปขาย หรือเป็นการหลอกอ้างว่า มีผลิตภัณฑ์แล้วให้นำเงินมาลงทุนกันแน่

วันนี้ได้ส่งสมุดบัญชีธนาคาร จำนวนกว่า 120 บัญชี ให้ ปปง. ตรวจสอบเส้นทางการเงิน ซึ่งจะเป็นบัญชีตั้งแต่กลุ่มลูกข่ายดาวน์ไลน์ ดารานักแสดง และผู้บริหาร ไปตรวจสอบ ว่า มีความเชื่อมโยงอย่างไรและเข้าข่ายการฟอกเงินหรือไม่

 

 

พ.ต.อ. อุเทน ระบุว่า ตอนนี้ตำรวจและหน่วยงานเกี่ยวข้องทำงานกันตลอดแบบชั่วโมงต่อชั่วโมง เพื่อที่จะรวบรวมพยานหลักฐาน ให้เสร็จสิ้นภายใน 48 ชั่วโมง เพื่อที่เสนอศาลออกหมายจับผู้เกี่ยวข้อง โดยพฤติกรรมเข้าข่ายความผิดซึ่งมีโทษเกิน 3 ปี เจ้าหน้าที่จึงสามารถออกหมายจับได้เลยทันทีโดยไม่ต้องออกหมายเรียกก่อน และหมายจับที่ออกอาจจะเป็นกลุ่มผู้บริหารหรือดาราที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ซึ่งพบว่าพฤติกรรม เข้าองค์ประกอบ กระทำความผิดตาม พ.ร.ก. การกู้ยืมเงิน ที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ซึ่งเป็นความผิดในมูลฐานฟอกเงิน และความผิดตาม พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์

ส่วนทรัพย์สินของ กลุ่ม the icon group ส่วนใหญ่เป็นทรัพย์สินขนาดใหญ่ เช่นอสังหาริมทรัพย์ ไม่สามารถยักย้าย หรือขายต่อได้อย่างรวดเร็ว ทำให้ตำรวจสามารถยึดอายัดมาเฉลี่ยทรัพย์คืนให้ผู้เสียหายได้ ซึ่งขั้นตอนการเฉลี่ยทรัพย์คืนให้ผู้เสียหายต้องเป็นไปตามขั้นตอนของ ปปง.

พ.ต.อ.อุเทน ระบุเพิ่มว่า การขายตรงสินค้าแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ ขายตรง คือการนำสินค้าไปขายให้กับผู้บริโภคโดยตรง อาจจะเป็นการเคาะหน้าบ้านหรือขายตามร้าน และอีกแบบคือ ขายตลาดตรง คือ การทำธุรกิจผ่านแพลตฟอร์มต่าง ๆ ไม่ใช่เป็นการเคาะประตู ซึ่งธุรกิจทั้ง 2 แบบสามารถทำให้ถูกกฎหมายตามข้อกำหนดของ สคบ. แต่ก็จะมีเส้นบาง ๆ ระหว่างธุรกิจตลาดตรงและแชร์ลูกโซ่ คือ ต้องตรวจสอบว่า วิธีจำหน่ายสินค้า เป็นการโปรโมทหรือการระดมทุน ซึ่งเมื่อไหร่ที่มีการระดมทุนจะเข้าข่ายความผิดแชร์ลูกโซ่ หรือ พ.ร.ก. กู้ยืมเงินอันเป็นการฉ้อโกงประชาชนเป็นความผิดตามมูลฐานการฟอกเงิน ส่วนที่ต้องมีการ รวบรวมผู้เสียหายให้ได้ 200 คนขึ้นไปนั้น มองว่า เป็นการรวบรวมผู้เสียหายให้เข้าหลักเกณฑ์ เพื่อให้กรมสอบสวนคดีพิเศษรับเป็นคดีพิเศษ

 

และล่าสุด มีผู้เสียหายเข้ามาแจ้งความร้องทุกข์ ตั้งแต่เมื่อวานและวันนี้จำนวน 161 คน มูลค่าความเสียหายกว่า 62 ล้านบาท และคาดว่าจะมีผู้เสียหายเข้ามาแจ้งความเพิ่มเกิน 200 คนแน่นอน โดยสามารถเข้ามาแจ้งความได้ที่กองบังคับการปราบปรามได้ตลอด 24 ชั่วโมง ไม่หยุดเสาร์-อาทิตย์ รวมถึงตำรวจก็ทำงานร่วมกันตลอดทั้ง บก.ปคบ สคบ. DSI และ สำนักงานเศรษฐกิจการคลังจากกระทรวงการคลัง และ ปปง.ในการทำคดีดังกล่าวโดยเฉพาะ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"ตำรวจ สภ.สัตหีบ" ใจฟู "หนุ่มใหญ่ใจบุญ" มอบทุนปรับปรุง "ตู้ยาม" เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชน
"นายกฯอิ๊งค์" ถวายสัตย์ปฏิญาณตน แล้ว ยิ้มตอบสื่อ พรุ่งนี้เริ่มทำงาน ก.วัฒนธรรม
ชาวบ้านล้อมจับโจรขโมย จยย. ผู้ก่อเหตุแกล้งเมา พูดไม่รู้เรื่อง
"ท็อปนิวส์" ขออภัยนำเสนอภาพและคลิปข่าว "โดรน JOUAV" ผิดพลาดคลาดเคลื่อน
เรือเฟอร์รี่อินโดนีเซียล่มใกล้เกาะบาหลี
โซเชียลสวดยับ “จิรัฏฐ์” เหยียด "สมาคมแม่บ้านทหารอากาศ" ลั่นแรง "อิพวกแม่บ้าน"
"หนุ่มวัย 28" ดับปริศนาคาโรงแรม กับงูเห่าในถุงผ้าที่มัดไว้
คืนเดียว 2 เคส หนุ่มไทยหนีตายจากแก๊งบัญชีม้า เล่าชะตากรรมสุดช้ำในกรุงปอยเปต
"ปตท." ครองบริษัทชั้นนำอันดับ 1 ในไทย ซ้ำได้อันดับ 2 ใน Southeast Asia ต่อเนื่อง 2 ปีซ้อน สะท้อนศักยภาพดำเนินงานเป็นเลิศในระดับสากล
"ปตท." จับมือ บีเอ็นพี พารีบาส์ ลงทุนตราสารหนี้ ESG หนุนภารกิจยั่งยืน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น